วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 23


บทที่ 23 - กิลด์แฮมเมอร์

จุงมินชานเป็นหัวหน้าทีมสนับสนุนที่สี่ของกิลด์แฮมเมอร์
ทีมสนับสนุนที่สี่รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนระดับสามดาวและต่ำลงมา และมีหน้าที่ฝึกฝนเราส์หน้าใหม่ที่เข้ากิลด์
เมื่อมาถึงที่ทำงานเขาจะชงกาแฟให้ตัวเองเสมอ จุงมินชานติดกาแฟ เขาจะเริ่มวันทำงานอย่างสบายอารมณ์ด้วยการดื่มกาแฟหนึ่งแก้วในห้องทำงานขนาดใหญ่ของเขา นี่เป็นกิจวัตรอันสำคัญและเป็นกิจวัตรที่เขาชอบ
ช่วงสามสิบนาทีนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเขา สมาชิกทีมคนอื่นจะไม่รบกวนนอกจากจะมีธุระสำคัญ
ตรู๊ดๆ
จุงมินชานกำลังบดเมล็ดกาแฟอยู่ตอนที่เสียงโทรศัพท์ดัง เขารับสาย
“จุงมินชาน หัวหน้าทีมสนับสนุนที่ 4 พูด”
[หัวหน้าทีม ผมเฮมินครับ]
คิมเฮมินเป็นหนึ่งในบรรดาฝ่ายจัดการที่ประจำอยู่ที่สถานีเมบองทางออกที่ 3 ดันเจี้ยนแห่งนี้ถูกกิลด์แฮมเมอร์พิชิตเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว
“อืม มีอะไร?”
[เช้านี้มีคนพวกหนึ่งมาที่ดันเจี้ยน จองเวลาไว้ 4 ชั่วโมง พวกนี้มีอะไรแปลกๆ]
“ตายเหรอ?”
เราส์ตายก่อนเวลาอันควรเมื่อเข้าดันเจี้ยนเป็นเรื่องปกติ
[เปล่า พวกนั้นเคลียร์ได้สบาย แต่เวลาที่ใช้เคลียร์มันแปลก ลงครั้งแรกใช้เวลา 30 นาที แต่ตอนนี้พวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนใน 11 นาทีแล้ว เอ้ย พวกเขาเพิ่งออกมาเมื่อกี๊ ใช้เวลา 9 นาที 47 วิ
[เฮะๆ ข้าชนะ จ่ายมา]
มินชานได้ยินเสียงแว่วมาจากอีกด้าน เขารู้ทันทีว่าเฮมินกำลังทำอะไร
“เฮ้ย ทำอะไรกันน่ะ”
[อ้อ พวกเราพนันกันว่าพวกนั้นจะเคลียร์ดันเจี้ยนได้ภายใน 10 นาทีหรือเปล่า อย่าสนเลย หัวหน้าไม่มาดูหน่อยเหรอ พวกนั้นว่าตัวเองอยู่แรงค์ F แต่ผมว่าสูงกว่านั้นชัวร์]
ผิดปกติจริงๆ เราส์แรงค์ F สองคนเคลียร์ดันเจี้ยนที่มีราควิยั้วเยี้ยภายใน 10 นาที
“อย่าอยู่ห่างจากโทรศัพท์ ไว้ฉันตรวจสอบเสร็จแล้วจะโทรกลับ ก่อนอื่นเลย พอหมดเวลาจองก็ถ่วงพวกนั้นไว้อย่าให้กลับไป”
[ครับ หัวหน้าเหนื่อยหน่อยนะครับ]
หลังคุยเสร็จ มินชานเข้าไปในเว็บไซต์ขององค์กรเราส์เพื่อหาข้อมูลสองคนนั้น
“หา? คนนี้เพิ่งขึ้นทะเบียนเมื่อวาน อีกคนเพิ่งขึ้นทะเบียนเมื่อสองเดือนก่อน”
มือใหม่สุดๆแต่มาเคลียร์ดันเจี้ยนสามดาวแล้ว แถมยังเคลียร์ได้ภายใน 10 นาที
“คนหนึ่งเป็นเนโครแมนเซอร์ อีกคนเป็นนักเวทย์ไฟ” ดูจากความสามารถของพวกเขาก็พอจะบอกได้ว่ามีสไตล์การต่อสู้แบบไหน
