วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 37


บทที่ 37 – ตั้งกิลด์กันเถอะพวกเรา (2)

ณ โรงแรมที่กิลด์แฮมเมอร์ครอบครอง
ห้องโถงขนาดใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน
ดูเหมือนว่านอกจากคนที่มีต้องทำงานกะกลางคืนแล้วคนอื่นทุกคนจะมารวมกันที่นี่
“ตายห่า”
“หัว...หัวหน้าทีม ทำไงดีล่ะ”
“ฉันจะรู้เรอะ?”
นี่ไม่ใช้บรรยากาศที่เขาจะขอคุยแบบส่วนตัวได้เลย
ราวกับว่าเชฟของโรงแรมทุกคนกำลังเตรียมอาหารบุฟเฟต์ ทุกคนกำลังรื่นเริง แต่ยิ่งนานสีหน้าของจุงมินชานกับคิมเฮมินยิ่งมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ
หัวหน้าแผนกสนับสนุนคนก่อนถูกย้าย มินชานได้เลื่อนตำแหน่งแทนที่เขา
ประธานกำลังนั่งตรงโต๊ะสำหรับผู้บริหาร มินชานถูกเพื่อนร่วมทีมห้อมล้อม คอยรับคำอวยพรที่ได้เลื่อนตำแหน่งไม่หยุดหย่อน
ตอนนั้นเอง คิมเฮมินยื่นซองจดหมายให้มินชาน
“ทำอะไร?”
“กรุณารับจดหมายลาออกของผมด้วยครับ”
“...”
“อย่างน้อยผมก็รอดไปคนนึงนะ”
“แต่เราจะไปที่เดียวกันนี่”
“ผมว่าจะไปก่อนแล้วขอตำแหน่งดีๆ ไม่แน่อาจจะได้ตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าทีมจุงก็ได้ใครจะรู้?”
สาด ปกติเจ้านี่ก็ห้าวอยู่แล้ว แต่ทำไมวันนี้ยิ่งลามปามนัก
“อ่า อยู่ที่แบบนี้แล้วตะครั่นตะครอตัวไงไม่รู้ กินอะไรไม่ลง งั้นผมไปก่อนนะ หัวหน้าทีมสู้ๆ!
“เฮ้ย”
เฮมินหายตัวไปอย่างรวดเร็วเหมือนไม่อยากถูกจับตัวไว้ มือของมินชานที่กำจดหมายลาออกไว้แน่นสั่นเทิ้ม
“หัวหน้าแผนก ให้ผมรินเหล้าให้นะครับ”
“อ๊ะ เอาสิ”
พนักงานเรียกเขาว่าหัวหน้าแผนกแล้ว และเข้ามาประจบเอาใจ มินชานรับการรินเหล้าจากพวกเขาแก้วแล้วแก้วเล่า เพราะเขารู้ว่าไม่ควรปฏิเสธ
ถ้าเขาลาออก มินชานอาจไม่ได้ไปไหนมาไหนกับคนในกิลด์อีก แต่สังคมกิลด์นั้นแคบมาก อย่างไรก็มีโอกาสเจอกัน ถ้าจะลาออกก็ควรจากไปด้วยดี ไม่อย่างนั้นมันจะกลับมาขัดขวางวูจินกับกิลด์ใหม่ของเขา
เขาไม่รู้ว่าดื่มไปกี่แก้วแล้ว
“อึก”
มินชานลุกจากโต๊ะ เดินไปทางโต๊ะของผู้บริหาร
“ฮะๆๆ ยินดีกับท่านประธานที่มีกิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเกาหลีด้วยนะครับ”
“ฮ่าๆๆ ทำไมพูดแบบนั้นเล่า ทั้งหมดก็เพราะความพยายามของพวกคุณนั่นล่ะ”
มินชานกระตุ้นเตือนตัวเองเมื่อเห็นปาร์คซังโอ เขามีท่าทางร่าเริงอย่างที่มินชานไม่เคยเห็นมาก่อน พูดดีให้ตายเขาทำปาร์คซังโอเสียหน้าก็คือทำปาร์คซังโอเสียหน้า จากกันด้วยดีอะไรนี่มันเป็นไปไม่ได้
“ขอโทษครับท่านประธาน”
“โอ๊ะโอ นี่มันดาวอันดับหนึ่งของกิลด์เรานี่นา หัวหน้าแผนกจุง มาๆ มานั่งนี่”
บรรดาผู้บริหารมองมินชาน
บางคนเป็นคนที่จุงมินชานดึงตัวเข้ามาเมื่อก่อน พวกเขาเป็นเราส์แรงค์ B ทั้งนั้น ระดับแรงค์และสถิติการโจมตีดันเจี้ยนทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับอย่างสูง
เพื่อนรุ่นเดียวกันได้รับการเลื่อนขั้นในเวลารวดเร็วเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงมีเราส์ไม่กี่คนนักที่รู้สึกอิจฉาเมื่อคนอื่นเลื่อนขั้น
สำหรับเราส์ ขั้นหรือตำแหน่งเป็นเพียงคำที่ปรากฏบนนามบัตร กิลด์คือสถานที่ที่พวกเขารวมตัวกัน ร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ ถ้าเราส์ไม่ชอบกิลด์นี้ก็แค่ลาออกเมื่อหมดสัญญา
แต่ถึงขั้นตำแหน่งเป็นเพียงคำบนนามบัตร มันก็เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่ง
“ท่านประธาน ผมมีเรื่องจะพูดด้วยครับ”
“โอ้ เราต้องตั้งใจฟังตำนานของหัวหน้าแผนกจุงให้ดี”
“ผมทำไม่สำเร็จ”
ปาร์คซังโอยิ้มค้าง
“ผมทำสัญญากับคุณคังวูจินไม่สำเร็จ”
“คุณว่าอะไรนะ?”
