บทที่ 128 – ผู้ปิดดันเจี้ยน (3)
มีวิญญาณส่วนน้อยที่จากศพไปแล้ว ศพนับพันตอบรับเวทของวูจินและพลังเวทในศพทุกหยาดหยดถูกบีบเค้นออกมา
เสียงระเบิดแสบแก้วหูพร้อมกับเดรดระเหยไป ทำให้วูจินได้รับค่าประสบการณ์ก้อนใหญ่
<เพิ่มระดับ!>
อีกเพียง 4 เลเวลเขาจะเป็นเลเวล 80
ระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้นใกล้ๆแต่ทีมปลอดภัย เสียงระเบิดหูดับทำให้พวกเขาหูอื้อ แต่ถ้าเทียบจากขนาดของการระเบิดถือว่าพวกเขาได้รับความเสียหายน้อยมาก
บาเรียกึ่งล่องหนห่อหุ้มทีมไว้ มันป้องกันทุกอย่าง ความร้อน เสียงและเศษหินจากการระเบิด
บลังกายกมือสองข้างขึ้นเหมือนกำลังค้ำฟ้า จากนั้นเขากระอักเลือด
เขาใช้พลังเวทมากเกินไปจึงพยายามสงบความพลุ่งพล่านในร่างลง เขามองวูจินด้วยสายตาตัดพ้อ
“เตือนพวกเราหน่อยไม่ได้เหรอครับ?”
เขากังวลเมื่อเห็นเดรดปรากฏตัวจึงเตรียมบาเรียเอาไว้ มิเช่นนั้นพวกเขาคงถูกระเบิดไปแล้ว แต่วูจินกลับยักไหล่
“นายไม่ต้องทำแบบนั้น”
“...”
เกราะผี มันลอยรอบตัววูจินเสมอ ถ้ามีสัญญาณอันตรายบาเรียของวูจินจะก่อตัวขึ้น เขาเพิ่มเลเวลให้มันจนสามารถป้องกันแรงระเบิดได้แทบทั้งหมด
แน่นอนว่าสมาชิกทีมใกล้ๆก็จะได้รับการปกป้องด้วย วูจินไม่ต้องให้ใครมาปกป้องเขา
วูจินพูดว่าสิ่งที่บลังกาทำเป็นเรื่องไม่จำเป็น ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหดหู่
แทนที่จะขอบคุณ เขา...
“เฮ้อ คุณอ้วกเอาของอร่อยออกมาหมดเลย”
“จุ๊ๆ ฉันบอกแล้วว่าให้นายดูอย่างเดียว”
ฮงซุงกูกับเบคจองโดตำหนิเขา บลังการู้สึกอยากจะร้องไห้
เขาลืมไปว่าทุกคนที่นี่เป็นเราส์แรงค์ A
พวกเขาเป็นเราส์ที่สามารถพูดได้ว่าเก่งที่สุดในโลก ทุกคนมีความสามารถรักษาชีวิตของตัวเอง ดังนั้นก็เหมือนเขาทำเกินหน้าที่
‘แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันควรทำไม่ใช่เหรอ?!’
เขาอยากจะตะโกนประโยคนี้ออกมาแต่ไม่มีแรง หัวของเขาหมุนติ้ว บลังกากำลังยืนโงนเงนอยู่เมื่อพลังงานประหลาดไหลเข้าร่าง
“ฮ้า”
หัวเขาเย็นลงบ้าง เขาตระหนักว่าวูจินใช้ทักษะบางอย่างเพิ่มพลังให้
‘ความสามารถของเขาไม่มีที่สิ้นสุด...’
เขามีทักษะอัญเชิญ ต่อสู้ได้ ใช้เวทย์ได้แล้วยังฮีลได้อีก... บลังกาสงสัยว่าทักษะของวูจินขยายไปถึงขั้นไหน... เขาเดาไม่ออกด้วยซ้ำว่าวูจินมีทักษะกี่อย่าง
“ผมไม่เป็นไรแล้วครับ จากตรงนี้ผมฮีลเองได้”
สายตาบลังกาสื่อถึงความขอบคุณ จากนั้นเขาปล่อยพลังเวทที่เพิ่งสงบลงเพื่อตรวจร่างกายตัวเอง
“ทักษะรักษาตัวเองนี่หายากนะ”
วูจินมองอย่างทึ่ง
ชายคนนี้เป็นเราส์สายเสริมพลังและยังเป็นนักเวทสายฟื้นพลัง ดูเหมือนทักษะของเขาไม่ได้พึ่งพลังศักดิ์สิทธิ์จึงแปลก
“นายชื่ออะไรนะ?”
