บทที่ 87
ขณะพวกเราเดินทางไปยังผู้ต้องสงสัยรายที่สอง ภาระยื่นมือมาทางผมและพูด
“เอามา!”
“เอาอะไร?”
สีหน้าท่าทางของเขาให้อารมณ์แบบอันธพาลขู่กรรโชกทรัพย์ “ตรา! เฮ้! เมื่อกี๊แกแอบอ้างเป็นอัศวินนะ! มันเป็นอาชญากรรม! อยากกินข้าวโอ๊ตไปตลอดชีวิตเหรอ?”
สำนวนกินข้าวโอ๊ตที่นี่ก็เหมือนกินข้าวคลุกถั่วในชาติก่อนของผม
เพราะแม้แต่ในสลัมยังไม่กินข้าวโอ๊ตกัน แต่มันเป็นอาหารหลักในคุกหลวง
ผมเดาะลิ้น “ชิ เอาไป”
ภาระคำรามขณะรับตรา “กลับไปเจ้าโดนแน่”
ผมทำเสียงหึ “เอาสิ ข้าจะบอกว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิด”
“...อะไรนะ?”
ผมมองภาระที่ทำหน้าอึ้ง และยิ้มอย่างผู้ชนะ “คิดดูสิ
หัวหน้าอัศวินต้องเชื่อแน่ว่าข้าราชการอ่อนแออย่างข้าขโมยตราจากรองหัวหน้าอัศวินได้”
“เอ่อ นั่น-”
“ต่อให้เขาเชื่อ
เจ้าลำบากแน่ที่ปล่อยให้ข้าราชการอ่อนแออย่างข้าขโมยตราไปได้”
ภาระจนคำพูด
“ถ้ายังไงก็ถูกลงโทษอยู่ดี เงียบไว้ไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราไม่พูด
ใครจะรู้? โอ๊ะ เจ้าของห้องปรุงยาคนเมื่อกี๊? ถ้าเราพูดเหมือนกัน
ก็ฝังคำให้การนั้นได้ ฮุๆๆ” ผมรู้สึกเหมือนเป็นปีศาจลากเขาสู่ทางบาป
แต่ช่างมันเถอะ
ภาระตะโกนด้วยความรู้สึกขัดแย้ง “ดูที่เจ้าทำสิ! ถ้าหมอนั่นร้องเรียน
ข้าจะถูกลงโทษทางวินัย!”
การร้องเรียนที่ภาระพูดถึงไม่ใช่การแอบอ้างแต่เป็นการบุกรุก
มาคิดดูแล้วก็จริง เราพังประตู กล่าวหาเขาว่าค้ายาโดยไม่มีหลักฐาน
จากนั้นค้นบ้านโดยที่เขาไม่ยินยอมและเจอหนังสือลับเข้าให้ ถ้าเป็นผม
ผมก็จะร้องเรียน
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องของข้า” ผมยักไหล่ ภาระทำหน้าโกรธ กำหมัดแน่นแต่แล้วก็คลายออก
ถ้าเขาจะต่อยผมจริงๆ ผมจะได้ตะโกน “จะตีข้าเหรอ?” และ “ใครก็ได้!” น่าเสียดาย
ภาระตะโกนเหมือนเพิ่งรู้ “ไม่จริงน่า!
เจ้ายังโกรธที่ข้าล้อเรื่องแผนที่เหรอ?!”
ภาระมองผมด้วยความช็อก
“ฮ่าๆๆ! ไม่มีทาง” ผมหัวเราะและเตะประตูห้องปรุงยาของผู้ต้องสงสัยรายที่สอง
โครม!
เหมือนคราวที่แล้ว ประตูหลุดจากกรอบปลิวไป
“ออกมา!”
“ดูสิ เจ้าโกรธ!”
บอกว่าไม่ไง แหม ภาระไม่ค่อยเชื่อที่คนอื่นพูดเลย
แต่เขามีลางสังหรณ์ดีอย่างกับนักสืบ ไม่ได้ช่วยเลย
ผมคว้าคอเสื้อของผู้ต้องสงสัยรายที่สอง ผู้กำลังหนีเหมือนรายแรก
“คุณดาเวนใช่ไหม?”
จู่ๆก็ถูกคว้าคอเสื้อก่อนจะทันได้พูด,
ผู้ต้องสงสัยรายที่สองพยักหน้าอย่างลนลาน “ปล่อย ปล่อยมือได้ไหม?”
