บทที่ 47 – การสอบเข้า (11)
ผู้ชมกลับไปสนใจการสอบต่อเพราะท่าทางของยูเรีย เธอกับผู้เข้าสอบอีก 20 คนยืนเรียงแถวหน้ากระดาน
“ยูเรีย เฟนเดรีย คทาช่วยในการบินของเจ้าอยู่ไหนล่ะ?” ผู้หญิงที่นั่งทางซ้ายของลานสอบร่วมกับกรรมการคนอื่นถามพลางขมวดคิ้ว คนอื่นต่างถือคทาหรือไม้กวาด แต่ยูเรียมามือเปล่า
ผู้หญิงกระตุกคิ้วและพูดต่อก่อนยูเรียจะตอบ “เราไม่ให้เวลาเจ้าหาอุปกรณ์ช่วยเหลือแล้วนะ สอบไปแบบนี้ได้ไหม?”
ยูเรียพยักหน้า “ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ”
“ดี ข้าจะถือว่าเจ้ามีความมั่นใจที่ไม่ใช้อุปกรณ์”
คำพูดของกรรมการฟังเหมือนเสียดสียูเรียที่ไม่เตรียมตัว ก็จริง การเตรียมพร้อมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักเวทจนพวกเขาถูกเรียกว่าผู้เตรียมพร้อม เพราะอย่างนั้น นักเวทที่ให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวอาจไม่เข้าข้างเธอ แต่ก็นะ กรรมการไม่มีทางไม่รู้ว่ายูเรียมาจากเผ่าผีเสื้อ ผมอาจฟังผิดไปเอง
“จะเริ่มการสอบแล้ว เริ่มใช้เวทบินได้”
เมื่อกรรมการออกคำสั่ง ผู้เข้าสอบก็เริ่มใช้พลังเวท ท่ามกลางสีหน้าเคร่งขรึม มีเพียงสีหน้าของยูเรียที่ผ่อนคลาย เธอปล่อยพลังเวทอย่างง่ายดายและบินขึ้นทันที เทียบกับผู้เข้าสอบคนอื่นที่ใช้คทาประคองตัวขึ้นช้าๆแล้วต่างกันฟ้ากับเหว
ยูเรียลอยสูงถึง 10 เมตรอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็เริ่มแสดงกายกรรม เธอวนเป็นเลข 8 เหมือนผึ้ง หยุดใช้เวทเพื่อให้หล่นลงแล้วก็ลอยขึ้นใหม่ เดี๋ยวเร่งความเร็วเดี๋ยวบินช้าลงจากลานสอบด้านหนึ่งไปอีกด้าน เธอใช้พลังเวทอย่างพอเหมาะจนเรียกได้ว่าเป็นศิลปะ
แปะๆๆ!
ผมปรบมืออย่างจริงใจ กายกรรมที่ยูเรียแสดงผมก็ทำได้ ที่ผมนับถือคือการใช้พลังเวท เธอใช้มานาเท่าที่จำเป็น ไม่มากหรือน้อยเกินไป ผมที่โตมาในป่าโอลิมปัสที่พลังเวทปั่นป่วน การควบคุมแบบนั้นถึงจะทำได้แต่ก็ยังยากอยู่ดี
ผู้เข้าสอบคนอื่นต่างทึ่งกับการควบคุมพลังเวทของยูเรีย พวกเขาหยุดบินและเหม่อมองการบินของยูเรีย
“ทำอะไรกัน! สำหรับนักเวทแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสมาธิ! แต่พวกเจ้ากลับวอกแวกระหว่างใช้เวทมนตร์! ตัดคะแนนทุกคน!”
