บทที่ 71 – งานเลี้ยง (22)
งานเลี้ยงกำลังเป็นไปอย่างครึกครื้นเมื่อมิลเปียได้คำสั่งด่วนให้ออกจากโรงเรียนเวทมนตร์ หลังการเดินเป็นนาน มิลเปียหยุดที่ตรอกไร้ผู้คนและดึงนาฬิกาออกมาดูเวลา เธอคิดว่าเมื่อเธอกลับไปที่ห้องโถงคงเลยเที่ยงคืนและงานเลี้ยงคงจบไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายนัก สิ่งสำคัญที่สุดคือหน่วยงานข่าวแม่ใหญ่
ถ้ามีคำสั่งมา เธอต้องทำตาม
เข็มวินาทีค่อยๆชี้ไปที่เลขสิบสอง ในทันใดนั้น คนสวมหน้ากากก็ล้อมเธอไว้ไม่ให้หนี หลังคาเหนือตรอกก็ถูกปิดเช่นกัน มิลเปียรู้สึกกดดันจากทุกทาง เหมือนเหยื่อที่ติดใยแมงมุม
มิลเปียไม่ตกใจ พวกเขาทั้งหมดคือสมาชิกของหน่วยงานข่าวแม่ใหญ่
ปัญหาคือ-
“พวกเจ้ามือสังหารมาทำอะไรที่นี่?”
มือสังหารเหล่านี้คือคนลงโทษคนทรยศหรือคนที่เป็นอันตรายต่อหน่วยงานข่าวแม่ใหญ่
“เจ้าถามเพราะไม่รู้เหรอ? ผู้จัดการสาขา มิลเปีย”
คนที่เดินออกมาจากตรอกมืดคือผู้บริหารของสำนักงานใหญ่ที่อยู่ในเมืองหลวง
“ไม่ใช่สิ เจ้าไม่ใช่ผู้จัดการสาขาอีกต่อไป แต่เป็นแค่เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ใช่ไหม? เจ้าหน้าที่มิลเปีย” ผู้บริหารยิ้ม เขาแต่งตัวเหมือนบาร์เทนเดอร์ตามปกติ
มิลเปียรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าเข้าใกล้ “มีใครโง่ถามคำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้วบ้างล่ะ? ผู้บริหารสำนักงานใหญ่” มิลเปียตอบเสียงเอื่อย
ผู้บริหารยืนต่อหน้ามิลเปียและมองอย่างตำหนิ “ถ้าเจ้าไม่รู้ข้าก็จะตอบ เจ้าถูกสงสัยว่าเป็นคนทรยศ”
“คนทรยศ?”
มิลเปียสังหรณ์ว่าสถานการณ์สมมติที่เลวร้ายที่สุดเป็นจริงแล้ว
“ถ้าแค่สงสัย คงไม่มีคนมามากขนาดนี้ ได้ ไหนล่ะหลักฐาน”
มิลเปียพูดอย่างสงบ การแสดงความร้อนรนออกมามีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง รักษาสติเอาไว้เป็นทางเดียวที่จะฝ่าปัญหาไปได้
ผู้บริหารหัวเราะเยาะ “มิลเปีย เจ้าขายข้อมูลของสาขาสำคัญเช่นกรันเวลให้ฝ่ายศัตรู”
“ข้าไม่เคยทำเรื่องนั้น”
“จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ทำไมมีคนไปซื้อข่าวถึงสำนักงานของกรันเวลล่ะ?”
“นั่น...”
มิลเปียไม่มีข้อแก้ตัว “ถึงอย่างนั้นก็ตาม เรื่องนั้นอย่างเดียวพิสูจน์ไม่ได้ว่าข้าขายข้อมูลของสาขากรันเวล”
ผู้บริหารมองมิลเปียอย่างสงสารแล้วส่ายหน้า “ใช่ แค่นั้นทำให้เกิดความสงสัยแต่ไม่มากพอพิสูจน์ว่าเจ้าเป็นคนผิด แม่ใหญ่จึงทดสอบเจ้า”
“แม่ใหญ่เหรอ?”
