วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

แปลเพลง Bop Alloy - Still Think Different - 2010

ยังติดกับการแปลเพลงอยู่

เวลาฟังเพลง บางทีฟังเพลงนี้แล้วก็บ่นกับตัวเองเบาๆว่าอยากฟังเพลงโน้นจัง สาเหตุเพราะมันมีจุดเชื่อมโยงกันอยู่ค่ะ อาจจะเป็นทำนอง เนื้อเพลง หรืออื่นๆ (ยกตัวอย่างอื่นๆ เช่น เป็นเพลงของนักร้องคนเดียวกัน หรือเป็นเพลงจากเกมเดียวกัน)

 ทีนี้มาพูดเรื่องความเชื่อมโยงของเนื้อเพลง เนื้อเพลงมาจากความคิดของคนแต่ง ความคิดของคนแต่งเกิดจากการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างและสิ่งแวดล้อม ในความคิดของเราเนื้อเพลงเป็นสิ่งที่เกิดจากสังคมค่ะ เพลงที่เราฟังเก้าในสิบส่วนเป็นเพลงรัก ทีนี้พอฟังเพลงที่มีเนื้อหาแปลกไปบางทีเราก็จะคิดๆว่า เอ เคยฟังเพลงเนื้อหาคล้ายๆแบบนี้มาบ้างแล้วยังน้า

เมื่อวันศุกร์นี่เลย เราได้ฟังเพลงนี้  Bop Alloy (Substantial & Marcus D) - Still Think Different - 2010
 
พูดถึง think different คิดต่างค่ะ

คนเป็นปัจเจกบุคคล จะคิดไม่เหมือนกันก็ไม่แปลก... ตอนที่เราได้ยินเรื่องคิดต่างเราคิดแบบนี้ แต่พอมานั่งคิดอีกที เพลงเกิดจากสังคมไม่ใช่เหรอ แล้วพื้นฐานสังคมคือการมีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกันนี่นา คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกับคนอื่นแล้วยังอุตส่าห์คิดต่างได้นี่ หายากนะ แน่นอนค่ะ ถ้าอยู่คนละสังคมแล้วคิดต่างก็อีกเรื่อง

เราฟัง Still think different แล้วก็คิดว่ามีเพลงแนวนี้อีกไหมน้า ก็นึกถึง Don't tell me its over ของ Gym Class Heroes FT. Lil Wayne /Beautiful - Eminem /โคโบ(光芒)- One OK rock /Hater - Korn (อันนี้ได้ไหมหว่า) ...ก็เยอะนี่นา คนที่คิดต่างจากคนในสังคมเดียวกันย่อมถูกมองเป็นคนนอก ความอึดอัด ความเหงา ความโกรธมักจะถูกถ่ายทอดออกมา ขณะเดียวกันก็ปลอบโยนคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันกับตัวเองค่ะ (ประมาณให้ be true to yourself / stay true)

เอาล่ะ แปลเลยดีกว่า
เนื้อเพลงก่อน เนื้อเพลงเอามาจากลิงค์ยูทูบข้างบนค่ะ

Bop Alloy (Substantial & Marcus D) - Still Think Different - 2010

[Intro]
QN5 Music think different
UVInk think different
And of course elevation think different
And my man Tamashie think different
You know the whole DMV think different
And my fam in Japan think different
All my folks everywhere think different
Hand in the air if you still think different!

[Verse 1]
Some live in the moment or whatever
When I rhyme I strive to make these moments live forever
If you really want something timeless
Then you come and find us
Otherwise you're looking for minute made rhymers
Don't holla at your boy if you see what I'm saying
You'd realize that you're really speaking to a man
'Cause we are not the same, I'm not childish
I'm here to make music, y'all rather be stylish
I'm a hip-hop artist, you're a stylist
When I rhyme I choose to use my 3rd iris
All you fools use is jewels and pure violence
Tell'em spit the truth to youth they choose silence
You're so dead wrong and I live right
Y'all keep us in the dark but I give light
But this might prove to be useful
And help a little youngin' do whatever they choose to

[Hook]
One love to all my real listeners
I do what I feel and I still think different
Don't be fool by the cool, don't bend to the trends
Just stay true to you 'til the end my friends

