โรงแรม KH
มีเพียงบุคคลได้รับเชิญที่สามารถเข้ามาในห้องโถงประชุมได้ แต่เนื้อหาในงานประชุมไม่ได้เป็นความลับ
บุคคลสำคัญที่จัดงานประชุมนี้ขึ้นมายังไม่มาถึง
โถงประชุมจัดเหมือนงานเลี้ยง ทุกคนจับกลุ่มสนทนากัน ไม่มีใครสนใจอาหารที่จัดวางแบบบุฟเฟต์
คนที่ได้รับเชิญเป็นเราส์ระดับโลก และคนตำแหน่งสำคัญในกิลด์ล้วนอยู่ที่นี่
นี่เป็นงานชุมนุมที่คังวูจินจัดขึ้น แค่เรื่องนี้ก็ทำให้บางคนอยากเข้าร่วมแล้ว กิลด์ระดับกลางไม่แม้แต่จะได้ที่นั่งในงานนี้
พวกเขาไม่พอใจ แต่จะให้ทำอย่างไรได้
จุงมินชานบังเอิญไปเห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนไหล่ตก มินชานยิ้มแล้วเดินไปหาเขา
“ไอ้หยา ประธานปาร์คใช่ไหมนี่?”
ประธานกิลด์แฮมเมอร์ ปาร์คซังโอกำลังดื่มเครื่องดื่มแต่แล้วก็ต้องสำลัก
“แฮ่ม ตอนนี้ผมควรจะเรียกคุณว่านายกฯจุงแล้วสิ?”
“ฮ่าๆๆ นั่นสินะ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีของอลันดาล”
“...”
ครั้งหนึ่ง เขาเคยเป็นประธานกิลด์ของอดีตหัวหน้าทีมที่รับผิดชอบทีมสนับสนุนระดับล่างคนนี้ ตอนนี้ระหว่างพวกเขามีความเข้าใจกันแบบชวนกระอักกระอ่วน
“ได้ยินว่าคุณลำบากพอดูกับการจัดงานนี้”
“แย่เลยคุณ หลายกิลด์ขู่ผมจะเอาบัตรเชิญ มีพวกก่อการร้ายขู่โจมตีล่วงหน้าด้วยนะ แล้วยังมีคำสั่ง...”
ดูเหมือนปาร์คซังโอจะลำบากมามาก ใต้ตาเขาเป็นสีดำ ผิวดูหยาบด้าน เขาดูแก่ขึ้นมาก
“พวกเราคงเรียกร้องเกินความจำเป็นมากไป”
“ไม่หรอก ผมเข้าใจว่าทำไมต้องตั้งข้อเรียกร้องพวกนั้น”
ไม่ใช่ว่ามินชานไม่เห็นใจความลำบากของปาร์คซังโอ
นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงวันเกิด ที่แค่เลือกสถานที่แล้วส่งคำเชิญ
งานประชุมนี้มีคังวูจินเป็นคนนำ...
งานประชุมนี้จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอัลเฟนและดันเจี้ยนให้มากขึ้น
แน่นอน ทั้งโลกย่อมพุ่งความสนใจมาที่งานนี้อย่างช่วยไม่ได้ คนนับไม่ถ้วนส่งคำขอหรือคำขู่เอาคำเชิญร่วมงาน ปาร์คซังโอต้องวางแผนปกป้องทุกคนอย่างระมัดระวัง อย่างแรก เขาต้องหาสถานที่ ต้องหาคนมารักษาความปลอดภัย...