“ผมเสียใจจริงๆครับ”
“...”
สีหน้าท่านประธานยากบรรยาย ที่นี่คือที่ไหน คืองานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อฉลองจุงมินชานได้เลื่อนตำแหน่ง และฉลองที่เขาดึงตัวคังวูจินผู้เป็นเราส์แรงค์ A ค่อนข้างแน่เข้ากิลด์แฮมเมอร์ได้
“มาพูดอะไรตอนนี้”
“ผมขอโทษครับ”
“นี่มันเป็นเรื่องที่ขอโทษแล้วจบเหรอ คุณอยากถูกไล่ออกหรือไง?”
อื๋อ? ถ้าได้อย่างนั้นก็ขอบคุณ
“รู้หรือเปล่าว่าคุณใช้เงินกับคังวูจินไปเท่าไหร่ แค่ขอโทษมันพอเหรอ?”
มินชานให้วูจินใช้ดันเจี้ยนฟรีๆ และใช้เงินในการเปลี่ยนแรงค์ของวูจิน... ที่เสียก็เสียไปแล้ว
ใช่ เขาทำผิด เขาทำผิดไปมากๆ
“ผมยอมรับผิดทุกอย่างครับ”
“ยอมรับผิด? นี่น่ะเหรอที่คุณบอกว่าจะรับผิด... มันอะไร?”
“จดหมายลาออกของผมครับ ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ผมขอลาออกจากกิลด์แฮมเมอร์”
ปาร์คซังโอมองจดหมาย แล้วมองมินชานอย่างประหลาดใจ
“คุณบ้าเหรอ?”
“ครับ?”
“คุณไม่ใช่นักการเมืองนะ คิดว่าการลาออกเป็นการรับผิดชอบเหรอ มันก่อเรื่องแล้วหนีไม่ใช่เหรอ?”
“...”
เขาควรพูดอะไรดี?
ก็คนจะออก
“ผมขอตัว รักษาตัวด้วยนะครับ”
“...?”
เขาวางซองจดหมายทั้งสองซองลงบนโต๊ะ คำนับลา แล้วเผ่นออกจากห้องโถงไป
“ไอ้ ไอ้ชั่วเอ๊ย!
จุงมินชานได้ยินปาร์คซังโออาละวาดแต่เขาไม่หยุดไม่ฟัง หัวใจเขาเต้นแรง เขายังกังวลแต่บนหน้ามีรอยยิ้มบางๆ
สะใจดี และเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังในอนาคตข้างหน้า
เมื่อออกมาข้างนอก เฮมินรออยู่แล้วพร้อมกับรถของเขา
“หัวหน้าทีม ทางนี้ๆ”
อา นี่ล่ะเขาถึงชอบไอ้เวรนี่
***
สถานที่ ห้องส่วนตัวของคาเฟ่แองเจิล แองเจิล เวลา 20 นาฬิกา
“ยินดีต้อนรับสู่อลันดาล”
มินชานกับเฮมินยิ้มรับคำของวูจิน
“ต่อไปก็ขอฝากตัวด้วยครับ”
“ท่านประธาน ฝากตัวด้วย”
“แน่นอน”
วูจินมินชานจับมือกัน
“ใช้ผมได้ตามสบายเลยนะ ผมจะร่วมสร้างกิลด์อลันดาลอย่างสุดความสามารถ”
“งั้นเชียว? งั้นฉันจะเรียกนายว่ามินชานนะ?”
เอ๊ะ? กันเองมากไปหรือเปล่า (TN-ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาวูจินจะพูดสุภาพนอบน้อมกับมินชานนะคะ เพราะมินชานแก่กว่า แต่แปลจากภาษาอังกฤษมันดูไม่ออก เราเลยแปลซะห้าวเลย)
“เรียกหัวหน้าทีมจุงเถอะ”
“ก็ได้ หัวหน้าทีม ฉันฝากการตั้งกิลด์ให้เป็นหน้าที่ของนาย ทำตามที่เห็นว่าดีที่สุดเถอะ”
“...ได้”
ว่ากันว่านิสัยนอบน้อมของชาวเอเชียมันเป็นอดีตไปแล้ว แต่ว่า... จุงมินชานไม่ค่อยชินนัก
“วันนี้ดื่มกันไหม?”
“...”
วูจินนี่อยู่ง่ายดีนะ
ถ้าคนอื่นมาเห็นคงนึกว่าพวกเขาตั้งชมรมกันแทนที่จะเป็นกิลด์
“เอาไว้ก่อนนะ... มีเรื่องที่ท่านประธานต้องตัดสินใจก่อน”
“เรื่องอะไร”
“ต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 5 คนถึงจะตั้งกิลด์ได้”
พวกเขายังขาดอีก 1 คน
“เอาเจมินได้ไหม?”