[Verse 2]
And choose the road less taken
Or where your soul is could be a whole left vacant
I make music to feel the void
Some miss the point and tell me kill the noise
But I'm here to spread love you want to steal my joy
You known to fake moves, I'm the real McCoy
You still a toy, I'm a writer of rhymes
Plus an innovator, others bite the design
You mimic what you see but I act like me
I'm a proud pop, you're an absentee
Y'all the same folks that used to laugh at me
Now you wishing you were down with the faculty
We don't make excuses, we're making movements
The music made you but I make the music
Some think I'm foolish 'cause I chase my dreams but I got to
It would only be foolish not to

[HOOK]

[Verse 3]
I don't front I just walk a lot
While you bamas like to stunt, plus you talk a lot
I'm here to change the world, you let the world change you
I can do anything you dwell on what you can't do
And I hear hater yap but you take it as fact
I refuse to be defined by a lame like that
I'm nobody's flunky, I'm an own man
No jewelry that's chunky, rather own land
Can't succeed if you have no plan
Kinda like having a beach with no sand
I'm sure you remain uncertain
While you slack all day I'm workin'
You represent nonsense I'm all about progress
Funny how they act like it's bad to be conscious
Stop it
How can you sleep in these times
I open minds and eyes to the beat with these rhymes ya'know
  

ต่อไปก็แปล

QN5 Music คิดต่าง
UVInk คิดต่าง
และแน่นอนการยกระดับคิดต่าง
และเพื่อนฉัน ทามาชิเอะ คิดต่าง
รู้ไหมว่าทั้ง DMV คิดต่าง
และครอบครัวฉันที่ญี่ปุ่นคิดต่าง
คนแบบฉันทุกๆที่คิดต่าง
ยกมือขึ้นถ้าพวกนายยังคิดต่าง!

[Verse 1]
บางคนเกิดมาแล้วก็ตายหรืออะไรประมาณนั้น
เวลาร้องฉันมุ่งจะให้คงอยู่ไปตลอดกาล ช่วงเวลานั้น
ถ้าพวกนายอยากเห็นจริงๆ สิ่งที่ไม่ตกตายไปตามกาลเวลา
ถ้าอย่างนั้นก็มาหาพวกฉัน
หรือไม่อย่างนั้นคือนายกำลังตามหานักแต่งเพลงที่ดังอยู่แค่นาทีสั้นๆ
ถ้าเข้าใจว่าฉันหมายความว่ายังไงอย่าเหมาฉันเป็นพวกนั้น
เข้าใจไว้ว่านายกำลังคุยกับคนโตแล้ว
ฉันไม่เหมือนพวกนั้น ไม่ใช่เด็กน้อย
ฉันมาสร้างเพลง พวกนายเหมือนมาทำเท่ห์
ฉันเป็นศิลปินฮิป-ฮอป นายเป็นสไตลิสต์
ตอนร้องเพลงแต่งเพลงฉันใช้ความคิด
ที่นายใช้คือเงินทองกับความรุนแรง
บอกให้พวกนายพูดความจริงสิ พวกนายคงพูดไม่ออก
พวกนายมันหลงทาง ฉันสิตั้งใจจริง
พวกนายทำให้คนอื่นๆอยู่ในความมืดแต่ฉันมอบแสงสว่างให้
ดังนั้นเพลงนี้น่าจะมีประโยชน์ ช่วยเด็กน้อยทำในสิ่งที่พวกเขาเลือก

[Hook]
ส่งรักให้ผู้ฟังตัวจริงของฉัน
ฉันทำสิ่งที่คิดว่าควรทำและยังคิดต่าง
อย่าถูกความเท่ห์ล่อลวง อย่าไหลไปตามเทรนด์
เชื่อมั่นในตัวเองให้ถึงที่สุดเถอะมายเฟรนด์

