วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล บทที่ 21

บทที่ 21 - ดันเจี้ยนสามดาว

“ลูกพี่ ผมอยู่ทางนี้”
เช้าวันต่อมาซุงกูมารอตรงหน้าบ้านวูจินตามเวลาที่นัดหมายไว้
“รถใครน่ะ?”
“ของแม่ผมครับ เขาไม่ค่อยใช้เลยเป็นผมที่ใช้บ่อย”
วูจินพยักหน้ามองมาติสสีขาว ก็ดีกว่าไม่มีรถใช้ล่ะนะ
“ทำไมเปิดหน้าต่างไว้ล่ะ?”
“แอร์เสียครับ”
“...”
ใกล้จะหมดฤดูร้อนแล้ว ตอนเช้าอากาศจึงค่อนข้างเย็น ถึงไม่มีเครื่องปรับอากาศก็ไม่เป็นไร
วูจินเอียงคออย่างสงสัยมองซุงกูที่กำลังคาดเข็มขัดนิรภัย
“วันนี้เป็นวันแรกของการเป็นทาสแท้ๆแต่ทำไมนายอารมณ์ดีนัก?”
“ฮะๆๆ ทาสก็มีหลายระดับไม่ใช่เหรอครับ?”
วูจินยิ้มแล้วถาม
“นายบอกว่าวันนี้เราจะลงดันสามดาวใช่ไหม?”
“ครับ”
“ดันนั่นมีตัวอะไร?”
“ราควิครับ”
ราควิก็คือแมลงสาปยักษ์ดีๆนี่เอง ไม่ใช่ว่ามันมีโอกาสตกบลัดสโตนดีกว่ามอนสเตอร์ชนิดอื่น แต่ในดันเจี้ยนนี้มีราควิอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นที่นี่จึงมีบลัดสโตนมากตาม
ซุงกูอธิบายถึงดันเจี้ยนแห่งนี้คร่าวๆระหว่างขับรถ
“สถานีเมบงทางออกที่สามจำกัดจำนวนสูงสุดคือปาร์ตี้สิบคน ส่วนค่าเข้าก็ 300,000 วอนครับ
“แพงชิบ”
ถ้าจะเข้าคนเดียวก็ต้องจ่ายค่าเข้า 3,000,000 วอน
“ช่วยไม่ได้น่ะครับ อีกอย่าง พวกราควิมีเยอะมากแล้วรีเทิร์นสโตนก็ไม่ตกจนกว่าพวกมันจะถูกฆ่าหมด ปกติจะใช้เวลาเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ 2 ชั่วโมง ถ้าดวงไม่ดีก็ 3 ชั่วโมง”
วูจินพยักหน้า
“นายหาดันเจี้ยนได้ตรงตามที่ฉันสั่งเป๊ะ”
สถานีเมบงทางออกที่สามถูกเลือกเป็นเป้าหมายถัดไปของพวกเขา แต่ไม่ใช่ซุงกูเป็นคนคิด วูจินสั่งให้เขาหาดันเจี้ยนที่เงื่อนไขตรงกับข้อๆหนึ่ง
ต้องมีมอนสเตอร์จำนวนมหาศาล
ซุงกูถูกบอกให้หาดันเจี้ยนโดยยึดจากจำนวนมอนสเตอร์ที่ถูกเรียกออกมาแทนที่จะเป็นจำนวนเงินที่ทำได้ เขาแปลกใจแต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างแข็งขัน ในดันเจี้ยนสามดาวด้วยกัน ดันเจี้ยนนี้เรียกมอนสเตอร์ออกมามากที่สุด
รถบนถนนเทียบกับในความทรงจำของวูจินแล้วน้อยกว่ามาก ทำให้เขานึกถึงถนนในช่วงวันหยุดยาว (TN-ประมาณถนนกรุงเทพช่วงสงกรานต์)