“ผมแน่ใจว่าเอาเยาวชนเข้ากิลด์ไม่ได้นะครับ”
“ใช่ เยาวชนเป็นสมาชิกกิลด์ไม่ได้”
มินชานยืนยันคำพูดของซุงกู วูจินเปิดมือถือเนือยๆ
[แม่] [โดเจมิน] [เจมินตัวจริง] [4ล้าน] [คนขายโทรศัพท์] [คิมเฮมิน]
อา ฉันนี่เพื่อนน้อยจริง’ วูจินคิด
แม่คงไม่ได้
แม่ล้มป่วยหลังจากเห็นข่าววูจินพลัดตกลงไปในดันเจี้ยน จากนั้นนักข่าวก็มารบกวนนางถึงที่ทำงานจึงตัดสินใจออกจากงาน ตอนนี้นางอยู่บ้านเฉยๆ
ถ้าไม่รวมเจมินกับคนอื่นๆที่รวมกันที่นี่ เขาก็ไม่มีคนรู้จักแล้ว เบอร์หนึ่งก็โทรผิด... ถ้าอย่างนั้นก็เหลือคนเดียวคือคนขายโทรศัพท์
“เอาแค่ชื่อก็พอหรือเปล่า?”
“หืม? ใช่ แค่ต้องหามาให้ครบ 5 คน”
มินชานเดาว่าวูจินคิดจะใช้ชื่อคนในครอบครัว วูจินเลือกเบอร์โทรของคนขายโทรศัพท์แล้วกดโทรออก
ตู๊ดๆ
รออยู่นานก็มีคนรับสาย
[ฮะ ฮัลโหล]
“อ้า จำฉันได้ไหม คนเมื่อตอนนั้น?”
[แน่...แน่นอน ผมจำได้ดี]
วูจินลดมือถือลง มองมินชาน
“ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?”
“หืม? เอาแค่สำเนาบัตรประชาชน ถ้ามีตราประทับก็เอามาด้วย”
วูจินยกมือถือขึ้นมาแล้วพูดต่อ
“มาที่แองเจิลแองเจิลใกล้สถานี เอาบัตรประชาชนกับตรามาด้วย”
[...คุณจะให้ผมไปทำไม]
“อ้อ ฉันแค่จะขอยืมชื่อนายหน่อย...”
[…]
“ทำไมเงียบล่ะ?”
[ผมเห็นในทีวีแล้วนะ]
“ทีวี?”
[ตอนนี้คนทั้งประเทศรู้จักหน้าคุณแล้ว คิดว่าคุณจะสั่งให้ผมทำเรื่องผิดกฎหมายได้เหรอ?]
“ฮะ คิดว่าฉันเหมือนนายเหรอ? ไม่ผิดกฎหมายน่า มาตามที่บอก ฉันแค่จะยืมชื่อนายหน่อย”
[ผม...ผมจะเรียกตำรวจนะ...]
“นายจะเรียกหรือไม่ฉันไม่สน มาที่นี่ก่อนฉันจะโกรธ อยากให้ฉันไปหานายเหรอ?”
[ไม่ๆ ผมจะไปเอง]
มินชานถามขึ้นเมื่อวูจินคุยโทรศัพท์เสร็จ
“ใครรึ?”
“อ้อ คนรู้จัก”
“เขาจะมาที่นี่ใช่ไหม?”
“เดี๋ยวเขาก็มา”
“ยอด ผมจะเตรียมเอกสารไว้ แล้วพรุ่งนี้ผมจะไปยื่นเรื่องที่สำนักงาน”
มินชานเอาเอกสารที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วออกมาจากกระเป๋าเอกสาร
“แบบนี้มันดีจังแฮะ”
ถ้าคิดจะบริหาร ไม่ว่าจะเป็นกิลด์หรือประเทศ สิ่งที่ต้องมีคือผู้ช่วย ผู้ช่วยที่จะคอยรับงานจุกจิกน่ารำคาญทั้งหลายไปทำ วูจินยินดียิ่งที่ชวนมินชานเข้ากิลด์
“อ้อ มีเรื่องที่เราต้องรีบจัดการด้วย”
“เรื่องอะไร”
“เราต้องทำไกด์ของดันเจี้ยนสถานีมหาวิทยาลัยโซลทางออกที่ 6 การไม่มีข้อมูลทำให้มันเป็นดันเจี้ยนที่เคลียร์ลำบาก ถ้าไม่มีไกด์ล่ะก็จะให้คนมาเข้าก็ยากอยู่”
ทีมหรือกิลด์แรกที่พิชิตดันเจี้ยนได้จะได้ผลประโยชน์มหาศาล
ได้ค่านายหน้าเป็น 30% ของหินบลัดสโตนที่ตกทุกครั้งที่ดันเจี้ยนถูกเคลียร์ และยังค่าเข้าดันเจี้ยนอีก
ดังนั้นข้อมูลของดันเจี้ยนจึงเป็นสิ่งที่ต้องเปิดเผย เพื่อให้การเคลียร์ดันเจี้ยนง่ายขึ้น ทีมแรงค์ B สามารถเคลียร์ดันเจี้ยน 5 ดาวได้ง่ายขึ้น
กิลด์ขนาดค่อนข้างใหญ่ถึงขนาดใหญ่จะมีทีมแรงค์นี้อยู่เยอะ ดังนั้นดันเจี้ยนนี้ก็จะทำเงินได้เยอะเช่นกัน
“หืม จำเป็นต้องหาคนลงด้วยเหรอ แค่ให้ฉันใช้เฉยๆก็ได้”
“แต่ตอนที่ท่านประธานพัก ให้มีคนมาเข้าดันเจี้ยนดีกว่าปล่อยไว้ว่างๆใช่ไหมล่ะ”
“มีเหตุผล”
วูจินไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น
“งั้นเตรียมเอกสารเสร็จฉันจะลงดันเลย”
วูจินคิดแล้วทำทันที
“ไปกันเถอะซุงกู”
“ลูกพี่จะให้ผมไปด้วยเหรอ? ดัน 5 ดาวนะครับ...”