[Verse 2]
จงเลือกหนทางที่น้อยคนกล้าเดิน
หรือเลือกที่ๆจิตใจของนายจะได้เป็นอิสระในพื้นที่กว้างใหญ่
ฉันสร้างดนตรีเพื่อสัมผัสความว่างเปล่านั้น
บางคนไม่เข้าใจแล้วบอกให้ฉันเปลี่ยนแนวเพลงเหมือนฆ่ามัน
แต่ฉันมาเพื่อแบ่งปันความรักนายกลับอยากแย่งความสุขไปจากฉัน
นายมันของปลอม ฉันสิของจริง
นายมันของเล่นเลียนแบบ ฉันเป็นนักแต่งเพลง
เป็นนักคิดนักประดิษฐ์ พวกนายแค่ทำตามของประดิษฐ์
นายเลียนแบบสิ่งที่เห็นแต่ฉันเป็นแบบสิ่งที่ฉันเป็น
เป็นคนที่น่าภูมิใจ พวกนายไม่
พวกนายเป็นคนแบบเดียวกับพวกที่หัวเราะใส่หน้าฉัน
พอตอนนี้ก็มาเสียใจว่าควรจะเลือกทางที่ตัวเองอยากไป
พวกฉันไม่อ้างนู่นอ้างนี่ พวกฉันลงมือทำ
เพลงสร้างพวกนาย แต่ฉันสร้างเพลง
บางคนคิดว่าฉันโง่ที่ไล่ตามความฝันแต่ฉันต้องตามสิ
เพราะมีแต่คนโง่ที่ไม่ไล่ตามมัน

[HOOK]

[Verse 3]
ฉันไม่ได้นำหน้าใคร ฉันแค่เดินมาไกล
ระหว่างที่พวกนายเอาแต่เลียนแบบ เอาแต่คุย
ฉันมาเพื่อเปลี่ยนโลก นายยอมให้โลกเปลี่ยนนาย
ฉันทำทุกอย่างที่พวกนายร้องว่าทำไม่ไหว
และที่พวกเฮทเตอร์พล่ามอยู่นั่นฉันได้ยิน แต่พวกนายกลับถือเป็นเรื่องจริงจัง
ฉันไม่ยอมให้พวกทุเรศพรรค์นั้นมากำหนดความหมายของฉันหรอก
ไม่ใช่ขี้ข้าใคร ฉันเป็นตัวของตัวเอง
ไม่มีสมบัติมากมายแต่มีที่ของตัวเอง
ไม่มีทางทำได้สำเร็จถ้าไม่วางแผน
เหมือนชายหาดที่ไม่มีเม็ดทราย
ฉันแน่ใจว่านายยังไม่แน่ใจ
ระหว่างที่นายเหลวไหลไปวันๆฉันตั้งใจทำงาน
นายชอบไร้สาระ ฉันชอบความก้าวหน้า
ตลกจริงที่พวกนายทำเหมือนว่าความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นเรื่องแย่
หยุดเลย
นายยังหลับลงอีกได้ยังไง
รู้ไหม เพลงแบบนี้จังหวะแบบนี้แหละที่ทำให้ฉันได้เปิดตาเปิดใจ



-----------------------
หึๆๆ บีทนิ่มๆแต่เนื้อร้องนี่แทงใจจึ๊กๆ สำหรับเราที่ไม่มีความฝันอยู่ไปวันๆเลยค่ะ อ้อ คำว่า rhyme นี่เราแปลว่าร้อง แต่ที่จริงไม่ใช่นะ เป็น... เป็นแบบเพลงที่เราแปลนี่ล่ะค่ะ ท่องกลอนคลอไปกับเสียงดนตรี? ไม่อยากแปลว่าแรปอะ

วันนี้แค่นี้ค่ะ ไว้เจอกันโอกาสหน้าค่ะ ^^//


วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559

ว่าแล้วก็ต่อด้วยโพสต์ที่สอง : แปลเพลง

ใครชอบเพลงแบบไหนบ้างคะ
ใครนั่งอยู่หน้าคอมแล้วต้องเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลงบ้างคะ
แล้วพอจดจ่อกับเรื่องที่ทำมากๆเข้า ก็ลืมเสียงเพลงที่ฟังอยู่ไปเลย อันนี้เราเป็นบ่อยเลยใครเป็นแบบเราบ้าง