นี่หมายความว่าองค์กรวัดระดับแรงค์พลาด หรือไม่ก็พวกเขาตั้งใจซ่อนความสามารถเอาไว้ ไม่ว่าจะเพราะอะไร ก็ชัดเจนว่าเราส์สองคนนี้มีความสามารถเหนือแรงค์ F อย่างน้อยก็ต้องแรงค์ C ทุกคนที่เริ่มมาก็มีความสามารถระดับแรงค์ C เมื่อพวกเขาขัดเกลาความสามารถเต็มที่ก็จะกลายเป็นเราส์แรงค์สูงแน่นอน
ไม่ได้เห็นเราส์อนาคตไกลอย่างนี้มานานแล้ว
“ต้องจับพวกเขาให้ได้”
จุงมินชานทิ้งกาแฟที่เขาชอบและออกจากที่ทำงานทันที งานหลักของหน่วยสนับสนุนที่ 4 คือดูแลดันเจี้ยน 3 ดาว แต่การทาบทามเราส์ที่มาใช้ดันเจี้ยนก็สำคัญเช่นกัน
รถของมินชานพุ่งไปทางสถานีเมบง
พอจอดรถ จุงมินชานก็มุ่งไปยังสถานีทางออกที่ 3 คิมเฮมินกำลังรอเขาอยู่ เขาทักมินชาน
“ลูกพี่มาเองเลยเหรอครับ?”
“เวลางานฉันก็ต้องทำงานสิ”
“ฮะๆ หัวหน้า พวกนั้นลงดันมาได้ 8 นาทีแล้วเดี๋ยวก็ออกมา ดูจากเวลาที่ใช้เคลียร์พวกเขาคงต้องลงอีกรอบ”
พวกวูจินจองเวลาไว้ 4 ชั่วโมง ตอนนี้เหลือ 15 นาที จึงน่าจะเข้าดันเจี้ยนได้อีกรอบ
“พวกนั้นไม่ใช่เล่นๆเลย ตอนนี้ก็ทำเงินไปเกินสามร้อยล้านวอนแล้ว เฮ้อ ถ้าผมเก่งเหมือนกันคงทำแบบนั้นแบบนั้นแหละ”
ถ้าทีมเราส์แรงค์สูงเข้าดันเจี้ยนสามดาว แน่นอนว่าพวกเขาจะเคลียร์ภายใน 10 นาทีได้ แต่เราส์แรงค์สูงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าดันเจี้ยนระดับต่ำ
ถ้าเคลียร์ดันเจี้ยนดาวสูงๆได้เงินสามร้อยล้านมันก็แค่นั้น การเคลียร์ดันเจี้ยนสามดาวที่จริงแล้วก็คืองานกรรมกรดีๆนี่เอง
“ถ้าไม่ใช่เก่งจริงๆก็เป็นอาชญากรที่ใช้ชื่อปลอม”
ถ้ามีความสามารถยอดเยี่ยมขนาดกลายเป็นเราส์แรงค์ F เพียงไม่กี่วันก็สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนสามดาวได้ จุงมินชานก็ต้องดึงพวกเขาเข้ากิลด์
แต่ถ้าเป็นอาชญากรใช้ชื่อปลอมก็อีกเรื่อง เพียงแต่อาชญากรจะทำอะไรสะดุดตาขนาดนี้เลยเหรอ
“ทำไมไม่ออกมาซักทีล่ะ น่าจะออกมาได้แล้วนี่”
พวกวูจินเข้าไปเกินสิบนาทีแล้ว เฮมินกระสับกระส่ายเมื่อพวกเขาไม่ออกมาตามปกติ ดันเจี้ยนเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราส์แรงค์สูงจะตายในดันเจี้ยนดาวต่ำๆก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
“ฮืม ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นการลงดันรอบสุดท้าย...”
เฮมินกระสับกระส่ายผิดปกติ เขามองนาฬิกาบนข้อมือ เหลือเพียง 4 นาที เวลาไม่พอจะเข้าดันเจี้ยนอีกรอบ หรือไม่พวกเขาก็ออกมาไม่ได้อีกแล้ว...