เขาขึ้นเป็นเราส์แรงค์ D แต่คิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งขนาดนั้น ซุงกูกังวล
“นายไม่อยากไปเหรอ?”
“...ไม่ ผมจะไปครับ”
เขากลัว แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกคาดหวังแปลกๆด้วย
วูจินมองซุงกูแล้วยิ้ม
***
วูซุงฮุนเข้าไปในห้องส่วนตัวของคาเฟ่แองเจิลแองเจิล ดวงตาพร่ามัวมองคนที่อยู่ในนั้น พวกเขาคือตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าว
คนนี้ด้วย คนนี้ก็ด้วย มาอยู่ที่นี่กันหมดเลย
วูซุงฮุนเห็นพวกเขาในข่าว คังวูจินเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่พลัดเข้าไปในดันเจี้ยน ส่วนคนอื่นก็อยู่ในที่เกิดเหตุ
“อ้อ มาแล้วเรอะ?”
เขาตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงของวูจิน ผงะถอยราวกับเจอศัตรูตามธรรมชาติ
“เอาของที่สั่งไว้มาด้วยหรือเปล่า?”
“ผมเอามา แต่...”
“งั้นไปคุยกับหัวหน้าทีมจุง”
“อะไรนะ?”
วูจินซุงกูลุกขึ้น
“ทำงานดีๆล่ะหัวหน้าทีมจุง พรุ่งนี้ฉันคงเคลียร์ดันเสร็จ เสร็จแล้วไปดื่มกัน”
“ครับท่านประธาน ตามที่ผมบอก ผมจะเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย”
วูซุงฮุนหรี่ตา เกิดอะไรขึ้นกัน?
เมื่อวูจินซุงกูออกไปแล้ว จุงมินชานยื่นมือออกมาหาจับมือวูซุงฮุน
“ผมชื่อจุงมินชาน เคยเป็นหัวหน้าทีมของกิลด์แฮมเมอร์ ผมจะเข้ามาเริ่มงานที่กิลด์อลันดาลเช่นเดียวกับคุณ ยินดีที่ได้รู้จัก ฝากตัวด้วย”
กิลด์แฮมเมอร์? หนึ่งในกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดสามกิลด์ของเกาหลีน่ะเหรอ?
หลังจากนั้นคิมเฮมินก็เข้ามาจับมือ วูซุงฮุนจับมือตอบอย่างสับสน
“ผมชื่อคิมเฮมิน เฮะๆ ฝากตัวด้วยนะครับ คุณเป็นคนรู้จักกับท่านประธาน เป็นเพื่อนเหรอ? หรือญาติ?”
เป็นอะไรกัน? ก็เคยหลอกต้มเขามาก่อนน่ะ
วูซุงฮุนเปลือกนอกฟังพวกเขาคุยกันแต่แอบเปิดโทรศัพท์ใต้โต๊ะค้นข้อมูลพวกเขา ก่อนนี้เขาหาข้อมูลโดยเน้นไปที่ข่าวของคังวูจินดังนั้นจึงไม่รู้เรื่องคนอื่นเท่าไหร่ แต่ในอินเตอร์เน็ตน่าจะมีข่าวของพวกเขาบ้าง
วูซุงฮุนหาบทความในอินเตอร์เน็ตอย่างตั้งใจ


รอใส่บทที่ 38



วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 36

บทที่ 36 – ตั้งกิลด์กันเถอะพวกเรา

“ตั้งใหม่เลยดี หรือแย่งที่มีอยู่แล้วมาดี?”
“แย่ง...? ลูกพี่ทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ”
“งั้นก็ต้องตั้งใหม่ล่ะนะ”
“...”
“ก่อนอื่นก็ไปหาว่าวิธีตั้งกิลด์ทำยังไง”
ซุงกูตะลึงเลยไม่รู้จะตอบวูจินอย่างไร กิลด์ไม่ใช่ชมรม ไม่ใช่ของที่นึกจะตั้งก็ตั้ง
“ผมคงออกไปข้างนอกไม่ได้นะครับ เพราะนักข่าว”
“ซุงกู”
“ครับลูกพี่”
“นายจะหลบอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตไม่ได้ หัดไม่สนใจสายตาชาวบ้านแต่เนิ่นๆจะได้อยู่ง่าย”
“ครับ? ผมนึกว่าลูกพี่ไม่อยากทำตัวเป็นจุดสนใจซะอีก?”
“ฉันเหรอ?”
วูจินงง ที่อัลเฟนเขาเป็นใคร ทุกการกระทำของเขาไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ของคนที่นั่น
การที่ทุกคนสนใจเขาเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นวูจินจึงไม่ตื่นเต้นหรือตึงเครียดเมื่อถูกสื่อมวลชนขุดคุ้ย
หรือจะให้เขาอยู่เงียบๆแบบชนชั้นกลางทั่วไป?