เวลาผ่านไป ความสนใจในงานนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีหลายๆด้านที่ต้องคอยกังวล ทำให้ความคืบหน้าของการจัดงานยิ่งช้าลง
ปาร์คซังโอต้องทนทรมานกับสภาพการณ์แบบนั้น
เมื่อกิลด์ KH ยืนยันจะจัดการงานประชุม ปาร์คซังโอก็โยนหน้าที่ไปให้กิลด์ KH ทันทีเหมือนโยนความเครียดที่สั่งสมมาทั้งหมดทิ้งไป
สถานที่จัดงานตัดสินให้จัดที่โรงแรม KH คำเชิญถูกส่งใหม่ ที่ตลกคือ คำเชิญที่ส่งไปใหม่นั้นส่งทางอีเมล์
การเตรียมการทั้งหมดที่ปาร์คซังโอทำมากลายเป็นสูญเปล่า
กิลด์ KH เตรียมงานด้วยท่าทีผ่อนคลาย
คำบ่นและคำขู่มีมากกว่าเดิม แต่กิลด์ KH และอลันดาลเพิกเฉยมันทั้งหมด
“แบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ?”
“หมายถึงอะไร?”
“บางกิลด์ไม่ได้รับคำเชิญอย่างเจาะจง พวกเขาเลยถือว่าอลันดาลไม่สนใจ...”
“คำเชิญของเราส่งถึงทุกกิลด์ในโลกนะ”
“ไม่นะ พวกคุณแค่โพสท์บน SNS...”
“ก็น่าจะพอแล้ว”
“...”
พวกเขากำลังติดต่อกับเราส์ระดับ VIP ของโลก
ไม่ต้องมองไปไกล กิลด์ขนาดใหญ่หลายแห่งในจีนรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเมื่อไม่ได้รับคำเชิญเป็นทางการ พวกเขาจึงไม่มางานนี้
ปาร์คซังโอนึกถึงความยากลำบากที่ผ่านมา กิลด์ที่ไม่สบอารมณ์เหล่านี้สร้างความขัดแย้งไม่น้อย
“นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกเอง”
“อา...”
นี่ใช่จุงมินชานที่เขารู้จักเหรอ?
ว่ากันว่าที่ทำงานเป็นสถานที่สร้างคน จุงมินชานใจกล้าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ตอนนั้นเอง ชายร่างล่ำคนหนึ่งเดินมาหาพวกเขา
“โอ้ นายกฯจุง”
“ประธานเบค...”
ประธานกิลด์ KH เบคจองโดนวดไหล่เดินเข้ามา
“ผมนอนกลางดินกินกลางทรายนานซะจนนอนพักเท่าไหร่ก็ไม่หายเหนื่อยแล้ว”
“ฮ่าๆ คุณก็พูดเกินไป ได้ยินว่าคุณไปวัดระดับใหม่ กลายเป็นเราส์แรงค์ AA แล้ว ยินดีด้วย”
“หา? ข่าวมาไกลถึงนี่แล้วเหรอ?”
“ตอนนี้มีบทความออกมาตั้งเยอะ ผมไม่รู้ได้เหรอ?”
“ฮ่าๆ ก็จริง”
เมื่อเบคจองโดกลับกิลด์ เขาวัดระดับใหม่เพราะอยากรู้ผลที่ได้จากการฝึก ที่ผิดคาดคือกลายเป็นว่าแรงค์ของเขาเลื่อนขึ้นเป็นแรงค์ AA
ถ้าไม่นับคังวูจิน เบคจองโดเป็นเราส์แรงค์ AA คนแรกของเกาหลีอย่างเป็นทางการ
“เออ เจมินน่าจะเป็นแรงค์ AA สตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อยต้องแรงค์ S อยู่แล้ว คุณว่าบลังกากับฮีซอลก็คงแรงค์ AA ด้วยไหม”
“เรายังไม่ได้วัดระดับพวกเขาเลย ตอนนี้ก็ได้แต่คาดเดากันไป”
“ฮ่าๆ อลันดาลถ่อมตัวเกินไป ไม่ต้องวัดน้องซุงกูยังได้ ผมแน่ใจว่าเขาอย่างน้อยแรงค์ AA”
“...”
จุงมินชานยิ้มนิ่ง ความเร็วในการพัฒนาตัวเองของซุงกูเหนือกว่าใครในโลก
“แน่นอน ถ้าเขารอดตายกลับมาได้นะ ฮ่าๆ”
“...”