ผมเมินและพูด “มีรายงานว่าเจ้าผลิตและขายยาที่นี่
ถ้ายอมให้ค้นดีๆจะไม่มีความรุนแรง”
“อะไรวะ!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองหน้าซีด
และภาระขมวดคิ้วเหมือนรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างนี้
ที่ผมออกตัวแรงกว่าครั้งแรกเพราะภาระเอาตราอัศวินกวางขาวคืนไป
ผมขยิบตาให้ภาระ เขาถอนหายใจแล้วแสดงตราออกมา
ผมปล่อยคอเสื้อของผู้ต้องสงสัยรายที่สองและเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่รอช้า
“ดะ เดี๋ยว!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองพยายามจับผม
แต่ผมหลบอย่างง่ายดายและเริ่มค้นห้องปรุงยา
การจัดวางในห้องปรุงยาคล้ายกับของผู้ต้องสงสัยคนแรก
นี่คงเป็นสไตล์ห้องปรุงยาที่เป็นที่นิยมในเมืองหลวง
ถ้าต่อไปยูเรียอยากเรียนการเล่นแร่แปรธาตุอย่างจริงจัง ห้องแบบนี้คงมีประโยชน์
ถึงอย่างไรผมก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบตามเทรนด์
น่าเสียดาย ในห้องปรุงยานี้ มีสารสกัดจากหม้อข้าวหม้อแกงลิง
แต่ไม่มีเลือดโทรลน้ำแข็ง น่าเศร้าที่ผู้ต้องสงสัยรายที่สองไม่ใช่คนร้าย
ผมเริ่มลนลานเล็กน้อยว่ามาผิดทางหรือเปล่า แต่จะเปลี่ยนวิธีก็สายไปแล้ว
ผมมองหาช่องลับ พื้น เพดาน ผนัง เป็นสามแห่งที่มีพลังเวทรวมกันอย่างหยาบๆ
ผมเดินไปยังช่องลับในผนัง ซึ่งมีพลังเวทรวมไว้มากที่สุด และฉีกกระดาษปิดผนังออก
“ไม่!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองตะโกน แต่ภาระขวางเขา
เปลือกนอกนี่คือการตรวจค้นยา ภาระมีสีหน้าไม่เต็มใจ
แต่ไม่ว่าจะเพื่อผมหรือเพื่อจับอาชญากร เขาทำได้ดี
“ออกมานะ หนังสือโป๊!” ผมร่ายคาถาและสลายเวทมนตร์บนผนัง
ผมเปิดประตูช่องลับ หวังว่าจะได้เห็นสวรรค์อีก
“นี่อะไร?” ช่องลับเต็มไปด้วยกระสอบใส่ผงสีขาว
“ไอ้เวรนี่ดันเป็นคนขายยาจริงๆ”
ผู้ต้องสงสัยรายที่สองถอยจากภาระเมื่อผมหยิบกระสอบใส่ยาออกมา
“ฮึ่ม! ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารู้ได้ยังไง แต่พลาดไปแล้วเถอะที่มากันแค่สองคน!”
ผู้ต้องสงสัยรายที่สองใช้บทพูดตัวโกงทั่วไป
และพวกอันธพาลก็ปีนขึ้นมาจากช่องลับที่พื้น
เมื่อถูกล้อม ภาระเข้ามายืนบังหน้าผมเป็นการปกป้องและชักดาบออกมา “เวร
ข้าไม่น่ามาเกี่ยวข้องกับคนอย่างเจ้าเลย!”
แม้จะดูเหมือนเขาเสียใจจริงๆ เจตนาปกป้องผมอย่างอัศวินก็ยังน่านับถือ
“ข้าต้องให้พวกเจ้าคายออกมาว่ารู้เรื่องนี้มาจากไหน”
ผู้ต้องสงสัยรายที่สองตะโกนอย่างมีชัย เห็นแล้วน่าหัวเราะดี
“พยายามอยู่ข้างหลังข้า กับคนเยอะขนาดนี้ข้าไม่แน่ใจว่าจะปกป้องเจ้าได้”
ผมถอนหายใจและพูดต่อ “พอตื่นมาเรื่องก็จบแล้ว”
“อะไรนะ?”
ผมแอบโชว์หน้ากากกันแก๊สพิษให้ภาระเห็นเมื่อเขาหันมา จากนั้นเอาระเบิดแก๊สสลบที่ผมทำตอนอยู่ในหมู่บ้านจากกระเป๋ามิติและเขย่าให้ดู
“เจ้า! เดี๋ยวก่อน!”
ทันทีที่ภาระรู้สึกสังหรณ์ร้ายและจะพูดอะไรออกมา ผมโยนระเบิดใส่พื้น
“ลองชิมระเบิดของข้าดู!”