เพลง ประกอบด้วยจังหวะและทำนอง ส่วนเนื้อร้องนี่จะมีหรือไม่มีก็ได้
บางทีเราชอบเพลงโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาร้องว่าอะไร หมายความว่าอย่างไร
แต่ถ้าชอบมากๆเข้าก็อยากจะรู้แล้วล่ะว่าเพลงนี้เขาร้องว่าอะไร หมายความว่าอย่างไร
พอได้รู้ก็จะเกิดความรู้สึกว่า “อ๋อ ที่จริงมันเป็นเพลงอย่างนี้เหรอเนี่ย” แล้วก็ยิ่งชอบมันมากขึ้น (หรืออาจจะน้อยลง)
นี่เป็นเรื่องที่เราเป็นบ่อยๆ ที่ตลกคือ บางครั้งก็รู้สึกอย่างนี้กับเพลงไทย ภาษาพ่อแม่ของเรานี่เองแหละ ถึงจะฟังเนื้อร้องแล้วเข้าใจ แต่บางเพลงมันก็เป็นอะไรที่จำกัดนะ จำกัดเวลา จำกัดจังหวะ จำกัดด้านความสอดคล้องทางกวีด้วย อันนี้เป็นข้อจำกัดของคนแต่งที่ต้องสรรหาคำมาสื่อความคิดของตนให้ได้มากที่สุด ส่วนคนฟังก็มีข้อจำกัด จะตั้งใจฟังไหม บางทีคำยากไปก็ไม่เข้าใจความหมายนะ ถึงคำง่ายๆแต่ถ้ามันลึกไปก็ต้องลุ้นกันแล้วล่ะว่าคนฟังมีประสบการณ์พอจะมาเข้าใจไหม ดังนั้นเพลงๆหนึ่งก็เป็นไปได้ที่จะถูกตีความไปหลายๆทาง

ออกตัวไว้แล้วนะ ว่าเพลงที่จะแปลต่อไปนี้ อาจจะแปลไม่ถูกเสียทีเดียว :D

เพลงที่จะแปล คือ Luv(sic) /Nujabes feat. Shing02 ค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงแรก ของชุดนี้ ซึ่งจะมีทั้งหมด 6 เพลง 
อ้อ Luv(sic) Luv คือ Love ส่วน sic แปลว่าตั้งใจเขียนอย่างนี้ ดังนั้นชื่อเพลงแปลว่า Luv (จงใจสะกดผิด) ค่ะ
ลิงค์เพลงจะรวมทั้งหกเพลงเลย

เนื้อเพลงก่อน เนื้อเพลงเอามาจากที่นี่ค่ะ http://genius.com/258617


Luv(Sic)
(Intro  : Bill Cosby)
I told you that story to tell you this one

(Verse 1 : Shing02)
Lovesick like a dog with canine sensitivity
Developing this new theory of relativity
Connecting our souls resting in captivity
Positive life sacrifice what it is to me
Our history, only a quarter of a century
Reality, sitting on the shoulder of our chemistry
See ain’t no mystery, the colors that we mix will set the mind free
Let the blind see beyond harmony!
Breathe life into dead space blow away cloud of doubt
New territory we determine to be
Everything a safe haven it’s supposed to be
Now it might seem distant but the time is near
When our thoughts take off and split the atmosphere
Pure sound wave travel semi-infinitely
Plus I’ll see you there utmost definitely
(Hook)
Cause the beat plus the melody
Make me speak of L.O.V.E eloquently so evidently
Cause your beat plus the melody
Make me speak of L.O.V.E eloquently so evidently
(I mean that from my heart ‘cause you make me feel good as a person)

(Verse 2 : Shing02)
Good gracious, every process has a genesis and ends with a revelation
God bless this opportunity for me to find a voice
For some words that have waited for way too long
Low wages, small tips on the avenue
Never wages, all hits for a revenue
Haven’t you heard the news lately?
Seems we’ve been living for some time in a purgatory
But yo, I thought I knew what a love song sound like
But I felt a warmer tune in the sunlight
I could still hear it in my room past midnight
Gotta move, take a solo cruise in the moonlight
Sometimes I do forget, Oh how much we could ease the lives we lead
If we learn to let go, the reins that we hold
Return to our souls, and the spirit let flow
So you see, upon everyday faced there’s a million shades to express definition of grace
But the method I choose my prerogative
There’s so much love in me I got to give

(Hook)

(Verse 3 : Shing02)
Oh how I could write a book on how you make me feel
But how about this song that I wrote for you?
What I feel like… I wanna put my trusts in these simple words
For you to feel what I’m saying, what you feel like?
Reminisce about the little episodes that we shared together
Remember the time that you told me in the cold night, to relax when all I knew was to hold tight
Remember the time that I spoke to the crowd in a full house and realized that you was my ace?
I was the joker on the stage singing the blues
All eyes on me and had nothing to prove
But yo, I thought I knew what a diamond shine like
But I felt a sharper love in the limelight
From the queen of hearts watching me quietly from the upper deck balcony
Sometimes I do suspect, I’m an actor in a well-scripted live divine comedy
When I look back, that frozen slice of time and try to defrost the senses lost
Now enough with the metaphors, the motivation that I wrote this letter for
For you to know that the music helps carry on
Like you say a new day will bring us tomorrow…