จุงมินชานไม่ขำด้วย
ปาร์คซังโอฟังบทสนทนาแล้วลืมตาโตอย่างแปลกใจ
“เราส์ของอลันดาลเก่งขนาดนั้นทุกคนเลยเหรอ?”
“หา? ประธานปาร์คไม่รู้สินะ ขนาดเด็กใหม่ที่พวกเขารับมายังดูใช้ได้เลย”
“ฮ้า...”
อลันดาลเป็นโรงงานผลิตสัตว์ประหลาดเหรอ? พวกเขาทำอย่างไรถึงหาอัจฉริยะเหล่านี้มาได้?
ปาร์คซังโอมองจุงมินชาน สมัยอยู่กิลด์แฮมเมอร์ หัวหน้าทีมจุงมินชานเก่งเรื่องค้นพบคนมีความสามารถ
ตอนนี้เขาเปลี่ยนกิลด์ เริ่มจากเป็นรองประธานกิลด์ จากนั้นก็ช่วยก็ตั้งประเทศ ตอนนี้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนั้นแล้ว
‘ฉันไม่น่าปล่อยเขาไปเลย’
เขาควรรับฟังและสนับสนุนมินชานเต็มที่ แต่ถึงแม้จะเสียใจทีหลังก็สายไปแล้ว
“อา ดูท่าท่านประธานจะมาแล้ว”
ทางเข้ามีคนเต็ม มองเห็นแสงแฟลชจากกล้อง จุงมินชานเดินไปทางนั้น ทุกคนในห้องโถงพุ่งความสนใจไปที่ทางเข้า
มินชานเจอวูซุงฮุนตรงบริเวณทางเข้า จึงถาม
“ท่านประธานไปไหนแล้ว?”
“ผมพาท่านไปที่ห้องเตรียมตัว ท่านบอกให้คุณเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเร็วๆ”
“อืม คุณเตรียมข้อมูลแล้วยัง?”
“พวกเราเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วครับ”
“ดีล่ะ รีบไปกันเถอะ”
ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลานัดหมาย ทำไมถึงรีบนัก... ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปทางห้องเตรียมตัว ไม่นานก็มีประกาศถึงทุกคนเรื่องเริ่มการประชุม
***
ห้องทำให้นึกไปถึงห้องบรรยายขนาดใหญ่ในวิทยาลัย คนนั่งเบียดกันบนที่นั่ง แม้มันจะนั่งไม่สบายก็ไม่มีใครบ่น
บางกิลด์ในที่นี้รู้บ้างแล้วว่าจะคุยเรื่องอะไร
คนที่รู้เก็บมันไว้เป็นความลับ แต่คังวูจินจะเปิดเผยทุกสิ่งให้โลกรู้ คาดเดาไม่ได้เลยว่ามันจะส่งผลกระทบแบบไหน
กล้องบันทึกภาพต่อไป งานเป็นถ่ายทอดสดไปทั่วโลก จุงมินชานขึ้นเวที
“ผมชื่อจุงมินชาน นายกรัฐมนตรีของอลันดาล”
เขายิ้มเรื่อยๆ แต่ภายในกำลังสั่นสะท้าน
แม่ของเขาคงนึกไม่ถึงว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ที่ทุกคนให้ความสนใจเขา
จุงมินชานเคยอยากประสบความสำเร็จ แต่ความทะเยอทะยานของเขาไม่ถึงขั้นนี้ แต่หลังจากได้พบกับคังวูจินเขาก็มาถึงจุดนี้
“ก่อนพระราชาจะขึ้นมาตรงนี้ ผมจะอธิบายคร่าวๆถึงข้อมูลที่เราพบเกี่ยวกับดันเจี้ยนต่างๆ”
