บทที่ 138 – จ้าวแห่งโรคระบาด
ดวงตาโตกระจ่างใสของบิบิมีแรงดึงดูดประหลาดจับตาคนมอง
ไม่ใช่ เธอเป็นเผ่าอสูร นี่คงเป็นเวทของเธอ?
โดลเซมีเลือดท่วมตัว มันพุ่งเข้าหากลุ่มแต่แล้วก็เริ่มลังเล
มันช้าลงจนกลายเป็นเดิน
“นี่ล่ะโดลเซจิงของพวกเรา เป็นเด็กดีหรือเปล่า?”
เลือดไหลออกจากตัวมันทุกก้าวเดิน ร่างของมันหดลงพร้อมกับเลือดไหลลงไปนองพื้น
“โดลเซจิงของพวกเราโกรธเหรอ?”
[โก]
ความโกรธของมันหลุดออกมา เหมือนสัตว์ร้ายหลุดจากกรง มันรู้สึกเคียดแค้นสิ่งมีชีวิต แต่ เสียงของบิบิเปลี่ยนเป็นพลังงานอบอุ่นอย่างหนึ่งและปลอบประโลมหัวใจของโดลเซ
“พี่สาวเข้าใจนะ ตอนนี้เลิกโกรธเถอะ ดีไหม?”
มือเล็กๆของบิบิแตะศีรษะโดลเซ
[โก]
เลือดที่แข็งตัวรอบดวงจิตโกเลมละลายอย่างรวดเร็ว เลือดเหนียวเหนอะเลอะรองเท้าบิบิแต่เธอไม่ขยับหนี
วิ้ง
เมื่อเลือดหายไป ดวงจิตโกเลมกลับไปเป็นแสงสว่างและวนรอบๆศีรษะบิบิ เธอยิ้มแล้วยกไม้เท้าชี้ไปทางกลุ่มรถที่จอดอีกด้านของลานจอดรถ
มันคือส่วนใกล้ทางเข้าสถานีโทรทัศน์ รถตรงนั้นดูหรูหรา
“ฮิๆ โดลเซที่ใจดีของพวกเรา เขาว่ารถตรงโน้นทนทานกว่า”
วิ้ง
โดลเซดึงรถเข้ามาและกลับไปเป็นโกเลมเหล็ก
“เอาล่ะ พอถอนต้นไม้นี่ได้แล้วพวกเรากลับไปหาเจ้านายกันดีกว่าไหม?”
[โก]
โดลเซขยับไปทางต้นไม้ที่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ
***
อาคารจัดงานชุมนุมศิษย์เก่าที่จีวอนเข้าร่วมนั้นหาไม่ยาก อาคารหลังใหญ่ถูกใยแมงมุมคลุมจนมิด แม้แต่ตึกรอบๆก็ถูกแมงมุมเข้ายึด
“มีตัวน่ารำคาญมาที่นี่”
ลอร์ดมิติประเภทแมลงมีลักษณะนิสัยเหมือนลูกน้องที่มันปกครอง พวกมันขยายพันธุ์รวดเร็วมาก พวกมันปกติแล้วรับมือยากเพราะมีจำนวนมาก
แต่ศัตรูแบบนี้สำหรับวูจินแล้วจัดการง่ายมาก
หอกกระดูกจากมือวูจินพุ่งทะลุเหล่าแมงมุม
เมื่อศพเริ่มกองสุมขึ้น เขาก็เรียกทหารโครงกระดูกออกมาทันที
เดี๋ยวนี้วูจินใช้ค่าบงการไปกับอสูรของเขาเท่านั้น
ถ้าไม่นับรีลิคจากเผ่าราทิคซึ่งเป็นอัศวินมรณะตนล่าสุด อสูรตนอื่นอยู่กับเขามานาน ต่อให้ไม่ใช้ค่าบงการในฐานะเนโครแมนเซอร์ อสูรเหล่านั้นก็ยังเป็นสหายของเขา