เมื่อกรรมการขมวดคิ้วและตำหนิ ผู้เข้าสอบคนอื่นก็เริ่มบินต่อด้วยสีหน้าเหมือนจะพูดว่า ‘อุ๊บ’
กรรมการขมวดคิ้วและใส่ ‘-5’ ให้ทุกคนยกเว้นยูเรีย แต่เหมือนว่าตรงช่องของยูเรียมี ‘-10’ อยู่แล้ว ผมต้องดูผิดแน่ ผู้คุมสอบอยู่ไกลและผมไม่ได้ใช้เวทมนตร์ดู การบินที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ไม่มีทางถูกตัดคะแนนได้
หลังสอบการบินก็เริ่มสอบการยิงทันที ขณะผู้เข้าสอบคนอื่นกำลังรวบรวมพลังเวทหลังจากบิน มีแต่ยูเรียที่กำลังควบคุมและปั้นพลังเวท ทันใดนั้นเอง อักษรเวทมนตร์ที่หมายถึง “ห่อหุ้ม”, “ยิง” และ “หมุน” ก็ปรากฏหน้ายูเรียเพื่อสร้างวงเวท
เธอเติม “สร้างซ้ำ” กับ “ทวนใหม่” เข้าไป จากนั้นตะโกนคาถา “ผลึกยิงต่อเนื่องราชินีน้ำแข็ง!”
ในเวลาเดียวกับที่ยูเรียตะโกน วงเวทหมุนอย่างรุนแรง และกระสุนเวทยิงใส่เป้าอย่างต่อเนื่องเหมือนปืนกล เปลี่ยนเป้าเป็นรังผึ้งในทันที
จากคาถาและวงเวท ของเดิมน่าจะเป็นเวทสายธาตุที่ยิงผลึกน้ำแข็ง แต่ดูเหมือนยูเรียจะเปลี่ยนน้ำแข็งเป็นกระสุนเวทไร้ธาตุเอาตรงนี้
เพราะเหตุนี้ความแรงจึงดูจะลดไปครึ่งหนึ่ง แต่ตัดขั้นตอนสร้างน้ำแข็งไปความเร็วในการสร้างเวทจึงน่าจะเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ผมคิดว่าประโยชน์ของเวทเดิมถูกทิ้งไป เทียบกับคนอื่นถือว่าน่าประทับใจ แต่เทียบกับการบินตอนแรก การดัดแปลงเวทมนตร์กะทันหันถือว่าเละ
หลังสอบการยิง ผู้เข้าสอบแสดงเวทมนตร์ที่ถนัดทีละคน ผมสนใจว่ายูเรียจะใช้เวทธาตุที่เธอบอกว่าเป็นเวทหลักของเธอ หรือใช้การเล่นแร่แปรธาตุที่เป็นเหตุผลให้เธอมาเมืองหลวง ไม่ว่าจะทางไหนก็เป็นโอกาสอันหาได้ยากที่ได้ดูเวทมนตร์ของเผ่าผีเสื้อ
ไม่ใช่ผมคนเดียวที่สนใจเวทมนตร์ของยูเรีย บรรดากรรมการที่นั่งอยู่ดูจะคาดหวังแม้จะทำเป็นเฉย หลังจากการแสดงที่ไม่มีอะไรมากผ่านไปทีละอย่าง ยูเรียหันหลังให้ทุกคนทั้งผู้เข้าชมและกรรมการ ยื่นแขนสองข้างไปทางลาน พลังเวทของเธอกระเพื่อม พลังเวทที่ปกติมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเปลี่ยนเป็นสีออกน้ำเงิน หมุนรอบแขนของเธอ
“หมาป่าน้ำแข็งวิ่งพากระแสลมเหนือ-”
ตอนสอบยิงเวท มันเป็นวงเวทใช้ตัวอักษรเวทมนตร์ แต่ตอนนี้มันเป็นเวทธาตุที่ใส่คุณสมบัติให้พลังเวทบริสุทธิ์ ยิ่งสีของพลังเวทรอบแขนยูเรียชัดเจนมากขึ้นเท่าไหร่ อุณหภูมิรอบๆก็ยิ่งต่ำลง ลมเย็นพัดผ่านเหมือนเปิดเครื่องปรับอากาศตอนหน้าร้อน
“กองทัพอารักขาราชินีมุ่งหน้า-”
ยูเรียตั้งสมาธิไปที่พลังเวทรอบแขนเพื่อรอเวลาสร้างเวทมนตร์ เมื่อเธอคิดว่า ‘ตอนนี้ล่ะ’ เธอโบกมือที่รวมพลังเวทไว้และตะโกน “นี่คือดินแดนของราชินีน้ำแข็ง! จงมา! ปราสาทน้ำแข็ง!”