“บลังกาครับ”
“พูดเกาหลีคล่องดี... นายบอกว่ามาจากกิลด์วิษณุใช่ไหม? ทางนั้นจ่ายให้เท่าไหร่?”
“อะไรนะ?”
“มาอลันดาลสิ”
“...”
บลังกาควบคุมพลังที่จะปั่นป่วนอีกครั้งแล้วมองวูจิน
เขาวางแผนอะไร? บลังกาอ่านสายตาของวูจินไม่ออกแต่ดูไม่เหมือนกำลังพูดเล่น
‘อะไรเนี่ย?’
ต่อให้เป็นทีมบุกดันเจี้ยนที่ไม่รู้จักอันตรายอะไรเลย แต่มาชวนเข้ากิลด์กันในสถานการณ์แบบนี้มันควรแล้วเหรอ? ถึงอย่างไรบลังกาก็ไม่คิดย้ายกิลด์
“ขอบคุณ แต่หัวหน้ากิลด์เป็นเพื่อนสนิทผม ผมตั้งใจจะฝังสังขารตัวเองไว้ที่กิลด์วิษณุ”
“เหรอ? น่าเสียดาย”
ยิ่งบลังกาแสดงความจงรักภักดีกับกิลด์ตัวเองวูจินยิ่งอยากได้ตัวเขามากขึ้น ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
“น่าเสียดาย มาจบนี่กันเถอะ”
วูจินเก็บโต๊ะเก้าอี้เข้าคลังส่วนตัว จากนั้นก็ย้ายที่ ไม่มีหาดขาวอีกต่อไปเหลือแต่ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เกิดจากแรงระเบิด
ซากศพและบลัดสโตนสูญเสียไปในการระเบิด แต่วูจินไม่เสียดาย
กลางทะเลสาบ มีพลอยสีม่วงตกลงตรงที่เดรดตาย
วูจินก้าวลงบนผืนน้ำ
<เท้าข้ามอากาศ>
เขาใช้ทักษะตัวเบาของอาชีพนักรบ เลเวลยังต่ำเกินจะเดินบนอากาศแต่เขาสามารถเดินบนน้ำได้สบาย
เท้าวูจินแตะน้ำแต่จมลงไปไม่ถึงตาตุ่ม วูจินเดินข้ามน้ำไปหยิบพลอย
<คุณได้รับชิ้นส่วนมิติ>
ในที่สุดเขาก็จะได้ดันเจี้ยนที่นำไปสู่อัลเฟน
วูจินเก็บพลอยม่วงแล้วเดินไปทางวังใต้น้ำของเดรด เขามองข้างล่างเห็นแสงสีเขียวของหินรีเทิร์นสโตน
เขายกเลิกทักษะเท้าข้ามอากาศ ในขณะเดียวกันก็ใช้ทักษะทำให้ตัวหนักขึ้น เขาจมลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว
ยังมีมอนสเตอร์ทะเลเหลืออยู่บ้างแต่เขามองข้ามพวกมันไป วูจินหยิบหินรีเทิร์นสโตนแล้วกระโดดพ้นน้ำ
เขาใช้โบนัสทั้งหมดเพิ่มค่าสถานะเวทย์และความฉลาด ค่าพลังงานในการใช้ทักษะเทียบกันแล้วจึงอ่อนแอ ทั้งหมดนี้ใช้ค่าพลังงานของเขาไปจนหมด เขาใช้เท้าข้ามอากาศอีกไม่ได้
“ชิงชิง”
วูจินขี่ชิงชิงไปทางทีมของเขา
“ไปกันเถอะ”
“อ้าว? ไม่สำรวจหาสมบัติเหรอครับ?”