ไร้สาระ ทราห์เน็ตกำลังใช้ดันเจี้ยนเป็นสะพานเพื่อมาครองโลกอยู่นะ
“เป็นจุดสนใจแล้วยังไง? โลกนี้มีทั้งเรื่องที่เลี่ยงได้และเลี่ยงไม่ได้”
“เอ่อ นั่นก็จริงครับ”
ปกติลูกพี่ทำตัวเป็นเด็ก แต่ในเหตุการณ์แบบนี้เขาจะพูดอะไรที่ฟังเข้าที อย่างที่ลูกพี่พูด พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนไปแล้ว
มีกิลด์แฮมเมอร์กดดันอยู่ ดังนั้นสื่อมวลชนจึงไม่เผยข้อมูลของพวกเขา แต่แค่ที่เป็นข่าวอยู่ก็ทำให้คนอื่นสงสัยแทบตาย
คนที่พลัดเข้าไปในดันเจี้ยน 5 ดาวโดยไม่ตั้งใจ แต่เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้ด้วยตัวคนเดียว สำนักงานบริหารผู้มีพลังพิเศษยอมรับว่าประเมินแรงค์ของวูจินผิดพลาด และบอกว่าจะมีการประเมินแรงค์ให้เขาใหม่
“งั้นผมหาข้อมูลเลยนะครับ”
“จัดการให้เสร็จก่อนฉันต้องเข้ากองทัพ”
“ครับ”
“ถ้าฉันถูกเกณฑ์ นายนั่นล่ะที่จะเสียผลประโยชน์”
“...ครับ”
แต่ว่า ถ้าเราส์แรงค์สูงอย่างวูจินน่าจะได้รับการปฏิบัติอย่างดีอยู่แล้ว...
ซุงกูเปิดโน๊ตบุ๊คของตัวเอง โทรศัพท์ของวูจินดังขึ้น
“ฮัลโหล?”
[คุณวูจิน ผมคิมเฮมินครับ]
“อ๋อ มีอะไรเหรอ จะดื่มกันตอนนี้ก็เช้าไปมั้ง?”
“ฮะๆ เรื่องนั้นไว้ทีหลังนะครับ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณต่อหน้า เรื่องสิทธิ์ในการจัดการสถานีมหาวิทยาลัยโซลทางออกที่ 6 จะมอบให้ใครน่ะครับ”
“อืม”
วูจินคิดอะไรดีๆออกอีกแล้ว
“มาคุยกันต่อหน้าเลย ฉันจะคุยเรื่องกิลด์ด้วย ช่วยติดต่อหัวหน้าทีมจุงให้ที” 
[หา? เรื่องกิลด์? แน่ใจเหรอครับ?]
“อืม เจอกันที่ไหนดี?”
[ผม... ผมกำลังไป อีกไม่นานจะถึงที่นั่นครับ!]
ก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะตัดไป วูจินได้ยินเสียงเฮมินวิ่งโครมคราม
“หืม ทำไมพวกนั้นถึงชอบฉันกันจัง?”
***
ณ ห้องทำงานของหัวหน้าทีมสนับสนุนที่สี่
โครม!
ประตูถูกเหวี่ยงเปิดออก จุงมินชานนิ่วหน้าทันที
“ไอ้บ้าที่ไหนไม่มีมารยาท...”
“หัวหน้าทีม เราทำได้แล้ว สำเร็จแล้ว!
เฮมินวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเบิกบาน ราวกับเกาหลีชนะบอลโลกอย่างไรอย่างนั้น
ท่าทางของเขาทำให้มินชานเลิกสนใจเรื่องมารยาทระหว่างหัวหน้าทีมกับลูกน้อง
“นาย...เมื่อกี๊ว่าอะไรนะ?”
“คุณวูจินอยากเจอกับเรา คุณวูจินอยากเจอกับเราเรื่องกิลด์!
“อะไรนะ!
มินชานลุกขึ้นพรวดจนเก้าอี้แทบล้ม แต่เขาไม่สนใจ
“ได้อีกคนแล้วนะหัวหน้าทีม!
“ฮะๆ ฮ่าๆๆ”
ถึงจะเจอเรื่องเครียดๆมาเยอะ แต่นี่เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ จุงมินชานรีบใส่เสื้อคลุมแล้วพูดกับเฮมิน
“นายไปเตรียมตัว ฉันจะไปรายงานประธาน”
“ครับ ฮ่าๆๆ”
เฮมินออกวิ่งอย่างร่าเริง มินชานขณะเดินไปทางห้องประธานกิลด์ก็ข่มความดีใจไว้ไม่ได้เช่นกัน เมื่อไปถึง เลขานุการก็กดปุ่มอินเตอร์คอม
“ท่านประธาน หัวหน้าทีมสนับสนุนที่สี่ขอเข้าพบค่ะ”
[โอ้ ช่วยพาเขาเข้ามาเลย]
เสียงตอบรับที่ดังลอดมาจากอินเตอร์คอมทำให้มินชานยิ้ม ใช่ จุงมินชานกลับมาแล้ว!
มินชานเข้าไปในห้องประธานกิลด์อย่างมาดมั่น ประธานกิลด์แฮมเมอร์ ปาร์คซังโอทักทายเขาจากตรงใกล้ๆโซฟา
“โอ้ หัวหน้าทีมจุงของเรา มีอะไรหรือเปล่า?”