โชคดีที่ไม่เป็นอย่างหลัง วูจินออกมาพร้อมสีหน้าวุ่นวายใจ ส่วนซุงกูดูหมดแรง
พวกเรา...เคลียร์ดันเหมือนไฟลามทุ่งเลย
ซุงกูรู้สึกเหมือนแขนทั้งสองข้างแทบหลุด แต่เมื่อนึกถึงถุงที่ใส่บลัดสโตนไว้เต็มบนหลังก็หัวเราะอย่างอดไม่อยู่ พวกมันมีค่าประมานห้าสิบล้านและเป็นของเขาคนเดียว
เราคิดถูก
คิดถูกจริงๆที่เลือกอยู่กับวูจินและเป็นผู้จัดการให้เขา นี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ
“ทำอะไรอยู่ รีบไปขึ้นเงินสิ”
“ครับลูกพี่”
ครั้งนี้เงินที่ได้จะเป็นของซุงกูทั้งหมด วูจินจึงไม่ต้องไปด้วย ซุงกูจะรีบไปร้านรับซื้อขายบลัดสโตนแต่ถูกคนขวางทาง
“ขอคุยกับพวกคุณหน่อยได้ไหม?”
ซุงกูไม่ตอบ เขาเหลือบมองวูจิน
นักเวทย์ไฟผู้เป็นเราส์ได้ 2 เดือน กับเนโครแมนเซอร์ที่เป็นเราส์มา 2 วัน เป็นการจับคู่ที่แปลกประหลาด และความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งประหลาดกว่า
สงสัยคนนี้จะเป็นหัวหน้า
มินชานเดินไปหาวูจินแล้วถามใหม่
“ขอคุยด้วยได้ไหม?”
“ฉันไม่อยากคุย”
วูจินปฏิเสธ ผลักมินชานไม่ให้ขวางทางแล้วเดินผ่านไป มินชานผงะแล้วรีบกลับมายืนตรงหน้าวูจินใหม่
“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนคุณ ขอเวลาแค่ไม่นาน”
“ถ้านายจะทำฉันเสียเวลาให้ได้แล้วจะอุตส่าห์ถามทำไม”
นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบแบบนี้ มินชานคิดได้สองข้อ
อะไรของไอ้บ้านี่วะ
เขาเป็นประเภทชอบพูดตรงๆสินะ ฉันต้องรีบเข้าประเด็น
ความคิดแรกเขาคิดด้วยอารมณ์ ความคิดหลังเขาคิดด้วยเหตุผล มินชานผู้ไต่เต้าจนกลายเป็นหัวหน้าทีมของทีมสนับสนุนที่สี่เลือกเหตุผลอยู่เหนืออารมณ์
“ขอผมพูดธุระเลยแล้วกัน ผมอยากชวนพวกคุณมาอยู่กับกิลแฮมเมอร์ของเรา”
มินชานรีบดึงนามบัตรออกมายื่นให้วูจิน แต่วูจินไม่คิดแม้แต่จะรับ เขาได้ยินได้ฟังจากเจมินและซุงกูมามากจึงเข้าใจเรื่องนี้ดี
“ไม่ล่ะ”
วูจินตอบโดยไม่หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว มินชานกลืนเสียงคำรามไว้แล้วพูดตอบอย่างยากลำบาก
“เอ่อ ดูเหมือนคุณจะยังไม่รู้จักกิลด์แฮมเมอร์...”
“ไม่ใช่ว่าเป็นหนึ่งในสามกิลด์ขาใหญ่ของประเทศเหรอ?”
“ดูเหมือนคุณจะรู้จักดี...”
“ฉันอารมณ์ไม่ดี นายเลิกยุ่งกับฉันสักทีเถอะ”
สมองของวูจินเต็มไปด้วยเรื่องของทราเน็ตซึ่งทำให้ปวดหัวหนัก เขาจึงหงุดหงิดเมื่อคนๆนี้มารบกวน วูจินไม่อยากคุยด้วย ยิ่งเป็นหัวข้อที่เขาไม่สนใจเขาจึงยิ่งอารมณ์ไม่ดี
โชคดีที่มินชานจับอารมณ์คนเก่ง
“เอ่อ ไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ อย่างน้อยก็โทรหาเราสักครั้ง กิลด์แฮมเมอร์ของเราดูแลเราส์ที่มีความสามารถอย่างดี”
วูจินเหลือบมองนามบัตรเพียงวูบเดียวก็เดินผ่านมินชานไป ซุงกูที่เดินตามหลังแอบมองหน้าวูจิน
น่าเสียดายชะมัด
กิลด์แฮมเมอร์คืออะไร?