ค่าบงการที่เข้าต้องใช้เพื่อเรียกอสูรรับใช้ออกมารวมกันแล้วต่ำกว่า 100 เพราะเหตุนี้วูจินจึงสามารถเรียกทหารโครงกระดูกออกมาเกิน 2,000 ตัวอย่างง่ายดาย
“มาดูกันว่าใครจะเร็วกว่า”
นี่เป็นการแข่งขันว่าวูจินจะฆ่าเร็วกว่าหรือศัตรูจะขยายพันธุ์เร็วกว่า
ทหารโครงกระดูกตัดผ่านใยแมงมุมเข้าไปในอาคาร วูจินเรียกดาบยาวออกมา
เขาได้ทักษะเปลี่ยนอาวุธของนักรบเป็นดาบยาวเมื่ออาชีพนักรบถึงเลเวล 70 รูปร่างพื้นฐานของอาวุธนี้คือไม้เท้า แต่มันสามารถเปลี่ยนเป็นหอก,ค้อน,ดาบสองมือ,ขวานและธนู รวมทั้งหมด 7 แบบ
นอกจากธนูแล้วรูปร่างอื่นล้วนสำหรับการต่อสู้ประชิดตัว
ช่วงนี้วูจินชอบใช้ดาบ ดาบยาวเบาเหวี่ยงง่ายและเขาสามารถเปลี่ยนรูปร่างของอาวุธได้ตามใจ
ใยแมงมุมมีเต็มผนังและเพดาน เขาฝ่าไปพลางตัดใยแมงมุมเหล่านั้น บางครั้งแมงมุมกระโจนใส่เขา เขาตัดมัน บางตัวถึงลำตัวถูกผ่าครึ่งไปแล้วก็ยังไม่ตาย ร่างมันกระตุก
วูจินเหยียบแมงมุมจบชีวิตของมัน
ไม่ว่าใครก็แย่งชิงชีวิตของผู้อื่นได้ แต่วูจินสามารถมอบชีวิตให้กับสิ่งที่ตายไปแล้ว
เผียะ!
ศพแมงมุมระเบิด แล้วนักเวทโครงกระดูกก็ถูกเรียกออกมา
“เผาให้หมด”
นักเวทโครงกระดูกใช้เวทได้แค่ประเภทเดียว และประเภทที่จะใช้ได้ก็สุ่มไปทุกครั้งที่เรียกออกมา วูจินยังเลเวลไม่ถึง 80 เขาจึงไม่ได้ลิช ดังนั้นจึงได้แต่สุ่มเรียกนักเวทโครงกระดูกออกมา
ถ้าโชคดีก็ได้นักเวทโครงกระดูกที่ใช้เวทไฟ
วูจินเรียกอสูรของเขาออกมา มันเป็นอสูรที่สิงในเงาของเขาและเป็นอสูรที่ไม่น่าคบหาที่สุด
“กาเกบิ”
[คึๆ ข้าเกือบลืมเสียงของเจ้านายไปแล้ว]
“หนวกหู ไปหาจีวอน...”
[คิดว่าข้าจะหาไม่เจอหรือ?]
กาเกบิละลายเข้าไปในตึกและเริ่มมองหาโดจีวอน
[แหม แหม นางดูไม่ดีเลย]
“ทำไม”
[ดูเหมือนนางกำลังจะกลายเป็นอาหารแมงมุม คึๆ]
วูจินขมวดคิ้ว ดูเหมือนคนจะถูกใช้เป็นที่ฟักไข่ของแมงมุม
เขามีเวลาไม่มาก
“กลับมา”
[คึๆ ความตายของคู่หมั้นจะปลุกผู้ไม่ตายขึ้นมาไหมนะ?]