ในโซล ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดในห้าปีมานี้คือสถานีรถไฟใต้ดิน มันเคยเป็นสิ่งที่พาผู้คนไปทำงาน ตอนนี้มันกลายเป็นที่ทำงาน ธุรกิจเกี่ยวกับดันเจี้ยนสร้างเงินสร้างรายได้มากที่สุดในโซล
“ขนาดค่าที่จอดรถยังโคตรแพง”
ซุงกูหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินวูจินบ่น
“ผมว่าลูกพี่คงแปลกใจสุดๆถ้าตอนตีดันเจี้ยนนี่เสร็จแล้วมาบวกลบบัญชีดู ดันเจี้ยนสองกับสามดาวนี่ต่างกันมากครับ”
“อืม เดี๋ยวก็รู้”
สำหรับวูจินแล้วเงินสำคัญ เขาต้องมีบ้านหลังใหญ่เพื่อจะได้อยู่กับครอบครัว อย่างน้อยเขาอยากได้ห้องส่วนตัวเพื่อให้หลับได้โดยไม่ต้องกังวล
ที่นี่เป็นดันเจี้ยนที่ให้เงินดี ดังนั้นค่าเข้าจึงแพงและมีคนต่อแถวรออยู่หลายคน มีแต่ดันเจี้ยน 4 ดาวขึ้นไปเท่านั้นจึงจะจองล่วงหน้าได้
ดันเจี้ยนสี่ดาวยังห้ามไม่ให้เราส์ที่ต่ำกว่าแรงค์ D เข้า และถึงจะเข้าไปได้แต่เราส์แรงค์ D ก็ไม่มีโอกาสเป็นหัวหน้าทีม
ดันเจี้ยนตั้งแต่สามดาวลงมาไม่มีข้อห้ามไม่ต้องจอง ใครมาก่อนก็เข้าไปก่อน
ดังนั้นเวลาที่ใช้ในการต่อแถวจึงมากกว่าเมื่อเทียบกับดันเจี้ยนหนึ่งหรือสองดาว แต่การเข้าดันเจี้ยนสามดาวครั้งนี้ไม่เป็นอย่างที่ว่า เพราะพวกวูจินมากันแต่เช้า เพิ่งจะมีทีมมาต่อคิวรอก่อนหน้าพวกเขาเพียงสองทีม
ถ้าทั้งสองทีมใช้เวลาในการเคลียร์ดันเจี้ยนสองชั่วโมง พวกวูจินก็ต้องรอสี่ชั่วโมง
“ลูกพี่ไปนั่งพักในคาเฟ่ก่อนค่อยกลับมาก็ได้นะครับ”
หน้าที่หลักอีกอย่างของผู้จัดการคือการต่อแถวแทนเราส์ วูจินมองรอบๆและเห็นคาเฟ่กับสิ่งก่อสร้างสำหรับอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทำเอาเขาสงสัยว่ารอบๆสถานีรถไฟใต้ดินนี่อันตรายจริงๆหรือ
ดูเหมือนที่อยู่อาศัยจะย้ายไปห่างๆแต่ร้านค้ายิ่งใกล้สถานีรถไฟจะยิ่งขายได้มากกว่า
อีกอย่าง ดันเจี้ยนเปิดตลอด พวกเราส์มาเคลียร์ดันเจี้ยนกันทั้งวันทั้งคืน แน่นอนว่าบริเวณที่มีคนมาอยู่รวมกันเยอะๆจะต้องขายดี
“ไม่เป็นไร ฉันจะรอกับนาย”
“ผมปลื้มเลยครับลูกพี่”
ซุงกูเยินยออย่างไม่ต้องหยุดคิด เขายังศึกษาเรื่องนี้มาเยอะเลยพูดถึงเราส์ สังคมของเราส์และดันเจี้ยนประเภทต่างๆอย่างไหลลื่น เขาไม่อยากให้วูจินเบื่อ
ฟิ้ว ฟิ้ว ปังย่า!