(Hook)
Cause my beat plus your melody
Makes me speak of L.O.V.E eloquently so evidently
Cause your beat plus my melody
Makes me speak of L.O.V.E eloquently so evidently

Cause my beat plus your melody
Makes me speak of L.O.V.E eloquently so evidently
Cause your beat plus my melody
Makes me speak of L.O.V.E eloquently so evidently
(I mean that from my heart ‘cause you make me feel good as a person you know what I mean.
Make me say “Well,that shit wasn’t that bad”)

ต่อไปเป็นแปล

(อินโทร : ด้วยประโยคของนักแสดง,ดาราตลก บิล คอสบี้)
ผมเล่าเรื่องเมื่อกี๊ไปเพื่อจะเล่าเรื่องนี้

( ท่อน1 : Shing02)
ไข้ใจก็เหมือนหมาที่เขี้ยวมีปัญหาเสียวฟัน
(ผม)กำลังพัฒนาบทใหม่ของทฤษฎีสัมพันธภาพ
เชื่อมวิญญาณที่อยู่ในกรงขังของเราไว้ด้วยกัน
ชีวิตที่มั่นคงสำหรับผมไม่มีความหมาย
เรื่องราวของเรา เป็นเพียงหนึ่งในสี่ของหนึ่งร้อยปี
ความเป็นจริง เกิดขึ้นเพราะความสัมพันธ์ของเรา
เห็นไหมว่ามันไม่ได้ลึกลับอะไรเลย เมื่อเรื่องของเราหลอมรวมเข้าด้วยกัน ความคิดก็เป็นอิสระ
มาสร้างท่วงทำนองที่มองเห็นได้โดยไม่ต้องใช้ตามองกัน!
คืนลมหายใจให้พื้นที่ที่นิ่งนอนตาย ปัดเป่าเมฆแห่งความสงสัย
เราตั้งใจจะสร้างดินแดนใหม่ที่ทุกแห่งหนสุขสงบ
ตอนนี้มันอาจจะยังห่างไกลแต่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว
เมื่อความคิดของเราโลดแล่นและฝ่าชั้นบรรยากาศ
คลื่นเสียงบริสุทธิ์เดินทางกึ่งไร้ขีดจำกัด
ส่วนผมจะไปเจอกับคุณที่นั่นอย่างแน่นอน

(ฮุค)
เพราะจังหวะบวกทำนอง
ทำให้ผมพูดถึง L.O.V.E อันคมคายได้ชัดเจน
เพราะจังหวะบวกทำนอง
ทำให้ผมพูดถึง L.O.V.E อันคมคายได้ชัดเจน
(ผมคิดอย่างนั้นจากใจจริง เพราะคุณทำให้ผมรู้สึกดีในฐานะคนๆหนึ่ง)

(ท่อน2)
งดงามนัก พัฒนาการทุกอย่างมีจุดเริ่มและจบลงที่การเผยความจริง
พระเจ้ายื่นโอกาสนี้ให้ผมเพื่อค้นหาเสียง เพื่อเอ่ยคำหนึ่งซึ่งรอมานานเกินนาน
งานค่าแรงต่ำ ทิปน้อยตามรายทาง
ไม่มีงาน ถูกบีบคั้นเสียภาษี
ช่วงนี้คุณไม่ได้ฟังข่าวเลยเหรอ?
ดูเหมือนพวกเราอยู่ในแดนมิคสัญญีมาสักพักแล้ว
แต่ว่าโย่ ผมก็คิดไปว่ารู้ว่าเพลงรักควรจะเป็นยังไง
จนมาเจอเสียงที่อบอุ่นกว่าในแสงแดด
ยังดังในหูไม่หายแม้จะกลับห้องและผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว
ผมต้องไป ขึ้นเรือความฝันกลางแสงจันทร์
บางครั้งผมก็ลืมไป โอ้ ชีวิตที่เราเฝ้าจูงจะง่ายกว่าขนาดไหน
ถ้าเรียนรู้ที่จะปล่อย สายจูงที่เราจับไว้
หวนกลับสู่วิญญาณ ปล่อยให้จิตใจล่องลอย
ดังนั้น เรื่องเป็นอย่างนี้ แต่ละวันได้เจอกับวิธีนับล้านที่แสดงถึงเมตตาหาที่สุดไม่ได้
แต่วิธีที่ผมเลือกแสดงอภิสิทธิ์ของตน
คือรักมากมายที่ผมอยากจะมอบให้