“หุบปากแล้วกลับมา”
[คึๆๆ]
กาเกบิกลับเข้าไปในเงาของวูจิน วูจินได้รู้เห็นสิ่งที่กาเกบิเจอมา
จีวอนอยู่ที่ชั้น 7
ลานจัดเลี้ยงปกคลุมไปด้วยใยแมงมุม มนุษย์อยู่ในดักแด้ ห้อยลงมาจากเพดาน บนพื้น ลูกแมงมุมกำลังขยับไปมาเป็นกลุ่มใหญ่
มนุษย์แมงมุมตัวหนึ่งรู้สึกถึงพลังจากวิญญาณบริสุทธิ์ของจีวอนจึงเดินไปหาเธอ เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว
วูจินมองไปที่เพดาน
เขาเปลี่ยนอาวุธเป็นค้อน
พลังงานจากทักษะ ‘ทุบพื้น’ เปลี่ยนค้อนเป็นสีแดง
วูจินงอเข่า รวมพลังจาก ‘พุ่งตัว’ และ ‘กระโดด’ ไว้ที่ขา
ร่างวูจินพุ่งไปเหมือนกระสุน พื้นพังทลาย แรงลมทำกระจกแตกเป็นทาง
ร่างของเขาทำลายผ่านแต่ละชั้นจนมาถึงชั้น 7
ตัวตึกสั่น
มนุษย์แมงมุมชาร์ล็อตตกใจเมื่อเห็นวูจินปรากฎตัวด้วยวิธีนี้ แต่ไม่นานนางก็หัวเราะ
[โย่โฮะๆ นึกไม่ถึงว่าโลกจะมีนักรบระดับเจ้า]
โลกมีเราส์ระดับสูงแบบเดียวกับมนุษย์ตรงหน้าเธอหลายคนหรือไม่? หรือว่านี่คือเหตุผลที่ลอร์ดมิติเชื่อมต่อกับโลกอย่างลำบาก
วูจินเดินมาโดยไม่พูดอะไร
[โย่โฮ พวกนักรบช่างไม่ระวังเลย]
ชาร์ล็อตเตรียมเวทสำหรับวูจินที่เดินมาอย่างไม่เกรงกลัว แต่แล้วเขาก็ผ่านชาร์ล็อตและเดินไปทางดักแด้หนึ่ง
นางพูดเสียงแหลมเมื่อวูจินเฉียดผ่านนางไป
[สามหาว!]
เขาเดินมาใกล้จนเกือบสัมผัสตัวนางได้
เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ? นางถูกจำกัดพลังตามอัตราส่วนของการประสาน แต่ถึงอย่างนั้นเขากล้าเมินลอร์ดมิติเช่นนางได้อย่างไร?
นางกางมือออกทันที
ก่อนที่เล็บพิษของนางจะถึงตัววูจิน เกราะผีรอบตัววูจินก็ทำงาน แรงต้านแรงจนเหวี่ยงชาร์ล็อตออกไป
[กรี๊ด!]
วูจินยืนเบื้องหน้าดักแด้
เขาแหวกใยแมงมุมออกและเห็นใบหน้าโดจีวอน เธอถูกแขวนห้อยหัว ดูเหมือนเธอจะถูกแขวนอยู่นาน ใบหน้าเธอแดงฉานเหมือนจะระเบิด
“ว...วูจินอา”
วูจินฉีกดักแด้ออกอย่างง่ายดาย
“อึก”
เลือดเธอกลับไปไหลเหมือนปกติ จีวอนยืนไม่อยู่ เธอพิงตัวกับวูจิน แขนของวูจินโอบรอบเอวของเธอ
“วูจินอา”
วูจินโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงเศร้าของเธอ
เขายังไม่สายไป
“เพื่อนๆของเรา...”
วูจินมองรอบๆ ในนี้มีดักแด้มากกว่า 100 ตัว มีอีกมากที่ยังถูกแขวน แต่มีบางตัวที่ระเบิดไปแล้ว กระดูกกองสุมใต้ดักแด้ที่ถูกระเบิดออก
คนในนี้เคยเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนของเขา
“ฉันมาช้าไป”
ถ้าเขามาร่วมงานจะช่วยทุกคนได้หรือเปล่า?
แต่เสียใจไปก็ไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้
เขาบอกไว้ชัดเจนว่าจะไม่มางานชุมนุมศิษย์เก่า แต่คนยังมาเพื่อความเป็นไปได้น้อยนิดที่จะได้เจอเราส์ที่เก่งที่สุดในโลก คังวูจิน พวกเขาคงอยากได้รูปถ่ายเป็นการยืนยันว่าเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับคนดัง?