“คุณคังวูจินติดต่อมาครับ”
“โอ้! ดีจริง”
ปาร์คซังโอคว้ามือทั้งสองข้างของจุงมินชาน
“หัวหน้าทีมจุงมินชานของเราต้องอดทนมามาก ฮะๆๆ”
“แฮ่ม ผมมีเรื่องจะขอด้วยครับ เกี่ยวกับคุณคังวูจิน”
“ฮะๆ ผมมอบอำนาจตัดสินใจให้หัวหน้าทีมจุงเต็มที่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เรื่องตำแหน่งรองประธานที่เคยคุยกันไว้น่ะครับ...”
“ไอ้หยา ถ้าหัวหน้าทีมจุงของเราอยากให้ก็ให้เลย”
ปาร์คซังโอสนับสนุนเต็มที่จนเกือบถึงขั้นน่ารำคาญ แต่จุงมินชานกำหมัดร้องเยสในใจ
“ฮะๆ ขอบคุณที่พยายามมาขนาดนี้นะหัวหน้าทีมจุง เพราะคุณกิลด์แฮมเมอร์ของเราจึงมาถึงขั้นกิลด์อันดับหนึ่งของเกาหลี
กิลด์ใหญ่แห่งเกาหลีทั้งสามกิลด์ แฮมเมอร์ ฮวารางค์ KH
ไม่มีกิลด์ไหนที่มีเราส์แรงค์ A ถึงสามคน ถ้าแฮมเมอร์สามารถดึงตัววูจินเข้ามาได้อย่างนั้นพวกเขาจะไร้คู่แข่ง
ปาร์คซังโอมองจุงมินชานเหมือนมองสมบัติล้ำค่า
“ได้คำยืนยันจากท่านประธานแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว”
ปาร์คซังโอไปส่งจุงมินชานออกจากห้องด้วยตัวเอง
“แน่นอน เดินทางดีๆล่ะ ผมจะรอฟังข่าวดี”  
“ผมจะกลับมาพร้อมข่าวดี”
“ฮ่าๆๆ เฮ้ เลขาคิม ช่วยเตรียมงานฉลองเลี้ยงทั้งกิลด์หน่อย”
“ค่ะ”
จุงมินชานเข้าไปในลิฟต์ ปาร์คซังโอเขย่ามือเขาบอกลาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อประตูลิฟต์ปิด จุงมินชานกำหมัดชกขึ้นด้วยท่าอัปเปอร์คัท
“เยส!” (ลองนึกภาพคนทำหน้าแฮปปี้สุดๆพลางปล่อยหมัดโชริวเคนดูค่ะ-TN)
ฮึฮื้อ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาจะเจอเราส์แรงค์ A อย่างปาร์คจินวูหรือ นี่บุญคุณเขานะนี่
“อะแฮ่ม”
มินชานรู้สึกว่าความมั่นใจของตัวเองกลับคืนมา คาถาฮีลก็รู้สึกคล้ายแบบนี้เหรอ? เขาทำสำเร็จอีกครั้ง จุงมินชานยังไม่ตาย ยังอยู่ดีเตะปี๊บดัง
เขารวบรวมหนังสือสัญญา เอกสารต่างๆที่จำเป็นและโน๊ตบุ๊คของตัวเอง
เมื่อมาถึงชั้น 1 เฮมินกำลังจอดรถรออยู่แล้ว เฮมินดูชื่นมื่นไม่ต่างจากมินชาน
***
ณ ห้องส่วนตัวของร้านกาแฟ แองเจิล แองเจิล
“ฮะ? ผมฟังผิดไปหรือเปล่า?”
มินชานสงสัยว่าตัวเองหูเพี้ยนไปหรือเปล่า เขายังไม่ได้เอาหนังสือสัญญาออกมาด้วยซ้ำ วูจินพูดทวนอีกรอบ
“ฉันอยากให้ลุงมาอยู่กิลด์เรา”
“...”
นี่มันเรื่องอะไร เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าวูจินกำลังพูดเรื่องอะไร เพราะคำตอบของวูจินผิดคาดไปไกลโข
“คุณโทรมา ไม่ใช่เพราะจะทำสัญญากับกิลด์แฮมเมอร์เหรอ?”
วูจินยิ้ม
“ฉันจะไปทำไม ฉันอยากให้หัวหน้าทีมจุงกับคุณเฮมินมาอยู่กิลด์ฉันต่างหาก”
“...”
จุงมินชานตะลึง คิมเฮมินก็ตะลึง
จุงมินชานคราง
วูจินมีกิลด์อยู่แล้ว เพราะอย่างนี้เองเขาถึงปฏิเสธไม่เข้ากิลด์แฮมเมอร์ไม่ว่าข้อเสนอจะดีขนาดไหน
เขามาจากไหน ฮวารางเหรอ หรือว่า KH หรือกิลด์เล็กกิลด์อื่น
“เฮ้อ กิลด์ของคุณวูจินชื่ออะไรล่ะ?”
“อลันดาล”
อลันดาล? นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อนี้ ถ้าเฮมินไม่เคยได้ยินมาก่อนแปลว่ามันต้องเป็นกิลด์เล็กมากๆ เฮมินผู้หัวไวเสริชหาชื่อนี้ทันที แต่กลับไม่มีกิลด์นี้อยู่เลย
“ขอโทษครับ ไม่มีกิลด์ชื่ออลันดาลนี่นา”
วูจินพยักหน้าเหมือนจะบอกว่ามีเหตุผล
“ก็แหงล่ะ”
“ครับ?”