คือหนึ่งในสามกิลด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลี ถึงถ้านำไปเทียบกับกิลด์ระดับโลกก็ยังติดหนึ่งในยี่สิบ นี่เป็นกิลด์ที่ทรงพลัง มีเราส์แรงค์ A ในสังกัดถึง 2 คน
ดันเจี้ยนในเมืองโซลหนึ่งในสี่เป็นของกิลด์แฮมเมอร์ แค่เก็บเงินค่าเข้าก็รวยตายแล้ว
ถ้าใครถูกกิลด์ระดับนี้ให้ความสนใจ รับรองได้ว่าคนๆนั้นอนาคตไกล ยิ่งกว่านั้นหัวหน้าทีมยังมาชวนเข้ากิลด์ด้วยตัวเอง แสดงว่าพวกเขาสนใจวูจินมาก
ทำไมถึงปล่อยโอกาสดีๆอย่างนี้ไปได้?
ซุงกูคิดว่าเป็นเพราะวูจินกำลังอารมณ์ไม่ดี
เงินไม่ใช่อย่างเดียวที่กิลด์มี ยังมีตำราคาถาและอาร์ติแฟคมากมาย อีกอย่าง กิลด์มีประสบการณ์โชกโชน เป้าหมายของซุงกูคือพัฒนาพลังของเขา และเขาอยากเพิ่มแรงค์ให้สูงขึ้น สำหรับเราส์แล้วโอกาสนี้เหมือนฝันเป็นจริง
มินชานไม่พลาดท่าทางลังเลของซุงกู
“ฝากเอาไปพูดกับคนในทีมคุณดีๆแล้วโทรหาพวกเรานะครับ”
“อ๊ะ ครับ”
ซุงกูแอบรับนามบัตรของจุงมินชานไป จุงมินชานมองส่งทั้งสองยิ้มๆ จนเมื่อพวกเขาเข้าไปในร้านรับซื้อขายบลัดสโตนแล้วเขาจึงขมวดคิ้วแล้วสบถ
“แม่งเอ๊ย! จะหยิ่งก็ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะว่ะ”
“จริงด้วยหัวหน้า ไอ้นั่นแม่งบ้า”
“เว้ย! ข้ามาชวนก็บุญแล้ว ขอบคุณสักคำนี่มันยากมากเลยเหรอวะ”
“ใช่เลย มันไม่รู้ว่ากิลด์เราเข้ายากขนาดไหน”
“เฮ้อ...”
มินชานหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อคลายความโกรธ รอบข้างมีเจ้าหน้าที่จากรัฐบาล แล้วยังมีเราส์กับผู้จัดการคนอื่นดูอยู่ ถ้าเขาแสดงออกมากเกินไปจะดูไม่ดี
มินชานเข้าไปหาเจ้าหน้าที่รัฐ
“คุณจะรายงานขึ้นไปไหม?”
“หืม? แน่นอนสิ”
“อย่า”
“เอ่อ ก็ได้”
แรงค์ F สองคนเคลียร์ดันเจี้ยนสามดาวภายใน 10 นาที นี่หมายความว่าต้องเกิดความผิดพลาดขึ้นตอนพวกเขาขึ้นทะเบียนเป็นเราส์ เจ้าหน้าที่จึงต้องทำรายงานส่งไปต่างหาก
แต่เจ้าหน้าที่สนิทกับกิลด์แฮมเมอร์ดี จึงทำตามคำขอของมินชาน
คิมเฮมินที่อยู่ข้างๆก็พูดบ้าง
“ช่วยอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกิลด์อื่นนะครับ”
“ได้ๆ”
เมื่อเจ้าหน้าที่ตอบรับ คิมเฮมินก็คว้าแขนจุงมินชาน
“หัวหน้า ผมไปดื่มกับเพื่อนตรงโน้นก่อนนะ ว่าแต่ หัวหน้าจะเอาสองคนนั้นจริงๆเหรอ?”
“อืม ฉันจะกลับไปที่ทำงานหาข้อมูลสองคนนี้อีก ดูเหมือนพวกมันจะไม่อยากเข้ากิลด์”
“พวกมันจะแน่จริงเหรอ?”
“ฉันไม่สนว่าพวกมันแน่ไม่แน่ ยังไงก็ต้องเอาเข้ามาก่อน เคยตกปลาไหม?”
“ตกปลา?”