มิลเปียกลืนน้ำลาย ถ้าแม่ใหญ่ลงมือเองแทนที่จะเป็นผู้บริหาร ก็ไม่ต่างกับตัดสินแล้ว
“ใช่ แม่ใหญ่จงใจส่งเจ้าเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ นางอยากรู้ว่าเจ้าจะขายข้อมูลลับอีกไหม?”
ประโยคนั้นทำให้ท่าทางสงบของมิลเปียหมดลง
“เจ้าขายข้อมูลให้สิงห์ หนึ่งใน 12 ราศี องค์กรที่เป็นศัตรูกับหน่วยงานข่าวแม่ใหญ่ของพวกเรา
สิงห์เป็นคนที่มิลเปียรู้จักดี
แม้จะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา พวกเขารู้เกี่ยวกับจุดประสงค์และอำนาจของสิงห์อย่างคร่าวๆ ข้อมูลนี้ผู้จัดการสาขาทุกคนรู้
“เดี๋ยวก่อน! ข้าให้ข้อมูลอะไร?”
“โฮ่ เจ้ายังทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกเหรอ?”
มิลเปียสับสนจริงๆ หลังจากหล่นมาเป็นระดับเจ้าหน้าที่ เธอก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรอีก
แล้วข้อมูลอะไรที่ข้าขายไป?
“หึๆ เจ้าหญิง เจ้าขายข้อมูลของเจ้าหญิงไปใช่ไหมล่ะ? เจ้าคิดว่าพวกเราไม่รู้เหรอ ว่าเจ้าอยู่ใกล้กับเจ้าหญิงตั้งแต่เข้าโรงเรียนเวทมนตร์?”
มิลเปียได้คำตอบในเรื่องที่เธอสงสัย
ด้วยสิ่งที่เพิ่งได้ยิน เธอจึงรู้ว่าอาเรียเป็นเจ้าหญิงลำดับสาม อารีเลีย จริงๆ
เธอยังตระหนักว่าเธอถูกวางกับดับ
จากคำพูดของผู้บริหาร มิลเปียจงใจเข้าหาเจ้าหญิงเพื่อข้อมูลและส่งมันให้สิงห์ แต่มิลเปียไม่เคยได้ข้อมูลอะไรทั้งนั้น
เขาปิดข่าวเรื่องอารีเลียเพื่อผลักดันให้มิลเปียเข้าใกล้เจ้าหญิง มั่นใจว่ามิลเปียจะเข้าหายูเรีย คนของเผ่าผีเสื้อก่อน
เขาปิดกั้นข่าวของอารีเลียไม่ให้มาถึงมิลเปีย รู้ว่าเธอจะทำตามการคาดการณ์ของเขาโดยไม่ต้องลงมือโดยตรง... การที่ผู้บริหารสามารถวางแผนรัดกุมแบบนี้ได้ทำให้เธอขนลุก
จากนั้นเสียงรองเท้าส้นสูงแตะพื้นก็ดังขึ้นจากตรอกมืดที่ผู้บริหารเดินออกมา คนที่เดินออกมาเป็นคนที่มิลเปียรู้จักดี
“ทำความเคารพแม่ใหญ่!”
มิลเปียและผู้บริหารคุกเข่าลง คนใส่หน้ากากรอบๆก็คุกเข่าลงพร้อมกัน
“ทำความเคารพแม่ใหญ่!”
ทุกคนลุกขึ้นเมื่อแม่ใหญ่โบกมือ แต่มิลเปียลุกไม่ได้
“มิลเปีย”
ได้ยินเสียงไร้อารมณ์ มิลเปียรู้สึกเศร้ามากกว่ากลัว
“ค่ะ โปรดออกคำสั่ง...แม่”
มิลเปียคุกเข่า เตรียมใจตาย คำสุดท้ายที่เธอพูดเพราะรู้ว่าเธอจะไม่ได้พูดคำนั้นอีกแล้ว
“เจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม?”