มินชานเปิดเพาเวอร์พ้อยท์
“ทราห์เน็ต พวกเราได้ยินชื่อนี้มาไม่นาน คนแรกที่กล่าวถึงมันคือราชาของอลันดาล คุณคังวูจิน”
คำว่า ‘ทราห์เน็ต’ ปรากฏบนหน้าจอ จากนั้นดาวต่างๆก็ก่อตัวรอบๆมัน
“เรามองมันเป็นเครือข่ายระหว่างดาวต่างๆ เส้นทางถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนไป
มันเป็นรูปฝูงมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนระเบิดทั่วโลกครั้งล่าสุด เน้นไปที่มังกรที่ห่อตัวรอบต้นไม้ขนาดยักษ์เหมือนกำลังปกป้องต้นไม้นั้น
“ลอร์ดมิติใช้เส้นทางเหล่านี้ในการบุกรุก พวกมันมีอีกชื่อว่ามอนสเตอร์ลอร์ด พวกมอนสเตอร์คือทหารของมัน”
จากนั้นก็เป็นรูปสถานีรถไฟใต้ดิน
“ลอร์ดมิติต่างมีอาณาเขตมิติของตัวเองแยกต่างหาก พวกเราเรียกว่าดันเจี้ยนระดับสูง ดันเจี้ยนพวกนี้เป็นเหมือนประตู แต่ทว่า ประตูทุกบานไม่ได้เปิดมาที่โลก”
ภาพเปลี่ยนอีก เป็นรูปพลอยสีเขียว
“ถ้าดันเจี้ยนคือประตู หินรีเทิร์นสโตนก็เทียบได้กับกุญแจ”
“ในตอนนี้ การประสานต้องใช้เวลา 30 วัน ถ้าไม่มีใครชิงกุญแจไปได้ พวกมันจะเปิดประตูได้ เรียกว่าดันเจี้ยนระเบิด ถ้ากุญแจถูกชิงไปได้ มอนสเตอร์จะติดอยู่ในดันเจี้ยนจนกว่าพลังงานถูกใช้ไปหมด นั่นคือกลายเป็นเหมือง”
มีคนยกมือถาม
“คุณจะอธิบายดันเจี้ยนที่เบรกก่อนเวลา 30 วันว่ายังไง?”
“เรื่องนั้นผมจะอธิบายถัดจากนี้”
จุงมินชานไปต่อที่สไลด์ถัดไป
“สรุปง่ายๆ เจ้าของบ้านเป็นคนเปิดประตู คนจากโลกนี่เอง พระราชาสอบสวนอดีตประธานกิลด์ฮวาราง ลีซังโฮแล้ว เขาเป็นต้นเหตุ”
หน้าจอเปลี่ยนเป็นภาพวิดีโอตอนคังวูจินไปอเมริกา มันแสดงการยิงจรวดก่อการร้ายและโกเลมเหล็ก โดลเซ กำลังสู้กับเหล่ามอนสเตอร์
“สถานที่นี้เคยเป็นพื้นที่ใช้ในการทดลอง นี่เป็นครั้งแรกที่ดันเจี้ยนก่อตัวนอกสถานีใต้ดิน การทดลองนี้ทำโดยองค์กรริเวอร์และศาสตราจารย์ริโอลา ตามที่พวกคุณเห็น พวกเขาทำสำเร็จ”
นี่ไม่ใช่แค่ป้องกันสถานีใต้ดินแล้ว
ทำอย่างไรดี? ความรู้สึกถึงอันตรายทำให้บรรยากาศในห้องโถงหนักอึ้ง
“จากนี้ไปพระราชาของอลันดาลจะออกมาพูด”
ไม่มีใครบอก แต่ทุกคนยืนขึ้นเมื่อวูจินมาถึง วูจินเดินขึ้นเวทีเหมือนกำลังขึ้นไปบรรยายบทเรียน เขามีทีท่าไม่แยแสเหมือนรู้อยู่แล้วว่าจะได้รับการต้อนรับเช่นนี้