วูจินมองเฮมินมินชาน
“พวกนายสองคนต้องมา...”
“ครับ”
“สร้างมัน”
“...”
ใครแอบวางยาในกาแฟที่เขาดื่มเมื่อเช้าหรือเปล่าวะ? ทำไมได้ยินแต่เรื่อง...? ตกลงว่าคังวูจินจะตั้งกิลด์ใหม่?
“คุณได้เท่าไหร่ คุณเฮมิน?”
“อะไรครับ?”
“รายได้ต่อปี”
“มากกว่าห้าสิบล้านวอนนิดหน่อยครับ...”
“ฉันให้ร้อยล้านวอน”
“หะ?”
“ถ้าคิดว่าน้อยไป ฉันให้เพิ่มอีกห้าสิบล้านวอน”
“...?”
เฮมินตาโต วูจินหันไปทางหัวหน้าทีมจุง จุงมินชานตัดบทฉับ
“ผมไม่ใช่คนที่ซื้อได้ด้วยเงิน อีกอย่าง ไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
“อะไรเกินไป”
“อยู่ๆคุณก็พูดเรื่องจะตั้งกิลด์ แถมคุณจะให้เราเปลี่ยนงาน ผมเป็นหัวหน้าทีมของกิลด์แฮมเมอร์นะ”
กิลด์เป็นศูนย์รวมของเราส์จริง แต่ก็เป็นบริษัทด้วย เหมือนๆกับเอเจนซี่ของดารานักแสดง เราส์แต่ละคนมีสัญญากับกิลด์ ส่วนคนธรรมดาเข้ามาเป็นพนักงานในแต่ละแผนก เช่น แผนกสนับสนุน จุงมินชานเป็นคนเก่าของกิลด์ เขาเข้ากิลด์แฮมเมอร์ช้าไปหน่อยแต่สามารถปีนป่ายขึ้นมาถึงระดับหัวหน้าทีม
ดังนั้นเขาจะเปลี่ยนกิลด์ง่ายๆเพราะเงินได้อย่างไร? ถ้ามองยาวๆมันจะส่งผลเสียกับอาชีพของเขา
วูจินยิ้ม
“กิลด์อลันดาล คุณไม่อยากเป็นหนึ่งในสมาชิกแรกก่อตั้งเหรอ?”
“...!
“ฉันจะตั้งกิลด์ แต่ไม่รู้อะไรสักอย่าง ลุงมาช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“...”
“ถ้าลุงไม่มาฉันก็ได้แต่ไปเปียงยาง”
“...?”
เขาตอบรับคำชวนเข้ากิลด์หรือไม่เกี่ยวอะไรกับเปียงยาง?
***
“...”
ระหว่างกลับกิลด์แฮมเมอร์ เฮมินกับมินชานต่างคนต่างเงียบ
แองเจิล แองเจิล อยู่ถัดจากสถานีซาดางไปแยกเดียว กิลด์แฮมเมอร์จึงห่างจากที่นั่นแค่ระยะเดินถึง ยังไม่ทันกระพริบตาพวกเขาก็มาถึงที่จอดรถ ไม่นานเฮมินก็ถามขึ้น
“หัวหน้าทีม ผมจะย้ายนะ”
“เฮ้ย นาย”
“พูดตรงๆนะ ที่เขาคิดจะทำมันยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ คุณวูจินน่าจะแรงค์ A ไม่ๆ ผมแน่ใจว่าเขาเป็น ไม่งั้นจะโซโล่ดันเจี้ยน 5 ดาวได้ยังไง? แล้วกิลด์เขาจะโตขนาดไหน? ถ้าผมยังอยู่กับกิลด์แฮมเมอร์ ผมจะไปได้ไกลเท่าไหร่เอง?”
กิลด์แฮมเมอร์โตเต็มที่แล้ว ถ้าจะขยายไปกว่านี้ก็คงยากแล้ว รุ่นพี่ที่เข้ามาทำงานก่อนเขายึดตำแหน่งสูงๆไว้อย่างมั่นคง การที่เขาจะเลื่อนขั้นไปได้อีกนั้นแทบไม่มีทาง
“คุณวูจินมีดันเจี้ยน 5 ดาวอยู่แห่งหนึ่งแล้วใช่ไหมล่ะ? เอาจริงๆถ้าเขาดูแค่ดันเจี้ยนนั้นก็จ่ายเงินเดือนผมสบายแล้ว”
“...”
เฮมินพูดถูก แค่ดูวูจินเข้าดันเจี้ยนก็บอกได้แล้วว่ากิลด์ของวูจินมีอนาคตสดใสแน่
“ผมได้โอกาสให้เป็นสมาชิกแรกก่อตั้ง บางทีผมอาจได้เป็นหัวหน้าทีมสนับสนุนก็ได้นา”
ตำแหน่งที่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับทีมสนับสนุน ว่าแต่เฮมินพูดแบบนี้แสดงว่าเล็งตำแหน่งนี้มานานแล้วสิ
มินชานคิด
ความทะเยอทะยานเขาอยู่ตรงไหน เขาอยู่ในตำแหน่งไหนของกิลด์แฮมเมอร์?