“...ค่ะ”
แม่ใหญ่โบกมือด้วยสายตาเย็นชา
“ฆ่า”
มิลเปียหลับตาแน่น เธอได้ยินเสียงดาบฟันผ่านอากาศ แต่ เธอลืมตาขึ้นเพราะไม่รู้สึกเจ็บ
“อั่ก! ทะ ทำไม!”
ผู้บริหารมองแม่ใหญ่อย่างไม่เชื่อ เขาถูกดาบแทงที่ท้อง
“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เหรอว่าคนที่ขายข้อมูลของกรันเวลกับเจ้าหญิงคือเจ้า?”
“แค่ก ดะ ได้ยังไง?”
เห็นท้องที่ถูกแทงของเขาและเห็นว่าเขาไม่อาจแม้แต่พูดเป็นประโยค แม่ใหญ่ชี้นิ้ว
แล้วคนใส่หน้ากากที่แทงท้องผู้บริหารก็ถอดหน้ากากออก
“จะ เจ้า แค่ก!” ผู้บริหารตกใจที่เห็นหน้าคนใส่หน้ากากและกระอักเลือด
“เป็นอย่างไร? เขาคือลูกน้องของสิงห์ ที่เจ้าส่งข่าวของเจ้าหญิงให้ ใช่ไหม?”
ผู้บริหารมองแม่ใหญ่ด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ นางยิ้มเย็น
“อ้อ ข่าวเกี่ยวกับกรันเวลไปถึงสิงห์จริง สบายใจได้ ตอนนั้นข้ายังไม่รู้ว่าเจ้าทรยศ”
“แค่ก!”
“บอกให้รู้ไว้ ข้าเป็นคนหยุดข่าวเรื่องเจ้าหญิงที่เจ้าตั้งใจส่งให้มิลเปียเอง แย่จริง เจ้าไม่ควรให้ข้อมูลไปง่ายๆถ้าอยากให้มิลเปียเคลื่อนไหว เฮ้อ ไร้ความสามารถ รู้ไหมว่าข้าต้องพยายามแค่ไหนเพราะกลัวว่ามิลเปียจะรู้ตัว?”
แม่ใหญ่หันหน้าไปทางมิลเปียช้าๆ “แค่นี้ล่ะ ลาก่อน”
ศีรษะของผู้บริหารหลุดลงเมื่อจบคำลา แม่ใหญ่ยื่นมือให้มิลเปียที่ยังคงคุกเข่า
“เอาล่ะ เจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม?”
มิลเปียจับมือแม่ใหญ่และถาม “พร้อมอะไรคะ?”
“เจ้าถามอะไร? พร้อมที่จะเป็นผู้บริหารสำนักงานใหญ่คนถัดไปแล้วใช่ไหม?”
มองแม่ใหญ่ยิ้มสดใส มิลเปียรู้สึกความเครียดค่อยๆหลุดไปจากตัวเธอ
“บอกให้ข้ารู้ก่อนไม่ได้เหรอ?” มิลเปียถาม
แม่ใหญ่เขินเล็กน้อยแล้วแก้ตัว
“ตก- ตกใจไหมล่ะ?”
มิลเปียคิดว่าคนเป็นแม่กับลูกกันไม่น่าจะต้องพูดแก้ตัว
***
ตรงกลางภาคใต้ของจักรวรรดิมีเมืองหนึ่งชื่อ ‘เซนต์ เพอร์ซิวาล’ มันเป็นที่ตั้งของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ‘เพอร์ซิวาล’ ที่พำนักของโป๊ป ผู้นำวิหาร
วิหารศักดิ์สิทธิ์ เพอร์ซิวาล เป็นวิหารใหญ่ที่สร้างตอนวิหารทรงอำนาจที่สุด และ จนถึง 120 ปีที่แล้ว มันถูกยกย่องว่าใหญ่กว่าและหรูหรากว่าพระราชวัง
120 ปีให้หลัง เพราะอำนาจของวิหารยังคงอยู่ในเมือง เซนต์ เพอร์ซิวาลจึงถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอำนาจวิหาร
โป๊ปและเซนต์กำลังพบกันเป็นการส่วนตัวในใจกลางวิหาร
“ยินดีต้อนรับ เซนต์ฮิลลิส” โป๊ปพูดและยิ้มเมตตาขณะที่เซนต์ทำมือเป็นรูปไม้กางเขนทักทาย
“ขอบคุณที่ต้อนรับทั้งๆที่ดึกเช่นนี้ค่ะ”
“ไม่หรอก ข้าจะเมินเฉยเซนต์ที่กลับมาจากการแสวงบุญได้อย่างไร? ท่านคงเหนื่อยสินะ เชิญนั่ง”
เซนต์หญิงขอบคุณโป๊ปและนั่งบนโซฟา
“การแสวงบุญครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” โป๊ปรินน้ำชา
เซนต์รับถ้วยชาด้วยท่วงท่าละเมียดละไม “ข้าได้พบกับคนสำคัญ”
“โฮ่ ขอโทษที่ถามทั้งๆที่ท่านเหนื่อยอยู่ แต่ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหม?”