วูจินรู้แล้วว่าทำไมเครซี่เรดถึงเป็นที่นิยมในหมู่เราส์นัก เรื่องความทนทานไม่ต้องพูดถึง แถมยังสามารถใช้งานติดต่อกันได้ถึงครึ่งเดือนไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเว่อร์เช่นนี้ทำให้ผู้ใช้ไม่เบื่อเวลาต้องรอนานๆ
วูจินรอ 5 ชั่วโมงจึงได้เข้าดันเจี้ยน เขาจ่ายค่าเข้าไปสิบสองล้านวอนสำหรับใช้ดันเจี้ยนแห่งนี้ 4 ชั่วโมง
ซุงกูมองวูจินแล้วโพสท่าสู้ตายอย่างแข็งขัน ชายกล้ามบึ้กอย่างเขาพยายามทำท่าแอ๊บแบ๊วเต็มที่ ผลคือวูจินมองเขาอย่างสะท้อนใจ
“ลูกพี่สู้ๆ!
“นายก็ต้องเข้าไปด้วยเจ้าบ้า”
“เอ๊ะ ผมด้วยเหรอ?”
“ไม่งั้นใครจะเป็นคนเก็บบลัดสโตน”
“ผมซึ้งสุดๆเลยครับลูกพี่”
ซุงกูตอบเซ็งๆแล้วรีบตามหลังวูจินไป
“นึกว่านายจงใจขอเป็นทาสเพราะจะได้ตามฉันลงดันเสียอีก”
“...”
วูจินหันกลับไปมองซุงกูเพราะไม่ได้ยินคำตอบ ซุงกูมีสีหน้าละอายใจ
“ลูกพี่คาดการณ์แม่นยำมากครับ”
ดูเหมือนซุงกูจะยอเขาจนชินแล้ว วูจินยิ้มเหยียด
“อย่ายอให้มากนัก แล้วก็เรียกฉันว่าพี่ก็พอ”
“ครับพี่”
ชีวิตคือการต่อสู้
ซุงกูผิดเองที่คิดมากไปนึกว่าตัวเองติดหนี้วูจินเป็นร้อยล้าน วูจินไม่เห็นว่าเขาต้องปฏิเสธสิ่งที่ซุงกูเสนอให้เขาไม่ใช่พ่อแม่ซุงกูเสียหน่อย
ได้เงินมาฟรีๆใครจะไม่เอา
แต่ถ้าซุงกูอยากมาอยู่ใต้อาณัติเขา วูจินก็จะคืนเงินให้ ในฐานะที่เขาเป็นถึงเนโครแมนเซอร์ขั้นเซียนอย่างน้อยความใจกว้างก็ยังมี
“ทำหน้าที่ของนายให้ดีๆ ฉันไม่ใช้งานนายฟรีๆแน่ ไว้เคลียร์ดันเจี้ยนนี่เสร็จนายก็เอาส่วนแบ่งไป 10%
ส่วนแบ่ง 9:1 ที่จริงแล้วไม่ยุติธรรมเลย แต่สีหน้าของซุงกูเต็มเปี่ยมด้วยความยินดี สำหรับเขาการเคลียร์ดันเจี้ยนสามดาวเป็นเรื่องยาก และต่อให้เป็นส่วนแบ่งแค่ 10% แต่ก็ยังมากกว่าที่เขาหาได้จากการเข้าดันเจี้ยนหนึ่งดาวไม่รู้กี่รอบ
“ขอบคุณมากครับพี่”
ซุงกูรู้สึกสำนึกขอบคุณจริงๆ
วูจินท่าทางอยากเข้าดันเจี้ยนคนเดียวมากกว่า แต่ดูเหมือนซุงกูจะสามารถไปกับเขาได้ในฐานะผู้จัดการ ซุงกูสามารถหาประสบการณ์จากดันเจี้ยนสามดาวและใช้พลังของตัวเองอย่างค่อนข้างปลอดภัย
เขาจะได้ฝึกฝน ความสามารถของเขาอาจพัฒนาขึ้น ซุงกูตั้งเป้าจะเป็นเราส์แรงค์สูงดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสดี
วูจินรู้แต่ก็ยอมให้หลอก ซุงกูจึงรู้สึกขอบคุณเขา
“ไปเถอะ เวลาเป็นเงินเป็นทอง”
“ครับ!