[ฮึ่ม มนุษย์กล้าทำอย่างนี้กับข้าได้อย่างไร]
มีสิ่งเดียวที่เขาจะทำให้เพื่อนที่จากโลกไปก่อนวัยอันควรได้
[แมงมุม แกชื่ออะไร?]
[ทำไมเจ้าพูดกับข้าได้?]
ตอนที่ปลาหมึกเดรดและลอร์ดมิติคนอื่นมาเยี่ยม วูจินกินยาภาษาไปหลายเม็ด
[IQ แกขาดไปเพราะเป็นแมงมุมเหรอ?]
[คึ เจ้า...]
[แกชื่ออะไร?]
[ข้าคือลอร์ดมิติจากสหพันธ์กิ้งก่าเหลือง ชาร์ล็อต]
[แกมาจากสหพันธ์เดียวกับปลาหมึกนั่น]
วูจินยกค้อนขึ้นพาดบ่า
ชาร์ล็อตจ้องเขา
[ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงเป็นลอร์ดมิติที่มันพูดถึง คังวูจินใช่ไหม? ใช่แล้ว มันบอกว่าเจ้ามาจากโลกนี้]
ชาร์ล็อตมองหน้าวูจินอย่างไตร่ตรอง เดรดพยายามดึงเขาเข้าสหพันธ์แต่ถูกหักหลัง
[ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด]
[ฮึ สำหรับลอร์ดมิติแล้วความตาย...]
[แกจะคืนชีพ แล้วฉันจะฆ่าอีก แกจะคืนชีพเรื่อยๆและฉันก็จะฆ่าพวกแกเรื่อยๆ]
เขาจะฆ่าพวกมันทุกครั้งที่พวกมันคืนชีพ ถ้าไม่ยอมรับคำท้าดวล เขาก็แค่ไปที่ดันเจี้ยนในโลกจาคุเพื่อฆ่าพวกมันให้หมด เขาจะทำลายอาณาเขตมิติของพวกมันให้ราบคาบ เขาจะแย่งฐานะลอร์ดมิติจากพวกมัน สุดท้ายพวกมันจะตายอย่างแท้จริง
[…]
[มาสู้กัน]
[น่าสงสัยจริง นี่เป็นเพราะการขัดแย้งเล็กน้อยระหว่างเจ้ากับเดรดเหรอ? มีเหตุผลไหมที่เจ้ามาขัดขวางพวกเราขนาดนี้? ถ้าคิดสักหน่อยเจ้าจะรู้ว่าสิ่งที่เจ้าทำมันไร้ประโยชน์]
ที่เขาเกลียดพวกนางขนาดนี้ เป็นเพราะความขัดแย้งกับเดรด? หรือเพราะพวกนางบุกรุกโลกของเขา?
วูจินยิ้มพลางยกค้อนขึ้น
[จะฆ่าแมลงสักตัวต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?]
[…]
ก็อง!
ค้อนของวูจินทุบพื้น แรงกระแทกแผ่ไปตามพื้น
คลื่นกระแทกทำให้ลูกแมงมุมระเบิด ตึกทั้งตึกส่งเสียงครืน
[บังอาจนัก ลูกๆของข้า...]