“นั่งเถอะ ทุกคนคงรู้ว่าฉันเป็นใครดังนั้นจะไม่แนะนำตัวอีก พูดเลยแล้วกัน”
วูจินหยิบพลอยม่วงเม็ดหนึ่งออกมา มันส่องแสงจ้าพร้อมทั้งปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา
“ในเหตุวุ่นวายครั้งก่อน บางประเทศเก็บสิ่งนี้ได้ใช่ไหม? อังกฤษซื้อจากฉันไปหนึ่งอัน”
ระหว่างนี้มีการวิจัยพลอยแบบนี้ในหลายๆแห่งบนโลก วูจินเปิดเผยความลับออกมา เขากำลังพูดถึงการวิจัยและไอเทมที่อาจมีมูลค่าเป็นพันล้าน
“ถ้ารวมหินได้ 3 อัน นายจะได้สิทธิ์เป็นลอร์ดมิติ ถ้าใช้หิน 1 อันก็จะได้ดันเจี้ยน”
คนหนึ่งทนนิ่งต่อไปไม่ไหว เขายกมือขึ้นถาม
“ถ้าอย่างนั้นคุณคังวูจินก็เป็นลอร์ดมิติด้วยเหรอ?”
“แน่นอน”
“...”
คนในห้องส่งเสียงฮือฮา
ยิ่งกว่านั้น คนส่วนใหญ่ในห้องยังเกิดความเข้าใจอย่างหนึ่งขึ้นมา พวกเขาเชื่อว่าพลังมหาศาลอันอธิบายไม่ได้ที่วูจินมีนั้นไม่ได้เป็นของเขาเอง
“คุณไม่ละอายใจเลยเหรอ? เก็บของที่ให้ผลประโยชน์ขนาดนั้นไว้คนเดียว?”
วูจินหันไปมองคนที่ถาม
“ผลประโยชน์?”
วูจินยิ้ม
ถ้าการไขว่คว้าพลังคือผลประโยชน์ เขาก็กำลังใช้ผลประโยชน์ที่ได้นั้นอย่างเต็มที่อยู่จริงๆ แต่มันก็นำมาซึ่งความรับผิดชอบมากกว่าเช่นกัน
“งั้นทำไมนายไม่ไปหามาใช้เองบ้างล่ะ”
“...”
ที่วูจินพูดไปออกจะหน้าด้านเล็กน้อย แต่มันทำให้คนถามนั่งลง จุงมินชานหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ มันเป็นคำตอบที่สมเป็นคังวูจินมาก
“จุดสำคัญคือเส้นทางเชื่อมต่อกับโลกมันเปิดแล้ว การบุกรุกโลกจะเกิดขึ้นต่อไป สำหรับฉันนี่ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกทั้งหมดนี่กับทุกคนทำไม”
เกิดเสียงดังจ้อกแจ้กในกลุ่มคน วูจินพูดต่อ
“ฉันต้องการปกป้องครอบครัว ไหนๆแล้วก็ปกป้องโลกไปด้วย ปกป้องโลกเป็นเรื่องรอง เป้าหมายหลักของฉันคือความปลอดภัยของคนในครอบครัว”
อา ไม่ใช่ว่ามันควรจะกลับกันเหรอ?
“มีวิธีเหรอ?”
“มี”
คังวูจินพูดอย่างมั่นใจ
“ฉันซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน ฉันจะให้ครอบครัวอยู่ที่นั่น และฉันจะปกป้องมัน”
ได้ยินแล้วบางคนพึมพำคำว่า ‘เรือโนอาห์’ ขึ้นมาเบาๆ
บรรยากาศในห้องโถงมาคุ จุงมินชานหน้าเครียด
คนมีอำนาจควรจะรู้จักตีสองหน้าบ้าง คังวูจินเถรตรงเกินไป...
“คุณกำลังจะบอกว่าจะช่วยแต่ตัวเอง?”