“ถ้าเบ็ดกระตุกยังไงก็ต้องดึงเข้ามาก่อน ถ้าเป็นปลาตัวเล็กก็แค่โยนทิ้ง”
“อ่าฮะ”
“เอาล่ะ นายไปหาข้อมูลพวกมันด้วย ยิ่งคนรู้เรื่องนี้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี”
ข้อมูลเกี่ยวกับคนเด่นขนาดนี้จะแพร่ไปเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องพยายามปิดข่าวให้มากที่สุด ระหว่างนั้นถ้าพวกวูจินเข้ากิลด์แฮมเมอร์ได้คงดี
“อ้า พวกนั้นออกมาแล้ว”
จุงมินชานหันไปตามเสียงของคิมเฮมิน วูจินกับซุงกูกำลังออกมาจากร้านซื้อขายบลัดสโตน มินชานกับเฮมินยืนเคียงข้างกันและมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
***
“เราได้มาเยอะนี่”
วูจินมองยอดเงินสุดท้ายแล้วรู้สึกโล่งใจ ด้วยเงินขนาดนี้เขาไม่มีปัญหาเรื่องบ้านแน่
380,000,000 วอน นี่เป็นเงินที่คนเพิ่งเป็นเราส์ได้ 2 วันหามาได้ เงินในบัญชีเขาตอนแรกมี 50,000,000 วอน วันนี้เขาได้อีก 330,000,000 วอน
“ลูกพี่ ผมล่ะนับถือลูกพี่จริงๆ”
ซุงกูได้ส่วนแบ่ง 10% กับบลัดสโตนในดันเจี้ยนรอบสุดท้ายที่วูจินยกให้ทั้งหมดอีก เขาได้ 93,000,000 วอน เงินจำนวนนี้ทำให้เขาเลิกคิดเรื่องเงินที่ติดค้างวูจินไว้เลย
เป็นอีกครั้งที่เขาตกใจที่ตัวเองหาเงินได้มากแค่ไหนในวันเดียว
“กลับกันเถอะ”
“ครับ”
พวกเขาไปยังที่จอดรถ เมื่อผ่านจุดจ่ายค่าที่จอดรถ วูจินยิ้ม
“ค่าจอดรถไม่แพงจริงๆด้วย”
“ก็บอกแล้วไงครับ แล้วก็ ดันเจี้ยนสี่ดาวจะยิ่งต่างไปอีก ที่นั่นพวกอาร์ติแฟคมีโอกาสตกสูงทีเดียว”
ถ้าวูจินซื้อบ้านได้แล้วเขาก็ไม่ต้องรีบร้อนหาเงินอีก ที่เขาต้องรีบทำคือเพิ่มเลเวลให้เร็วที่สุด วูจินทำหน้ายุ่งอีกแล้ว แล้วซุงกูก็ถามขึ้น
“ลูกพี่ ทำไมถึงปฏิเสธคำชวนเข้ากิลด์ล่ะครับ? มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า...”
“ก็ง่ายๆ”
“ครับ?”
“ฉันไม่คุ้นกับการอยู่ใต้ใคร”
“...”
วูจินเป็นผู้ปกครอง เขาไม่คุ้นเคยกับการมีใครอยู่เหนือกว่า รู้สึกรังเกียจเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องรับคำสั่งจากคนอื่นล่ะ?
น่าขำ
ซุงกูมองรอยยิ้มของวูจินแล้วล้วงนามบัตรออกมาเงียบๆ โยนมันข้ามหน้าต่าง ซุงกูกลัววูจินจะรู้ว่าเขารับนามบัตรมา
ลาก่อนกิลด์แฮมเมอร์
ซุงกูจับพวงมาลัย น้ำตารื้นขึ้นมาเล็กน้อย



อ่านเหตุผลที่วูจินไม่ยอมเข้ากิลด์แล้วนึกถึงชื่อนิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่งเลย - ไม่มีวันก้มหัวให้
อ่านแปลภาษาอังกฤษแล้วรู้สึกมันขาดๆข้ามๆไงไม่รู้ เราเลยตัดเนื้อหาออกไปเพื่อไม่ให้งง ไม่เยอะค่ะ สองบรรทัด ใครอ่านภาษาอังกฤษมาแล้วสงสัยว่าทำไมไม่เหมือนก็ด้วยสาเหตุนี้นะคะ :)

4 ความคิดเห็น: