วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 192


บทที่ 192 – มังกรโลหิต

เสียงพื้นดินสั่นสะเทือนดังสะกิดหู
แรงสั่นจากพื้นส่งมายังเท้าทำให้ทั้งร่างสั่น
เสียงการปะทะดังจากทุกทิศทางจนไม่จำเป็นต้องมองหาที่มาของเสียง
ศัตรูมีอยู่ทุกที่และทุกเผ่าพันธุ์
ออร์ค โอเกอร์ กระทั่งมนุษย์...
สิ่งมีชีวิตจากมิติของไอบริทตอบรับคำเรียกของมัน พวกมันทั้งหมดตรงมาสู้กับคังวูจินและกองทัพผีดิบ
มอนสเตอร์ที่ออกมาจากดันเจี้ยนในโซล หยุดทำลายเมืองและมุ่งมาที่ผู้ไม่ตาย
ถนนที่ควรเต็มไปด้วยรถตอนนี้แน่นไปด้วยมอนสเตอร์ที่เดินแถวมา
เราส์และทหารที่กำลังควบคุมสถานการณ์อยู่มองอย่างสับสน จากมุมมองของพวกเขามันเหมือนมอนสเตอร์กำลังถอย แต่ถ้ามีคนมองจากมุมกว้างจะเห็นว่ามอนสเตอร์กำลังมารวมกันในที่เดียว เกาะเล็กกลางแม่น้ำ
ศัตรูเต็มไปหมด
ดวงตาของพวกมันแดงด้วยความแค้น มันส่งจิตสังหารมายังวูจิน ทำให้เขาอยากหัวเราะ
“ดูท่าขยะจากมิติอื่นจะมารวมกันตรงนี้...”
ผู้อพยพมิติ
พวกมันสูญเสียรหัสของโลกเดิมไป มันคือตัวตนโชคร้ายที่เสียดาวบ้านเกิดไป เป็นหุ่นเชิดที่ใครก็ใช้แต้มเรียกออกมาได้
ตัวตนที่ว่าแยกเขี้ยวใส่เขา และวูจินไม่ใจกว้างพอจะอธิบายด้วยคำพูด
เขาอยู่ใกล้กับความตายที่สุด
เขาเป็นราชาของความตายที่ท้าทายทุกสิ่ง
“ฉันจะทำความสะอาดที่นี่”
ด้วยความตาย...
เหล่าดวงวิญญาณรวบตัววูจินกลายเป็นบาเรียขนาดใหญ่
พรึ่บ
ผ้าคลุมบนเกราะของเขาสะบัดเหมือนใกล้ขาด
<การปกป้องของทราช>
เมื่อวูจินซ่อมแซมเกราะหน้าอกได้แล้ว ข้อจำกัดทั้งหมดก็หายไป ตอนนี้เขาสามารถสะสมวิญญาณได้ไม่จำกัด มันยังเพิ่มพลังให้เขาสามเท่า
วูจินเปลี่ยนรองเท้าด้วย
<การเดินทัพของทราช>
เขาทิ้งพลังงานความตายไว้ในทุกก้าว มันช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ของเหล่าผีดิบ และปล่อยพิษล่อให้สิ่งมีชีวิตมุ่งเข้าหาความตาย
ยังมีเข็มขัดหัวกะโหลก
<ความสูงศักดิ์ของทราช>
แค่ไอเทมนี้ไอเทมเดียวก็เพิ่มค่าบงการของเขาเป็นสองเท่า
ตอนนี้ยังขาดไอเทมในเซ็ทไปสองอย่าง วูจินไม่มีวัตถุดิบเพียงพอจะสร้างเกียรติและการลงทัณฑ์
ปราการลอยฟ้าต้องใช้แต้ม เขาจึงใช้แต้มแบบไม่คิดไม่ได้ วูจินใช้ค่าความสำเร็จซื้อของจากร้านส่วนตัวไปหมดและสร้างไอเทมได้เพียงสามอย่าง
เขาต้องรวบรวมไอเทมทั้งห้าอย่างเพื่อให้ได้โบนัสจากฟูลเซ็ท กองทัพผีดิบของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมาก
“เอาเลยไหม?”
เมื่อบาเรียลดลง เสียงจากการต่อสู้ระหว่างเหล่าผีดิบและมอนสเตอร์ก็ดังเข้าหู
วูจินออกเดิน วิญญาณมารวมกันที่เป็นฐานที่เท้าของเขา
วูจินไม่ได้ขี่ชิงชิง แต่การเดินทัพของทราชทำให้เขาใช้ควบปีศาจได้ ตอนนี้การอยู่กลางอากาศเป็นเรื่องง่ายไปแล้ว เขาเดินไปที่ไหนก็ได้ตามต้องการ
วูจินกระโดดเหยียบอากาศแล้ววิ่งไปทางพวกนักรบออร์คที่เหยียบพวกจระเข้ข้ามแม่น้ำฮันมา
“อันนี้ใช้ยังไงดี?”
วูจินหยิบอาวุธนักรบออกมา
มันเป็นแส้ มันยืดยาวออกไปรัดรอบหัวของออร์ค
อาวุธของวูจินสามารถเปลี่ยนเป็นแส้ได้เมื่อเขาเลเวล 90 มันสามารถเคลื่อนไหวในทิศทางประหลาดและมีความคมที่สามารถผ่าได้ทุกอย่าง
“อ๊าก”
ออร์คร้องไม่ทันจบ ร่างของมันระเบิดและกลายเป็นโครงกระดูก
เคะๆ
พลังบงการของเขาถูกเพิ่มเป็นสองเท่า
ศัตรูตายลงเรื่อย และกองทัพผีดิบก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย
“ฆ่าเนโครแมนเซอร์!
“ฆ่ามัน!
มนุษย์ เอลฟ์ แม้แต่นักรบคนแคระข้ามแม่น้ำฮันมา
พวกมันมีมากมาย ถ้าใครไม่รู้ว่าที่นี่คือโซลคงคิดว่ามันเป็นดินแดนของมอนสเตอร์
เสาแสงพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าโซล แสดงว่าดันเจี้ยนหลายแห่งถูกรีเซ็ท
ดันเจี้ยนไม่จำเป็นต้องรอเวลาประสานอีกแล้ว มอนสเตอร์ออกมาจากดันเจี้ยนเรื่อยๆ กิลด์และกองทัพไม่มีเวลาขัดขวาง
ประชากรในเมืองโซลไม่มีเวลาอพยพหนี คนถูกปล่อยทิ้งไว้บนถนนและถูกฆ่า
นี่คือเกรทลอร์ดของบัลลังก์ที่ 70
อำนาจของไอบริททำให้มอนสเตอร์รวมตัวกันที่เกาะ
เพราะอย่างนี้จึงมีเวลาให้ประชาชนหนี
บางคนวิ่งไปทางตรงข้าม บางคนเลิกหนีและตัดสินใจรอการช่วยเหลือ คนส่วนน้อยดูและบันทึกการต่อสู้บนเกาะ
[ฮ่า! น่าเสียดายคิบะไม่ได้มากับพวกเรา]
อัศวินมรณะแรมสันเหวี่ยงค้อนด้วยความเสียดาย แม้แต่กับอัศวินมรณะที่ชินกับสงคราม การสู้กับศัตรูระลอกแล้วระลอกเล่าเช่นนี้ยังไม่มีบ่อยนัก
พวกมันฆ่าและฆ่า แต่ศัตรูมีไม่รู้จบ
บรรยากาศในสนามรบกดดันและอัดแน่นไปด้วยความกลัวและความบ้าคลั่งจากสิ่งมีชีวิต
[ดีมาก]
เหล่าอัศวินมรณะยินดีเมามายกับบรรยากาศนี้
ไฮดร้าปรากฏตัวในหลายๆที่ พวกมันพ่นไฟออกมา
ลิชเจนิสใช้ไม้เท้าขนาดใหญ่ยิงเวทอย่างต่อเนื่อง พลังเวทรอบตัวเขาแน่นจนใบหน้าเจนิสดูเป็นสีแดง
[มาที่ข้าสิ! ข้าจะช่วยพวกเจ้าทั้งหมด!]
ถ้าการมีชีวิตอยู่ทำให้เจ็บปวด มันจะช่วยด้วยการสังหารให้หมด
เวทของลิชมีไม่หมดสิ้น
[โก!]
โกเลมเหล็กขยับตัวและต้นไม้ที่อยู่ใกล้มันล้มลง ศพสุมเป็นกอง
มอนสเตอร์ที่เหมือนออกมาจากนิยายตาย ดาบโล่และอะไรก็ตามที่ทำจากโลหะถูกดึงเข้าหาร่างของโกเลม มันเหมือนแม่เหล็ก ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ศพเต็มแม่น้ำฮัน เลือดที่ไหลออกมาทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด
ร่างมหึมาอาละวาดไปรอบ มันพ่นเลือดออกมาเป็นฝอย
[ความปรารถนาของเจ้าคืออะไร?]
มังกรกระดูกเฝ้าถามคำถามที่ไม่มีใครตอบ มันเคี้ยวเหยื่อของมันต่อไป
น้ำสีแดงกระจายไปรอบๆ
ก่อนจะทันรู้ตัว รอบตัววูจินก็มีผีดิบและศพเป็นส่วนใหญ่
ตอนนั้นเอง
อีกาอมตะที่ลอยสูงบนฟ้าก็พุ่งลงมา
มังกรกระดูกกระโดดเข้าปะทะไอบริท ไอบริททั้งร่างเต็มไปด้วยหนาม มันยิงขนนกแหลมแบบไม่เลือกหน้าและทำลายทุกอย่าง
แส้ลอยมาเหมือนงูรัดรอบคออีกา
“จับได้แล้ว...หา?”
วูจินยิ้ม แต่ไอบริทกระโดด วูจินและแส้ถูกพลังมหาศาลลากไปด้วย
“เฮอะ...”
ขนาดแส้ยังไม่สามารถตัดผ่านผิวหนังไอบริท มันทำร้ายไม่ได้กระทั่งขนนกบนร่าง
วูจินจับแส้ไว้ ไอบริทเร่งความเร็วขึ้นไปบนฟ้า
ถ้าถูกลากไปแบบนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้ วูจินจึงเก็บอาวุธนักรบ
เขาหล่นลงบนกิ่งไม้หนามกิ่งหนึ่ง
[ข้าจะคอยดูเจ้าแสดงอะไรสนุกๆอีก]
ไอบริทพูดเมื่อบินไปสูงแล้ว และวูจินกลั้นเสียงหัวเราะแห้งไว้
ไอ้เวรกำลังรอให้เขาเหนื่อย
อีกอย่าง ดันเจี้ยนรอบๆกำลังรีเซ็ท วูจินเชื่อว่าไอบริทมีแผนร้ายอะไรบางอย่าง
บัลลังก์ที่ 70
มันเป็นเจ้าของดาว 70 แห่ง มันสะสมแต้มไว้เท่าไหร่?
กองทัพของมันจะใหญ่แค่ไหนถ้ามันใช้แต้มทั้งหมด?
“จะบอกว่านายยังฆ่าฉันไม่ได้?”
มันรอให้วูจินเหนื่อย ก็แปลว่ามันยอมรับว่าอ่อนแอ พลังต่อสู้ของไอบริทต่ำกว่าของเขา
วูจินมองลงมาจากต้นไม้หนาม
กองทัพผีดิบถูกล้อมด้วยซากศพ ศัตรูที่ยังมีชีวิตอยู่กำลังถูกเข่นฆ่า
ซากศพสุมแม่น้ำฮัน ตอนนี้มันถูกใช้เป็นสะพานให้มอนสเตอร์ข้ามมา
วูจินยิ้ม
“อัญเชิญกลับ”
โครงกระดูก อัศวินมรณะ ลิชและมังกรกระดูกสลายไป
วูจินกลายเป็นหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่บนเกาะเล็ก
“เนโครแมนเซอร์ใช้พลังเวทหมดแล้ว!
“ฆ่ามัน!
มอนสเตอร์... พูดให้ถูกคือเหล่าผู้อพยพมิติวิ่งเข้าหาวูจินเหมือนกำลังแข่งขันกัน
เมื่อพวกมันมาถึงเกาะ บ้างพยายามปีนต้นไม้ ที่ไม่มีความอดทนก็ขว้างหอกหรือยิงธนู พริบตาเดียว ศัตรูนับหมื่นก็มารวมกันบนเกาะกลางแม่น้ำ
“พวกนายคิดจริงๆเหรอว่าฉันหมดพลังเวท?”
มือสองข้างของวูจินชี้ไปข้างล่าง
ทุกแห่งเต็มไปด้วยซากศพและวิญญาณที่กำลังโหยหวน
พลังเวทเขาจะลดน้อยไปได้อย่างไร?
“ศพระเบิด”
ศพทุกศพระเบิด แรงระเบิดกลืนกินทุกอย่างและทำให้เกิดศพมากกว่าเดิมอีก เลือดและเศษเนื้อลอยว่อน ภาพเหมือนฉากในนรก
แรงระเบิดทำลายเกาะ
ไม้หนามสั่นอย่างรุนแรง เหมือนจะล้มลงมา แต่รากของมันแข็งขึ้นและแทงขึ้นมาจากพื้น
น้ำในแม่น้ำฮันครึ่งหนึ่งระเหยไป น้ำสีแดงไหลเข้าไปแทน
ดวงตาวูจินเห็นวิญญาณนับหมื่นดวง...
วิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในผ้าคลุมของทราช พลังเวทที่เกือบหมดถูกเติมเต็ม
ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขาจะเรียกเหล่าโครงกระดูกออกมาใหม่ก็มีเครื่องสังเวยมากพอ รอบตัวเขาเต็มไปด้วยเลือดเนื้อกระดูก...
“ออกมา”
วูจินเรียกกองทัพกระดูกออกมาใหม่ พวกมันพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์ที่วิ่งคำรามมาทางเขาอีก
วูจินเงยมองอีกาอมตะ แล้วมองมังกรกระดูก
“เฮ้ รงรง ถึงตาพวกเราโต้คืนแล้ว”
[ความปรารถนาของเจ้าคืออะไร?]
“นายอยากได้อะไร?”
มังกรขี้ลืมปกติพูดเก่ง แต่ตอนนี้มันเงียบ วูจินยิ้ม
มันคืออสูรที่แข็งแกร่งและร้ายที่สุดของเขา
หลังจากเงียบไปครู่ รงรงกล่าวความปรารถนาของมันตลอดหลายพันปี
[ข้าอยากได้ปีก]
มังกรที่บินไม่ได้ไม่ใช่มังกรที่แท้จริง
“ฉันอยากให้”
วูจินยิ้มแล้วมองไปทางโกเลมเหล็ก
[โก]
เหล็กที่รวมกันเป็นเกราะเริ่มหล่นลงมาจนเหลือแต่ดวงจิตของโกเลม มันเริ่มดูดเลือดรอบๆ
มันเหมือนหมอกที่ทำจากเลือด...
เลือดหมุนวนเหมือนลมหมุน แต่แล้วก็ไปรวมกันรอบมังกรกระดูก
ดวงจิตโกเลมเข้าไปอยู่ในซี่โครงของมังกรกระดูกและดูดเลือดใกล้ๆทั้งหมด
มังกรคำรามแล้วยืดตัวขึ้น เลือดเริ่มไปติดกับกระดูก จับตัวกันกลายเป็นเนื้อ ปีกกระดูกที่มองเหมือนหอกเริ่มสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมา
เลือดเริ่มคลุมกระดูกไปถึงปลายจมูก
มันดูดเลือดไม่มีหมดสิ้น... เลือด...
หมื่นชีวิตถูกสังเวยเพื่อรวมพลังของสองอสูรที่เก่งกาจที่สุดของเขา
มังกรโลหิตคำราม ความกลัวทำให้กองทัพมอนสเตอร์ผงะ
[ความปรารถนาของข้าเป็นจริงแล้ว ความปรารถนาของเจ้าคืออะไร?]
มังกรดึกดำบรรพคืนชีพ วูจินหัวเราะอย่างขี้เล่นพลางชี้ไปที่ท้องฟ้า
“ไปเอากานั่นมาให้ฉัน”
[ด้วยความยินดี]
กึง!
มันทิ้งรอยขนาดใหญ่ไว้ตอนผลักตัวขึ้นไป มังกรโลหิตปีนขึ้นฟ้า
พลังเวทของวูจินหมดอีกครั้ง เขาจึงใช้วิญญาณมาเพิ่มพลัง วูจินใช้พลังบงการอย่างเต็มที่กับศพอีกครั้ง
เหมือนเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง โครงกระดูกฉีกซากศพออกมา
อีกากำลังรอให้เนโครแมนเซอร์หมดแรง?
กองทัพผีดิบของเขาใหญ่ขึ้นเท่าตัว พวกมันรอบัญชาจากผู้ไม่ตาย
“กวาดให้เรียบ”
[โอ!]
อัศวินมรณะคำรามรับคำสั่งและเหล่าโครงกระดูกตามพวกมันเข้าสู่สงคราม

สารบัญ                          บทที่ 193



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น