พลังเวทสีน้ำเงินจากแขนเริ่มหมุนคลุมลาน และในพริบตาเดียว ปราสาทน้ำแข็งขนาดเล็กก็ถูกสร้างขึ้นตรงกลางลาน แม้มันจะเล็กกว่าปราสาทของจริงแต่ก็กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของลานที่ใหญ่พอวางคฤหาสน์สองหรือสามหลัง มันให้ความรู้สึกใหญ่โตน่าเกรงขาม
“นี่มัน!”
กรรมการที่นั่งตรงกลางตกใจ ผู้ชม ผู้เข้าสอบ กระทั่งนักเวทที่ทำหน้าที่เป็นผู้คุมสอบบางคนแค่คิดว่ามันเป็นเวทขึ้นรูปที่ใช้เวทมนตร์ธาตุ แต่กรรมการไม่มีแต่ชื่อ และตระหนักถึงธาตุแท้ของปราสาทน้ำแข็งนี้
“-ประกาศิตครองแดน”
กรรมการที่นั่งด้านซ้ายผู้ชอบขมวดคิ้วพูดต่อ กรรมการที่นั่งด้านขวาร้องอย่างเหลือเชื่อ
“นั่น!”
กรรมการทั้งสามมองปราสาทน้ำแข็งอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ประกาศิตครองแดน – เวทมนตร์ที่ถือเป็นเวทขั้นสุดยอด เขตแดนที่นักเวทประกาศครอบครองเท่ากับเป็นของนักเวทคนนั้น นักเวทที่มีเขตแดนจะมีเพิ่มพลังให้เวทมนตร์ทุกอย่างและขัดขวางเวทมนตร์ของคนอื่น มีอำนาจสูงสุดก็ว่าได้
ผมมองปราสาทน้ำแข็งอย่างตั้งใจ ประกาศิตครองแดนไม่ใช่เวทมนตร์ที่เห็นได้บ่อย คนที่จะใช้ประกาศิตครองแดนได้ต้องเป็นคนที่อยู่จุดสูงสุดของจอมเวทอยู่แล้วและเข้าถึงวิถีแห่งเวทมนตร์
แปลก!