ซุงกูที่กลายเป็นทาสด้วยเงินเพียงสี่ล้านวอนรู้สึกสำนึกบุญคุณของวูจิน
***
เลเวลอัพ!
จังหวะที่วูจินได้เลเวลเพิ่มมาอีกเขาก็สะบัดศีรษะแรงๆ
“พวกมันมีเยอะเป็นบ้า”
บนพื้นมีซากศพของราควิกองสุมแน่นหนา เจ้าพวกนี้ถาโถมใส่ทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้ตัวพวกมัน พวกมันมีนิสัยใช้พวกมากเข้ารุม
ตั้งรับจนพวกมันตีไม่เข้า หรือไม่ก็ฆ่าก่อนที่พวกมันจะมารวมกันได้ วิธีจัดการกับราควิมีแค่สองอย่างนี้
วูจินใช้ทั้งสองวิธี
“กล้าสู้กับฉันเรื่องจำนวนงั้นเหรอ?”
“เคะๆๆๆ”
รุมมาเขาก็รุมกลับ
วูจินมีทหารโครงกระดูก 19 ตัวล้อมรอบ นี่เป็นเพราะทุกครั้งที่เขาอัพเลเวลเขาเอาแต้มที่ได้ไปเพิ่มค่าบงการ
วูจินใช้เวทย์ค้นหา เมื่อไหร่ที่จับพลังเวทย์ในซากศพของราควิได้เขาก็จะพ่นสเปรย์สีแดงเอาไว้ พวกมันมีมากจนต้องใช้เวลานานกว่าจะพ่นได้ครบ
ระหว่างนั้นซุงกูก็ลงบันไดมา
“ลูกพี่! ผมเก็บมาครบแล้วครับ”
ซุงกูลากถุงใบหนึ่งลงมาด้วย ตัวมีเหงื่อโชก ตั้งแต่เข้าดันเจี้ยนมาเขาไม่ได้ใช้ลูกไฟสักครั้ง ที่เขาทำมีแต่แงะบลัดสโตนออกจากศพราควิที่วูจินทิ้งไว้
วูจินทำสัญลักษณ์ไว้บนมอนสเตอร์ที่มีบลัดสโตนเท่านั้น เขาจึงไม่ต้องแงะเสียเที่ยว แต่มันก็ยังเยอะมากอยู่ดี
วูจินสังหารเร็วมากจนซุงกูตามไม่ทันทั้งๆที่เขามีหน้าที่แค่ตามเก็บบลัดสโตน
“อืม ทำได้ดีมาก เอาล่ะทีนี้ก็ตั้งใจทำต่อไป”
“เฮือก”
พอเห็นภาพสุดสยองที่วูจินทำไว้ที่ชั้นล่างสุดซุงกูก็สูดลมหายใจลึก แค่มองผ่านๆเขาก็เห็นศพเกินร้อย มีศพเกิน 60 ศพที่ถูกพ่นสี
เงินเท่าไหร่นี่
อัตราการดรอปของบลัดสโตนที่นี่ดันเจี้ยนสองดาวเทียบไม่ติดเลย ซุงกูวางถุงที่เต็มแล้วลงแล้วดึงถุงใหม่ออกมา
“งั้นฉันพักสักหน่อยแล้วกัน”
วูจินปลีกตัวออกจากกองซากศพมานั่งบนม้านั่งตัวหนึ่ง
รีเทิร์นสโตนอยู่ในราควิตัวสุดท้ายที่วูจินฆ่าไป ระหว่างรอซุงกูแงะหิน วูจินเปิดหน้าต่างสถานะและใส่แต้มที่ได้มาจากการอัพเลเวลลงกับค่าบงการ
ค่าบงการขึ้นถึง 24 เขาเรียกทหารโครงกระดูกออกมาได้อีก 5 ตัว
เลเวล 6 แล้ว
วูจินดูทักษะที่สามารถเรียนได้ตอนเลเวล 6 เขาสามารถเรียนเวทย์โจมตีระดับต่ำอย่างไฟกองเล็กๆหรือกระสุนน้ำ แต่อย่างอื่นเขาเรียนไม่ได้เพราะไม่ตรงกับอาชีพตัวเอง