“แน่นอนค่ะ”
ระหว่างการคุยอย่างสนิทสนมและยาวนาน เซนต์หญิงก็เริ่มหลั่งน้ำตา
“โอ้! เป็นอะไรไป?” โป๊ปตกตะลึงและส่งผ้าเช็ดหน้าให้
เซนต์เช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าแล้วมองโป๊ปด้วยดวงตาเศร้า “ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพี่สาวของข้า”
“พี่สาวของท่าน พาลาดิน วิบริโอ?”
คำบอกกะทันหันของเซนต์ทำให้แม้แต่โป๊ปผู้มีชื่อเสียงเรื่องความนิ่งสงบยังตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร? พาลาดินวิบริโอมี ‘ปาฏิหาริย์’ ที่เซนต์ใช้เวลาหนึ่งปีสร้างขึ้นมา”
ปาฏิหาริย์เป็นเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ที่ในยุคนี้มีแต่เซนต์ฮิลลิสที่สร้างได้ มันเป็นเวทมนตร์ที่มีความยากจนเซนต์หญิงต้องใช้เวลาหนึ่งปีสร้างขึ้นมาด้วยความอุตสาหะและห้ามผิดพลาดแม้แต่น้อย
สามารถบอกได้ว่าคนที่มีปาฏิหาริย์มีเพียง โป๊ป เซนต์หญิง และวิบริโอ
นอกเหนือจากสามคนนี้แล้ว ปาฏิหาริย์อีกอันอยู่ในอัญมณีที่ฝังในดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ดาบศักดิ์สิทธิ์สูญหายไปพร้อมกับ กาลัค เบลด ผู้สังหารราชาปีศาจเมื่อ 120 ปีก่อน
“ปาฏิหาริย์ถูกใช้ไปแล้ว ข้าต้องไปเมืองหลวงค่ะ”
“เซนต์!”
โป๊ปไม่สามารถพูดให้เซนต์หญิงเปลี่ยนใจได้ เขาถอนหายใจ “เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าจะส่งคนคุ้มกันไปกับท่านด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าเจอพวกเขาระหว่างการแสวงบุญ”
“ท่านหมายถึงใคร...?”
แปะ!
เซนต์ปรบมือ ประตูเปิดออก และคนสามคนเดินเข้ามา
“อา ข้ารออยู่ตั้งนาน”
“พี่แมค!”
“ท่านรองกัปตัน!”
โป๊ปอึ้งและมองเซนต์ เซนต์ปาดน้ำตาและแนะนำตัว “พวกเขาเป็นคนของเผ่ากาค่ะ”
โป๊ปทำตาโตอย่างตกใจ กาตรงหน้าเขายิ่งน่าตกใจกว่าเรื่องที่อาจเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าของปาฏิหาริย์ วิบริโอ
...เค้าคุยกันปล่อยให้แขกรออยู่นอกห้องเหรอ?
บทต่อไป แลนซีลอตผจญภัย มี 13 ตอนค่ะ บทนี้เปลี่ยนพระเอก เพราะงั้นเราจะไม่เจอเดนไปอีก 13 สัปดาห์ >A<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น