เท่าที่ผมเห็น ยูเรียยังไม่เข้าถึงวิถีเวทมนตร์ ไม่อย่างนั้นเธอก็น่าจะรู้สึกถึงพลังเวทของผมที่ซ่อนไว้ ถึงจะเป็นไปได้ว่าเธอมีระดับสูงกว่าผมมากและปิดบังความสามารถไว้แต่ไม่น่าใช่
ผมมองปราสาทน้ำแข็งด้วยสายตาสงสัย ประกาศิตครองแดนเป็นเวทมนตร์ที่เข้าใจด้วยการมองอย่างเดียวไม่ได้
มาวิเคราะห์กัน... มองภายนอก ยูเรียยืนอยู่นอกเขตแดน เขตแดนคือพื้นที่ที่นักเวทประกาศครอบครอง เขตแดนที่ไม่มีนักเวทก็เหมือนดินแดนร้าง ปกติเวลาประกาศครอบครองเขตแดน ดินแดนจะขยายออกโดยมีนักเวทเป็นศูนย์กลาง ดูจากจุดที่ยูเรียยืนอยู่ หรือว่าเธอไม่อยากให้คนรอบข้างตกอยู่ในเขตแดนและได้รับบาดเจ็บ? เหลวไหล! เขตแดนทำอันตรายใครไม่ได้ถ้าเจ้าของไม่ต้องการ เขตแดนที่เจ้าของควบคุมไม่ได้ไม่ใช่เขตแดน
เดี๋ยว ควบคุมไม่ได้? เป็นไปได้นะ
ถ้าเป็นแค่การเลียนแบบประกาศิตครองแดน การสร้างให้ห่างตัวก็มีเหตุผลอยู่
ผมมองยูเรียแทนปราสาทน้ำแข็ง
จริงๆด้วย! ผมรู้สึกถึงปราสาทน้ำแข็งจากตัวเธออย่างจางๆ ถ้าเป็นเขตแดนของจริง ปราสาทน้ำแข็งกับยูเรียต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย
เมื่อเห็นจุดอ่อนแล้วผมก็เริ่มสังเกตเห็นข้อบกพร่องต่างๆในปราสาทน้ำแข็ง สรุปแล้วนี่ไม่ใช่ประกาศิตครองแดน ตั้งชื่อว่า ประกาศิตครองแดนแบบจำลองดีไหม?
ถ้าจะให้อธิบายคือ เจ้าของไม่มีอำนาจสูงสุดในเขตแดนแต่จะได้รับการสนับสนุน มันเป็นเวทมนตร์แบบใหม่ที่เลียนแบบประกาศิตครองแดน แม้จะยังอยู่ในขั้นที่ยากต่อการใช้งาน แต่เวทมนตร์นี้ถือว่าเยี่ยม
ถ้าเวทมนตร์นี้พัฒนาจนใช้ได้จริงๆ มันจะคุ้มค่ากว่าประกาศิตครองแดนมาก ถ้าเทียบเวทมนตร์กับเกมเตตริส ประกาศิตครองแดนเป็นเวทมนตร์ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ราคาเป็นแสน
ส่วนปราสาทน้ำแข็งของยูเรีย ถึงจะไม่สมบูรณ์ แต่เหมือนเกมเตตริสในแล็ปท็อปสเป็คต่ำ เล่นเกมเตตริสในคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมกับในแล็ปท็อปมันต่างกันตรงไหน?
ดังนั้นผมจึงอยากปรบมือให้ในเรื่องความคุ้มค่า ประกาศิตครองแดนพบเห็นไม่ง่ายไม่ใช่แค่เพราะคนที่ทำได้มีไม่มาก แต่คนที่ทำได้ปกติก็ไม่ทำด้วย เพราะพวกเขาแข็งแกร่งจนไม่ต้องใช้มันอยู่แล้ว
ไม่เหมือนผม กรรมการดูจะไม่รู้ว่าเวทมนตร์ของยูเรียไม่ใช่ประกาศิตครองแดน ถึงผมจะเกือบถูกหลอก แต่เมื่อผิดสังเกตไปหนึ่งอย่างก็จะเห็นข้อแตกต่างชัดเจน น่าผิดหวัง
ยูเรียมองปราสาทน้ำแข็งที่สร้างขึ้นและทำหน้ามุ่ยนิดๆ ดูเหมือนจะรู้ว่าเวทมนตร์ของเธอล้มเหลว
ในความเห็นของผม ต่อให้เธอแค่ใช้เวทมนตร์ธาตุสร้างปราสาทน้ำแข็งใหญ่ขนาดนั้นก็ถือว่าผ่านแล้ว แต่ยูเรียดูไม่พอใจและลบปราสาททิ้ง เหลือแต่ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ แล้วการสอบเข้าของยูเรียก็จบลงดังนี้
ขอบคุณครับ สนุกมาก
ตอบลบคนแปลชอบตอนนี้ล่ะ เดนเข้มงวดกว่ากรรมการคุมสอบอีก XD
ลบ