“ไม่ใช่ นี่คือการเตือน ศัตรูของฉันไม่ได้มีอยู่แต่ในโลกอื่น”
คังวูจิน เราส์ที่เก่งที่สุดในโลก บอกว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา... เขาบอกว่าครอบครัวของเขาอยู่เหนือทุกสิ่ง นี่คือคำเตือนไม่ให้ใครมายุ่งกับพวกเขา
“ฉันไม่อยากพล่ามต่อหลังจากเรียกพวกนายมาที่นี่ นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะบอก”
คังวูจินมองคนฟังที่กำลังกระสับกระส่ายแล้วพูด
“เมื่อศัตรูมารวมกันที่นี่เราจะทำยังไงได้บ้าง?”
วิธีแก้? วิธีแก้มันมีอยู่แล้ว พวกเขาไม่ได้มารวมกันที่นี่เพื่อหาวิธีแก้
“เราสามารถลดจำนวนเส้นทางที่เชื่อมต่อมายังที่ของเรา จากนั้นก็ร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู”
วูจินกำลังตอบคำตอบที่มันชัดเจนอยู่แล้ว
ตอนนี้พวกเขากำลังทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในการลดการเชื่อมต่อกับดันเจี้ยน ดันเจี้ยนไหนที่ต้องระเบิดอย่างช่วยไม่ได้นั้นพวกเขาก็ร่วมมือกันจัดการกับมัน
ข้อเสนอนี้มีต่างไปอย่างเดียวคือคังวูจินวางแผนจะให้โลกรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
“คุณเตรียมทางรอดไว้ให้ตัวเองแล้วนี่ คุณอยากให้พวกเราเป็นโล่บังกระสุนให้เหรอ?”
ใครคนหนึ่งตะโกนด้วยความโกรธ วูจินยิ้ม
“ไม่มีทาง”
วูจินตะโกนอย่างห้าวหาญ
“ฉันจะเป็นคนนำอยู่ข้างหน้าเอง”
เกี่ยวกับเวลาอัพตอน เรื่องนี้อัพอาทิตย์ละตอนค่ะ อัพช่วงเสาร์อาทิตย์ ส่วนใหญ่ก็วันอาทิตย์แหละ
นิยายเรื่องนี้ 208 ตอนจบ ก็เหลืออีก 45 ตอน สรุปคือกว่าเราจะแปลจบ ถ้าไม่เลิกไปก่อน ก็ราวปี 2564
ใครอยากอ่านจบเร็วๆ แนะนำวิธีที่เราชอบใช้ MTL โลดค่ะ เปิด Google Chrome หาเรื่องนี้ในเว็บอ่านนิยาย (ลิงค์ในสารบัญมันเสียแล้วแต่เราขี้เกียจแก้) กดตรงปุ่มแปลหน้านี้ มันจะแปลเป็นภาษาไทยให้เลย มันอ่านเข้าใจแหละแค่จะรู้สึกติดขัดหน่อยๆ ช่วยแก้อาการค้างไปได้มากค่ะ ^^
ขอ3วันตอนได้ป่ะ
ตอบลบรอต่อไปอย่าเถียง😂😅
ตอบลบรออ่านเรื่อยๆครับ ว่าแต่มันจะจบแล้วหรือนี่ นึกว่ามันจะยืดซะอีก
ตอบลบอือ Solo leveling ตั้ง 273 ตอน(นิยาย)แต่นี่มันสั้นไปหน่อย ว่าไหม?
ลบช่าย ผมนึกว่าภาคไปตบกันที่ต่างดาวจะยืดซะอีก
ลบขอบคุณที่แปลให้อ่านครับ
ตอบลบเอื้ออออ #ค้างอีกแล้วว >..<
ตอบลบรอนะจ้ะ
ตอบลบรอ นอน รอ นะครับ
ตอบลบจะจบแล้วสินะเรื่องนี้~เดี๋ยวสิ...กว่าจะแปลจบอีกตั้ง2ปี..(=w=)
ตอบลบ