นี่เป็นการพิชิตดันเจี้ยนครั้งแรกจึงมีอาร์ติแฟคจำนวนมากซ่อนอยู่ วูจินยักไหล่
“ฉันอยู่ใต้น้ำนานไม่ได้”
ผลจากอาชีพนักรบทำให้เขามีความจุปอดมากเทียบกับคนธรรมดา แต่เขาอยู่ใต้น้ำได้ไม่เกิน 10 นาที
ทะเลกว้างเกินไปจนไม่อาจใช้เวทค้นหาอาร์ติแฟค
“ผมมีบัฟที่ทำให้คนอยู่ใต้น้ำได้โดยไม่ต้องหายใจ”
“หา?”
คำพูดของบลังกาทำให้ทุกคนหันมาสนใจเขา โดยเฉพาะวูจินที่ตาเป็นประกาย
‘หมอนี่สารพัดประโยชน์ดีแฮะ’
ถ้านับแค่ทักษะเสริมพลัง วูจินได้มาพบชาวอินเดียที่มีความสามารถหลากหลายเป็นรองแค่เขาแล้ว
เมื่อออกจากดันเจี้ยนมาอย่างปลอดภัย คนกลุ่มใหญ่รอต้อนรับพวกเขาอยู่ มีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์อินเดีย ข้าราชการตำแหน่งสูง ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น คนจากกิลด์วิษณุ คนผ่านทางที่หยุดมอง...
ปกติแล้ววูจินจะเรียกม้าปีศาจเพื่อหลีกฝูงชนและหายตัวไปยังสนามบินทันที แต่คราวนี้เขาทำตัวแปลกไป เขาขึ้นไปนั่งในรถที่เตรียมไว้เพื่อเขา
ทีมเคลียร์ดันเจี้ยน 4 คน และหัวหน้ากิลด์วิษณุ กัสสิม เข้าไปในรถลีมูซีนที่จอดรอ
[ฮ่าๆๆ ผมต้องขอบคุณที่คุณเคลียร์ดันเจี้ยนที่พวกเรารับมือไม่ไหวได้อย่างง่ายดาย]
“เขาขอบคุณที่คุณเคลียร์ดันเจี้ยนครับ”
กัสสิมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เขาจึงพูดเป็นภาษาฮินดี บลังกาแปลเป็นภาษาเกาหลี
“อืม ภาษาฮินดีเหรอ?”
“ครับ”
ใช้เวลาครู่เดียววูจินก็หายาเรียนภาษาฮินดีในร้านแลกเปลี่ยนความสำเร็จเจอ วูจินดึงขวดยาออกมาจากกลางอากาศและดื่มมันเข้าไป กัสสิมมองอย่างงุนงง
[กัสสิม? หัวหน้ากิลด์วิษณุ?]
[โอ้แม่เจ้า คุณพูดภาษาฮินดีได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?]
[เมื่อกี๊]
[...?]
สีหน้ากัสสิมเต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ แต่วูจินไม่เห็นความจำเป็นต้องอธิบาย
เขามีเวลาไม่มาก แต่เขามานั่งในรถลีมูซีนที่คืบคลานผ่านฝูงชนไปช้าๆ ตำรวจหลายนายติดตามพวกเขาไปส่งที่สนามบิน เขานั่งรถมาเพื่อเหตุผลเดียว
[ฉันต้องการตกลงธุรกิจกับกิลด์วิษณุ]
[ธุรกิจอะไร?]
อลันดาลถูกเรียกเป็นกิลด์อันดับหนึ่งของโลกเพราะเราส์คนเดียว นี่เป็นข้อเสนอจากอลันดาล กัสสิมตาเป็นประกายเมื่อการเจรจาเปลี่ยนไปทางธุรกิจกิลด์
[ฉันอยากได้บลังกา]
[โอ้ เขาเป็นพี่น้องผม]
บลังกาพยักหน้าเมื่อกัสสิมปฏิเสธ อีกใจก็รู้สึกดีที่วูจิน เราส์ที่เก่งที่สุดในโลกต้องการเขา
[อยากได้เท่าไหร่?]
[ผมไม่ขายน้องตัวเอง...]
[สิทธิ์ใช้ดันเจี้ยนนี้ 100%]
[…]
กัสสิมมองอย่างประหลาดใจ
ถ้ากล่าวตามการวัดพลังงาน ดันเจี้ยนนี้สูงกว่า 6 ดาว
กัสสิมคิดถึงผลกำไรมหาศาล จากนั้นเริ่มชั่งน้ำหนักระหว่างพี่น้องร่วมสาบานที่เป็นเราส์แรงค์ A…
[พ...พี่!]
บลังกาพูดอย่างร้อนรน กัสสิมรู้สึกผิดจึงคิดจะปฏิเสธ
[ถ้าต่อไปมีดันเจี้ยนแบบนี้อีก ฉันจะเคลียร์และมอบสิทธิ์ดันเจี้ยนนั้นให้นายด้วย]
[ฮะ...ฮืม]
พวกนี้คือดันเจี้ยนอันตรายที่เราส์ในตอนนี้จัดการไม่ได้ ผลกำไรย่อมมหาศาล เขาจะได้ดันเจี้ยนสูงกว่า 6 ดาวสองแห่งแลกกับเราส์แรงค์ A หนึ่งคน...
[ฉันให้อีกที่]
[ผมรับข้อเสนอ]
บลังกามองกัสสิมด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
[พี่...]
กัสสิมตบบ่าบลังกา
[เรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนก็ถือว่าแล้วกันไปเถอะ]
เมื่อเกิดดันเจี้ยนระเบิดครั้งแรกในอินเดียเมื่อ 5 ปีก่อน บลังกาช่วยชีวิตกัสสิมไว้ แสงในดวงตาบลังกาวูบไหว
[ผมช่วยพี่ไว้ไม่ใช่เหรอ?]
บลังกาช่วยกัสสิมจากอันตราย กัสสิมกลายเป็นเพื่อนเขาเป็นการตอบแทน และพวกเขากลายเป็นพี่น้องร่วมสาบาน กัสสิมกระแอมไอ
[ฉันจะเก็บนายไว้แล้วอ้างเป็นการใช้หนี้ได้ยังไง? นายควรออกไปสู่โลกกว้าง]
[หา...]
วูจินยิ้มพลางฟังทั้งสองคุยกัน
[พวกนายตกลงกันแล้วนะ]
เขาคว้าไหล่ของบลังกา
“ยินดีต้อนรับสู่อลันดาล”
“...”
“ว้าว คุณบลังกาตกลงมากับเราเหรอครับ?”
บทสนทนาเป็นภาษาฮินดี ซุงกูจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองบลังกาอย่างดีใจ บลังกาสามารถใช้คาถาเสริมพลังสนับสนุนพวกเขา เขามีเวทเสริมพลังหลากหลายและล้วนแต่มีผลดีทั้งนั้น ขนาดลดผลของเวทเหล่านั้นลงครึ่งหนึ่งก็ยังยอดเยี่ยมพอแล้ว
ถ้าเขามาอลันดาล แม้จะช่วยวูจินได้ไม่มากแต่เขาจะเป็นประโยชน์ต่อเราส์เช่นซุงกูและฮีซอลอย่างมาก
“...ผมรู้สึกเหมือนถูกขาย”
บลังกาถอนหายใจ ซุงกูหัวเราะ
“ฮะๆ ถูกขายแล้วไง? ของผมเป็นสัญญาทาสแต่ดูผมตอนนี้สิว่าเป็นยังไง”
“...?”
“ดีเท่าไหร่แล้วที่คุณไม่ต้องมาอยู่กับพวกเราหลังตาย? โอ๊ะ ฮะๆ”
“...!”
รูม่านตาบลังกาหดลง จากนั้นมองกัสสิมด้วยสายตาอ้อนวอน กัสสิมหลบตา
การกระทำของวูจินกลายเป็นข่าวทุกวัน
สำนักข่าวหลักๆของแต่ละประเทศติดตามวูจินและรายงานทุกการเคลื่อนไหวของเขา ความสนใจของทั้งโลกมุ่งไปที่วูจินแต่เพียงผู้เดียว
-ยังเคลียร์ดันเจี้ยนที่ใกล้เบรกอย่างต่อเนื่อง!
-การระเบิดกำลังจะเกิดขึ้นในหนึ่งชั่วโมง ปารีสถูกช่วยไว้ได้
-เวิล์ดทัวร์กู้โลก
-ปราการสุดท้ายของโลก คังวูจินผู้ปิดดันเจี้ยน!
ระหว่างวูจินกำลังเคลียร์ดันเจี้ยน มีคนผู้หนึ่งที่ทำงานหนักทุกวินาที เขาคือรองประธานกิลด์อลันดาล... ไม่ใช่สิ จุงมินชานเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
-ญี่ปุ่นต้องการสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
-เจ้าชายมาฮาดแห่งดูไบให้สัมภาษณ์ อลันดาลเป็นประเทศพี่น้องของเรา
-สหรัฐอเมริกากับจีนสร้างสัมพันธ์ทางการทูตกับอลันดาล อลันดาลตอกย้ำสถานะประเทศพันธมิตร
-ฮีโร่ของเดลี อลันดาล
-ฝรั่งเศสส่งทูตไปยังอลันดาล ขอความช่วยเหลือจากเกาหลี
คังวูจินและอลันดาล
เขากลายเป็นจุดสนใจของทั่วโลกเมื่อครั้งที่เขากวาดล้างตะวันออกกลาง แต่ดูเหมือนข่าวของเขาจะมาถึงจุดรุ่งเรืองที่สุด
นี่ยิ่งเป็นเรื่องจริงสำหรับนักข่าวสงครามที่วูจินช่วยไว้ในตะวันออกกลาง มีนักข่าวเหล่านั้นเป็นหลัก พวกเขาทำให้วูจินกลายเป็นวีรบุรุษ มีกระทั่งบางกลุ่มยกย่องเขาเป็นพระเจ้า
ทั้งโลกมุ่งสนใจอลันดาล และประเทศที่ใกล้อลันดาลที่สุดคือเกาหลี
รากฐานของเกาหลีสั่นสะเทือน
ห้องประธานาธิบดีในชองวาแด
“เฮ้อ”
ประธานาธิบดีคิมบยองแมนถอนหายใจยาว
“เราจะทำสนธิสัญญาหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว”
“ใช่ เราไม่มีทางเลือกแล้ว”
นายกรัฐมนตรีที่อยู่ตรงหน้าประธานาธิบดีส่ายศีรษะ
ทั้งโลกยอมรับอลันดาลในฐานะประเทศหนึ่งไปแล้ว สหรัฐอเมริกายิ่งพยายามแสดงออกว่าอลันดาลเป็นประเทศพันธมิตรที่สนิทสนม ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเรื่องนี้ในการประชุมหลายครั้ง
ประเทศทุกประเทศกำลังแข่งขันกันยอมรับอลันดาลในฐานะประเทศหนึ่ง
ตอนนี้เกาหลีจะทำอะไรได้?
“ความเห็นของประชาชนว่ายังไง?”
“พวกเขามองว่าเป็นเรื่องที่ตกลงกันไปแล้ว”
“...”
พวกเขาจะยอมหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว อลันดาลกลายเป็นประเทศอิสระไปเรียบร้อย ถ้าพลเมืองเกาหลีถือว่าเรื่องนี้ตกลงกันไปแล้ว...
พวกเขาไม่มีทางหยุดยั้ง
“เริ่มทำประชามติ”
“ทราบแล้วครับ”
อลันดาลยิ่งใหญ่เกินเกาหลีจะกดไว้ได้
ถ้าพวกเขาควบคุมอลันดาลไม่ได้ พวกเขาก็ต้องเก็บอลันดาลไว้ใกล้ตัวที่สุดต่อให้เป็นในฐานะมิตรที่เสมอกันก็ตาม
สงสารท่านรองประธาน มากกกก แต่ขำ555 รอติดตามค่รับ
ตอบลบเพิ่งกลับเพิ่งกลับมาอ่านนนนน ที่บุ๊คมที่บุ๊คมาร์กไว้หายเฉยยย
ตอบลบ