(ฮุค)

(ท่อน3)
โอ้ ผมบรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นเพราะคุณได้เป็นเล่ม
แต่แล้วเพลงบทนี้ที่ผมเขียนขึ้นเพื่อคุณล่ะ?
ที่ผมคิดคือ... อยากสื่อศรัทธาของผมไปในคำง่ายๆเหล่านี้
ให้คุณเข้าใจว่าผมคิดอย่างไร,คุณเล่าคิดอย่างไร
หวนหาฉากสั้นๆที่พวกเรามีร่วมกัน
ระลึกถึงตอนที่คุณบอกผมในคืนหนาว ให้ปล่อยวางในตอนที่ผมรู้จักเพียงยึดมั่น
จำตอนที่ผมคุยกับคนเต็มห้องแล้วพบว่าคุณเป็นคนสำคัญของผมได้ไหม?
ตอนนั้นผมเป็นตัวตลกร้องเพลงบลูส์บนเวที
สายตาทุกคนจับจ้องมาและผมไม่มีอะไรมายืนยันคำนั้น
แต่ว่าโย่ ผมก็คิดไปว่ารู้แล้วว่าแสงเพชรส่องประกายอย่างไร
แต่ก็มาเจอกับรักที่เจิดจ้ากว่าเมื่อมายืนอาบแสงไฟ
จากราชินีแห่งหัวใจผู้เฝ้ามองผมเงียบๆจากระเบียงชั้นบน
บางครั้งผมสงสัย ตัวผมคงเป็นตัวแสดงในละครตลกที่พระเจ้าลิขิตอย่างตั้งใจ
เมื่อผมหันกลับไปมอง ยังช่วงเวลาที่ถูกแช่แข็งและพยายามจะปลดปล่อยความรู้สึกที่แน่นิ่งนั้น
ขอหยุดการเปรียบเปรยไว้เท่านี้ ที่ผมตั้งใจจะเขียนเพลงนี้ขึ้นมา
เพื่อจะบอกคุณว่าเพลงเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดัน
เหมือนที่คุณบอกว่าวันพรุ่งนี้จะนำวันใหม่ที่ดีกว่ามา

เพราะจังหวะของผมบวกทำนองของคุณ
ทำให้ผมพูดถึง L.O.V.E อันคมคายได้ชัดเจน
เพราะจังหวะของคุณบวกทำนองของผม
ทำให้ผมพูดถึง L.O.V.E อันคมคายได้ชัดเจน
(ผมคิดอย่างนั้นจากใจจริง เพราะคุณทำให้ผมรู้สึกดีในฐานะคนๆหนึ่ง รู้ใช่ไหมว่าผมหมายถึงอะไร คุณทำให้ผมพูดได้ว่า “เออ เรื่องห่วยๆนั่นก็ไม่ได้แย่เกินไปนะ”)
----------------------------------

....แปลแล้วก็ยังงงใช่ไหม (555)
อย่างที่เพลงก็บอกไว้ในท่อนสุดท้าย ว่าเพลงนี้คำเปรียบเปรยเพียบ แต่เป็นเพลงที่เพราะมากเลยนะ
ในความคิดส่วนตัว คิดว่าท่อนที่สามเป็นท่อนที่เล่นคำได้สนุกมากเลย
ขอ copy +paste ท่อนที่อยากพูดถึงอีกที
Remember the time that I spoke to the crowd in a full house and realized that you was my ace?
I was the joker on the stage singing the blues
All eyes on me and had nothing to prove
But yo, I thought I knew what a diamond shine like
But I felt a sharper love in the limelight
From the queen of hearts watching me quietly from the upper deck balcony

full house, ace, joker, diamond, hearts, deck
ทั้งหมดเป็นชุดคำที่มาจากไพ่ค่ะ แต่พอแปลก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับไพ่หลุดออกมาเลย (แง) ทำเอาอยากให้ภาษาไทยมีฟุริงะนะแบบญี่ปุ่นเลยจะได้ชี้บอกได้ว่านี่เล่นคำน้า  
เอาล่ะ หวังว่าทุกท่านจะได้อ่านได้ฟังเพลงกันเพลินนะคะ มีอะไรติชมก็เม้นท์ไว้นะ ไว้เจอกันโอกาสหน้าค่ะ ^^//