ก่อนชาร์ล็อตจะได้จ้องวูจินด้วยความโกรธนางก็ต้องประหลาดใจ ความเจ็บจี๊ดขึ้นมาจากท้องและนางรู้สึกว่าร่างถูกยกลอยขึ้น
วูจินพุ่งเข้ามาและเปลี่ยนค้อนเป็นหอก หอกแทงทะลุท้องชาล็อตและตรึงนางไว้กับเสา
ขาทั้งสี่ที่เปี่ยมพิษของชาร์ล็อตพยายามแทงวูจิน แต่วูจินปล่อยหอกแล้วกระโดดหลบ
[คึก]
เมื่อเห็นชาร์ล็อตถูกตรึงกับเสา วูจินก็อดหัวเราะไม่ได้
‘ฉันคงบ้าไปแล้ว’
วูจินได้แต่ยอมรับ เขาจริงจังอยู่นานไม่ได้ ตอนนี้ความโกรธของเขาไม่ได้รุนแรงเท่าเดิมแล้ว
เมื่อเห็นสภาพชาร์ล็อต วูจินนึกถึงการบ้านตอนปิดเทอมหน้าร้อนสมัยเด็ก มันเป็นการบ้านที่เขาต้องปักหมุดแมลง
[รอวันที่แกคืนชีพไว้เลย ฉันจะไปฆ่าแก]
วูจินเรียกบรรดาหอกกระดูกและขว้างทั้งหมดในทีเดียว พวกมันปักใส่ทั่วร่างของชาร์ล็อต
[นี่...หยามกันนัก! ข้าจะ...]
ปึก!
หอกอันสุดท้ายปักเข้าไปในศีรษะชาร์ล็อต นางหยุดนิ่ง
“ว...วูจินอา”
ลูกแมงมุมรุมล้อมจีวอน พวกมันเป็นตัวลูกแต่ขนาดไม่เล็กกว่ามือคน ที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่าตัวคน
วิญญาณในเกราะผีกลายเป็นหอกผี มันพุ่งใส่พวกแมงมุม พวกมันล้มตายจนหมด
“ลุกขึ้น!”
นักเวทและทหารโครงกระดูกถูกเรียกมาตามคำสั่งของวูจิน พวกมันมีมากกว่า 500 ตัว
“กวาดที่นี่ให้เรียบ”
เคะๆๆ
เหล่าโครงกระดูกเริ่มแทงลูกแมงมุม เมื่อการกวาดล้างจบลง ทหารโครงกระดูกผ่าดักแด้และช่วยคนข้างในออกมา
“อา”
“ฮือๆ วูจินอา”
“ขอบคุณนะ นึกว่าจะตายซะแล้ว”
“ไม่น่ามาที่นี่เลย อ๊าก”
“ฉันยังไม่ตาย ฮึก ฉันยังไม่ตาย!”
ด้านวูจิน เวลาผ่านไป 15 ปีแล้ว แต่สำหรับเพื่อนร่วมชั้นของเขาเวลาผ่านไปเพียง 5 ปี หน้าตาพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปนัก ความทรงจำสมัยก่อนเริ่มหวนกลับมา
วูจินจำชื่อไม่ได้ แต่ใบหน้าของพวกเขาคุ้นตา
“...”
ไม่ได้เจอกันเป็นนาน เขาควรจะพูดอะไรดี?
นี่ไม่ใช่ที่เหมาะสมจะคุยกับคนที่กำลังกลัวเหล่านี้ เขาไม่มีอะไรจะพูดนัก
“ไว้เจอกันใหม่นะ”
วูจินเรียกชิงชิง อุ้มจีวอนขึ้นไปนั่งพร้อมกัน
เมื่อแมงมุมถูกกำจัดหมด โครงกระดูกก็ถูกเรียกกลับไป ถ้าโครงกระดูกเหล่านี้ไม่ถูกควบคุมมันจะกลายเป็นมอนสเตอร์ผีดิบเมื่อวูจินอยู่ห่างจากพวกมัน
‘เลเวลฉันใกล้ 80 แล้ว’
ดูท่าอสูรของพวกเขาจะล่าได้สำเร็จ ค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มพรวด แต่โซลยังอยู่ในอันตราย วูจินยังมีงานต้องทำ
ชิงชิงวิ่งผ่านห้องโถงกระโดดออกไปทางหน้าต่าง ชิงชิงใช้ควบปีศาจวิ่งผ่านอากาศ ซินดี้ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดมองพวกเขาอย่างเหม่อลอย
‘คังวูจิน’
หัวใจซินดี้เริ่มเต้นแรง
อย่ามายุ่งกับแฟนจีวอนนะเฟ้ยยยยยย
ตอบลบจำตัวละครไม่ค่อยได้ -_-
ลบฮ๊ะ นก!!
ตอบลบ