หัวหน้าแผนกและตำแหน่งผู้บริหารของกิลด์แฮมเมอร์ต่างเป็นสมาชิกแรกก่อตั้ง ต่อให้จุงมินชานทำคุณความดีให้กิลด์แค่ไหนเขาก็ไม่มีทางก้าวหน้ากว่าพวกเขาและได้เป็นผู้บริหาร
“ฉันก็จะไป”
“หัวหน้าทีม”
ได้ยินอย่างนั้นคิมเฮมินล้วงจดหมายลาออกที่เขาพกติดตัวไว้เสมอออกมา
“นายพกของนั่นไว้ตลอดเลยเรอะ?”
“เฮะๆ พนักงานกินเงินเดือนทำแบบนี้ทุกคนแหละครับ”
จุงมินชานยิ้มแล้วล้วงจดหมายลาออกที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทเขาออกมาด้วย
เฮมินตาโต
“หัวหน้าทีมก็ด้วย?”
“พนักงงานกินเงินเดือนทำแบบนี้ทุกคน”
“หุๆ ยื่นจดหมายลาออกอย่างองอาจ เสร็จแล้วไปดื่มกันนะครับ”
“ได้เลย”
จุงมินชานและคิมเฮมินมุ่งหน้าไปยังกิลด์แฮมเมอร์ อาจเป็นวันสุดท้ายที่พวกเขามาที่นี่
พวกเขาขึ้นลิฟท์ไปชั้น 11 ที่เป็นชั้นของทีมสนับสนุนที่ 4 ไฟในออฟฟิศดับหมด
“เอ๋?”
ม่านปิด ข้างในมืด พวกเขาเห็นสมาชิกทีมกำลังยืนรอบเค้กปักเทียนจุดไฟ
ไม่ได้มีแต่ทีมสนับสนุนที่ 4 ทีมสนับสนุนทุกทีมมารวมกันในห้องนี้ กระทั่งประธานปาร์คซังโอและรองประธานปาร์คจินวูก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
“หัวหน้าทีมจุงมินชาน! ขอแสดงความยินดีกับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนก!
“หา?”
มินชานสับสน ประธานปาร์คซังโอหัวเราะเสียงดังแล้วพูด
“ฮ่าๆๆ ผมดูคุณมินชานแล้วรู้สึกว่าตำแหน่งหัวหน้าทีมยังไม่เหมาะสมกับคุณ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปคุณเป็นหัวหน้าของแผนกสนับสนุนเถอะ”
“อะไรนะ?”
มินชานประหลาดใจ สมาชิกทีมต้อนเขาเข้าไป
“หัวหน้าทีม รีบไปเป่าเทียนเถอะครับ”
“เป็นหัวหน้าแผนกแล้วอย่าลืมพวกเรานะครับ”
“ฮ่าๆๆ ยินดีด้วยที่เลื่อนตำแหน่งครับหัวหน้าทีม”
“แหะๆ”
มินชานไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้แต่หัวเราะไปด้วย เขาเป่าเทียนงงๆ ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงปรบมือ
“เอาล่ะ เขากลับมาเหนื่อยๆหลังจากทำสัญญาที่สำคัญมาก เขาเป็นอัจฉริยะด้านการดึงตัว ปรบมือให้หัวหน้าแผนกจุงมินชานอีกครั้ง”
“หัวหน้าแผนกยอดเยี่ยมมาก!
ปาร์คซังโอเริ่ม เสียงปรบมือดังก้องหูมินชาน มินชานและเฮมินหน้าซีดและทำได้แค่หัวเราะ
ครับประธาน อัจฉริยะด้านการดึงตัวคนนี้ถูกดึงตัวไปแล้ว เขาละอายใจนัก
“เดี๋ยวก่อน ท่านประธาน”
“ฮ่าๆๆๆ ไปงานฉลองของบริษัทกันเถอะ ฟังข่าวดีของคุณที่นั่น วันนี้ผมจองที่ๆดีมากเลยนะ”
“ว้าว งานเลี้ยงล่ะ”
“ฮะ ฮะ”
จุงมินชานได้แต่หัวเราะ
เขาจะเป็นหัวหน้าแผนกของกิลด์แฮมเมอร์ก็ได้ หรือจะเป็นสมาชิกแรกก่อตั้งของกิลด์ใหม่ก็ได้
ผลหอมหวานที่เขาปรารถนามาตลอดอยู่ในมืออีกข้าง และเมล็ดพันธ์ที่จะงอกงามเป็นอะไรก็ได้อยู่ในมืออีกข้าง
ก่อนเขาจะได้ยื่นจดหมายลาออก ทุกคนก็ย้ายไปยังที่ตั้งงานฉลองของบริษัท
“หะ...หัวหน้าทีม ทำไงกันดีล่ะ?”
“ให้ทำไงล่ะ...”
เฮมินถามอย่างกังวล มินชานได้แต่ส่ายหน้า ทำไมวันนี้ท่านประธานเยอะนัก...
“เฮ้อ พวกเขาจัดงานเลี้ยงอำลาให้ เราก็ควรไป”
นี่ไม่ใช่ฝีมือจุงมินชาน ประธานปาร์คซังโอหาเรื่องขายหน้าใส่ตัวเอง มินชานเอาจดหมายลาออกออกมาแล้วใส่คืนลงไป