ระเบิดแก๊สสลบชนพื้นและส่งเสียงบึ้มเบาๆ แล้วปล่อยแก๊สสลบมา
“อะไร นั่นอะไร?!” พวกอันธพาลตื่นตระหนก แต่สายไปแล้ว
แก๊สลอยเต็มห้องในทันที ทำให้ทุกคนในห้องปรุงยาสลบไปยกเว้นผม
“ดี ไปได้สวย”
ที่จริงผมทำระเบิดแก๊สสลบเพื่อใช้ตอนหนีออกจากบ้าน
แต่พอทำเสร็จถึงเพิ่งรู้ว่าถ้าจะหนีได้ผมต้องไปข้างนอก และระเบิดแบบนี้ใช้ได้ดีในที่ปิด
ใช้ไม่ดีนักในที่เปิด ยิ่งกว่านั้น แก๊สสลบต้องถูกสูดหายใจเข้าไปจึงจะได้ผล
แต่ดูจากความจุของปอดของพวกคนในหมู่บ้าน มันเปล่าประโยชน์ จริงๆนะ
ผมไม่รู้ว่าทำไปทำไม
นอกจากระเบิดแก๊สสลบ ผมมีระเบิดแสง,แก๊สน้ำตา,และระเบิดควันอีกหลายแบบ
แต่ถ้าคิดสักนิด ผมคงรู้ว่าของพวกนั้นไม่ช่วยในการหนี สมัยนั้นอาจเพราะยังเด็ก
ผมจึงสร้างของไร้ประโยชน์ขึ้นมามากมาย
ผมเอาเชือกที่ซื้อจากกรันเวลมามัดแขนขาของพวกค้ายา
ผมใช้เวทมนตร์เพิ่มความเหนียวของเชือกเผื่อไว้ และเอาแผนที่จากภาระที่กำลังนอนน้ำลายยืด
“ขอยืมก่อนนะ”
อา ในที่สุดก็ได้ทิ้งภาระนี้สักที เพื่อให้แน่ใจ
เอาแผนที่ไปด้วยดีกว่าเพื่อไม่ให้เขาตาม ผมเลือกระเบิดแก๊สสลบเพราะอยากซ่อนพลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อีกอย่าง มันทำให้ทิ้งภาระได้ง่ายกว่าด้วย
เมื่อจับคนร้ายได้ ผมต้องสอบสวนเขา ถ้าเขาเกิดจะรักความถูกต้องขึ้นมาระหว่างพวกเรากำลังรีดไถข้อมูลคงน่ารำคาญ
ผมออกจากห้องปรุงยาก่อนจะมีคนร้องเรียนและพวกอัศวินมา
***
หัวหน้าหน่วยอัศวินกวางขาวกำลังเขียนรายงานส่งให้ผู้ใหญ่เกี่ยวกับการวางยาพิษเพลแกรนท์
แม้หัวหน้าอัศวินจะเป็นตำแหน่งสูงสุดในการรักษาความปลอดภัยของเมืองหลวง
เพลแกรนท์เป็นสมาชิกอาวุโสขององค์กรข่าวลับของนายกรัฐมนตรีอาร์คันทา
และขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี พูดอีกอย่างคือ รายงานที่เขาเขียนอยู่นี้เขียนให้อาร์คันทา
หัวหน้าอัศวินหยุดมือและถอนหายใจ “ทำไมข้าปล่อยเขา?”
เขาหมายถึงเดน ชายที่ถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ
เมื่อเดนบอกว่าเขารู้จักองค์กรข่าวแม่ใหญ่ หัวหน้าอัศวินก็รู้สึกเชื่อถือขึ้นมา
จึงให้คนสนิทที่เขาเชื่อใจที่สุดตามไป เขานับถือความฉลาดพูดของเดน
เพราะปกติเขาไม่มีทางอนุญาต
ในขณะเดียวกัน เขาเริ่มกังวลว่าจะเขียนอย่างไรในรายงาน
หัวหน้าอัศวินไม่รู้ตัว แต่ที่เขาเชื่อใจเดนเพราะถูกเวทมนตร์สะกดจิต
ตอนนี้ไม่เหลือเวทมนตร์แม้แต่เศษเสี้ยวไว้เป็นหลักฐาน แต่ความเชื่อใจยังคงอยู่
ความรู้สึกขอบคุณที่ช่วยชีวิตเพลแกรนท์เป็นตัวขยายความรู้สึกเชื่อใจ
แต่มันจะจางไปในอีกไม่กี่วัน แต่เมื่อเขาจะเขียนถึงเดน เขาไม่รู้ว่าจะเขียนอย่างไร
ขณะที่เขาถอนหายใจอีก ลูกน้องก็เข้ามาตะโกนเสียงร้อนรน “หัวหน้า!
เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“มีอะไร?”
“มีควันลอยในเมืองหลวง น่าสงสัยว่าเป็นแก๊สพิษ!”
“จัดการกันยังไงแล้ว?” แม้เสียงของอัศวินจะสงบเหมือนปกติ ใจเขาไม่สงบเท่า
“คนที่สูดเข้าไปแค่นิดเดียวจะสลบทุกคน จึงจัดการอะไรไม่ได้ตอนนี้
แต่มีพยานบอกว่าเห็นรองหัวหน้าเข้าไปที่นั่นก่อนเกิดควัน”
“อะไรนะ! ที่ไหน?” หัวหน้าอัศวินรีบถาม
ลูกน้องของเขารายงานว่าควันเกิดที่ห้องปรุงยาของดาเวน ทันทีที่ได้ยิน
หัวหน้าอัศวินรีบตรงไปยังที่เกิดเหตุและเริ่มปวดศีรษะขึ้นมา
คนที่เขาให้ตามเดนไปจับคนร้ายได้ไปที่ห้องปรุงยานั้น
ดังนั้น คนในห้องปรุงยาถ้าไม่เป็นคนร้ายก็ผู้ต้องสงสัย พูดอีกอย่างคือแก๊สน่าสงสัยอาจเป็นการก่อการร้ายมากกว่าอุบัติเหตุในห้องปรุงยา
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน เขาหวังว่ารองหัวหน้าอัศวินจะปลอดภัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น