วูจินซื้อเวทย์ระดับต่ำที่สำคัญๆทั้งหมด ราคาอยู่ระหว่าง 10 - 30 แต้มค่าความสำเร็จ เวทย์พวกนี้ใช้กับมอนสเตอร์ที่เขาจะเจอต่อไปไม่ได้ แต่เวทมนตร์ไม่ได้มีไว้ใช้สู้กับมอนสเตอร์อย่างเดียว มันใช้ทำอย่างอื่นได้ด้วย ดังนั้นเขาจึงเรียนมัน
อันนี้ใช้ 200 พ้อยท์
[เรียกจอมเวทย์โครงกระดูก]
[เงื่อนไข : เลเวล 10,เวทย์ 20]
ใช้ซากศพหรือโครงกระดูกเรียกจอมเวทย์โครงกระดูกค่าสถานะ [โจมตี 5 ความเร็ว 5 ร่างกาย 5 เวทย์ 5] ระยะยิงเพิ่มขึ้นเมื่อโจมตีเพิ่ม ความถี่ในการยิงเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วเพิ่ม ความแรงของเวทย์เพิ่มขึ้นเวทย์เพิ่ม
ใช้เวทย์ : 1 ใช้บงการ : 1
ราควิหนึ่งตัวให้ค่าความสำเร็จ 3 แต้ม ที่นี่มีราควิล้นหลามดังนั้นวูจินจึงมีค่าความสำเร็จให้ใช้เยอะมาก เขาซื้อหนังสือทักษะได้แต่ยังเรียนไม่ได้เพราะเลเวลไม่ถึง
ปกติจะไม่มีการเปลี่ยนอาชีพจนถึงเลเวล 9 ทักษะระดับต่ำจึงไม่มีการจำกัดอาชีพและซื้อได้โดยใช้ค่าความสำเร็จไม่มากนักเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อถึงเลเวล 10 จะมีการเปลี่ยนอาชีพ และทักษะส่วนมากก็แพงขึ้น
พอมาคิดดูฉันน่าจะเพิ่มสเตตัสตัวเองสักหน่อย
วิธีเพิ่มค่าสถานะมีหลายวิธี เมื่อเลเวลอัพก็จะได้โบนัสมาเพิ่มค่าสถานะ
นอกจากการเพิ่มเลเวลก็ยังมีอีกสองวิธี
หนึ่งคือฝึกฝนซ้ำๆ วิธีนี้ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยเพราะเทียบกับเวลาที่ใช้ไปแล้วค่าสถานะเพิ่มช้าเกินไป แต่ถ้าไม่หวังมากฝึกไปเรื่อยๆค่าสถานะก็จะเพิ่มขึ้นเอง
วิธีที่สองคือใช้ยา
มียาเพิ่มพลังที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะทั้งแบบชั่วคราวและถาวร
วูจินมองหาในร้านและเปลี่ยนความสำเร็จแล้วขมวดคิ้วเมื่อเจอ มียาที่เพิ่มค่าสถานะ +1 แต่มีราคาถึง 2000 แต้ม
แพงเกินไป แต่เขาเจออย่างอื่นอีก
สูตรยาเพิ่มพลัง
วัตถุดิบ : เอ็นออร์ค 3 เส้น,หางแดรบบิท 5 อัน,เขี้ยวหนู 2 ชิ้น
ผลลัพธ์ : โจมตี + 2
วูจินคิดว่าตัวเองทำได้ดีที่ใช้ค่าความสำเร็จ 150 แต้มซื้อสูตรนี้มา วิธีผสมก็ง่าย แค่ใช้ทักษะกล่องผสมของ
“เสร็จแล้วครับลูกพี่ ผมเจอรีเทิร์นสโตนแล้ว”
วูจินยิ้มเมื่อเห็นถุงใส่บลัดสโตนไว้จนเต็ม เทียบกับตอนดันเจี้ยนสองดาวแล้วบลัดสโตนที่นี่มีมากกว่าอย่างน้อยก็ 5 เท่า อีกอย่างซุงกูก็บอกไว้ว่าบลัดสโตนจะยิ่งเข้มข้นขึ้นและแพงขึ้นเมื่อระดับของดันเจี้ยนสูงขึ้น
“เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว?”
“27 นาทีครับ”
วูจินหัวเราะพลางยืนขึ้น
“เราจะวิ่งอีก 7 รอบ เก็บข้าวของแล้วรีบเข้า”
“ฮ้า ครับผม”
ทหารโครงกระดูกขยับมาใกล้พวกเขาแล้วหยิบถุงขึ้น พวกวูจินต้องการประหยัดเวลาดังนั้นจึงวิ่งตรงไปยังทางออก
เจ้าหน้าที่ประจำดันเจี้ยนประหลาดใจเมื่อเห็นพวกเขาออกมาก่อนเวลา
ตอนที่เราส์แรงค์ F สองคนนี้เข้าดันเจี้ยน 3 ดาวซึ่งเป็นดันเจี้ยนสำหรับปาร์ตี้ 10 คน เจ้าหน้าที่คิดว่าพวกเขาบ้าไปแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด
“ถึงพวกคุณจะเคลียร์เสร็จก่อนเวลาแต่เราไม่คืนเงินค่าเข้านะ”
วูจินหัวเราะหึ
“ฉันจะลงเรื่อยๆจนกว่าเวลาจะหมดเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง”
“อะไรนะ?”
“ฉันไม่มีเวลา อย่าถาม”
วูจินซุงกูวิ่งเอาถุงตรงไปยังร้านรับซื้อขายบลัดสโตนเพื่อเปลี่ยนเป็นเงิน
54,300,000 วอน
คำนวณคร่าวๆหนึ่งวันพวกเขาจะหาได้ 400,000,000 วอน ซุงกูได้ส่วนแบ่ง 10% เขาแทบไม่อยากเชื่อ
5,430,000
นี่เป็นเงินที่เขาหาได้ใน 30 นาที เท่ากับเข้าปาร์ตี้ปกติเคลียร์ดันเจี้ยน 3 ดาว เพียงแต่ซุงกูไม่เก่งพอจะเข้าดันเจี้ยนที่ว่าหรือแม้แต่ดันเจี้ยน 2 ดาว
“แจ็คพอตแตกครับลูกพี่”
“นายเรียกฉันว่าลูกพี่อีกแล้ว”
“ลูกพี่ยอดเกินไป ผมไม่กล้าเรียกว่าพี่เฉยๆ”
วูจินแค่นหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดเพี้ยนๆ
“ยังเหลืออีก 7 รอบ”
ถ้าเข้าไปอีก 7 รอบส่วนแบ่งของซุงกูก็จะประมาณ 40,000,000 วอน เขาเข้าดันเจี้ยนหนึ่งดาวอย่างแข็งขันมา 2 เดือนยังทำเงินได้แค่ 30,000,000
“วิ่ง”
“ครับ!
ซุงกูวูจินวิ่งตรงไปทางดันเจี้ยนอย่างว่องไว





6 ความคิดเห็น: