วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 128

บทที่ 128 – ผู้ปิดดันเจี้ยน (3)


มีวิญญาณส่วนน้อยที่จากศพไปแล้ว ศพนับพันตอบรับเวทของวูจินและพลังเวทในศพทุกหยาดหยดถูกบีบเค้นออกมา

เสียงระเบิดแสบแก้วหูพร้อมกับเดรดระเหยไป ทำให้วูจินได้รับค่าประสบการณ์ก้อนใหญ่

<เพิ่มระดับ!>

 อีกเพียง 4 เลเวลเขาจะเป็นเลเวล 80

ระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้นใกล้ๆแต่ทีมปลอดภัย เสียงระเบิดหูดับทำให้พวกเขาหูอื้อ แต่ถ้าเทียบจากขนาดของการระเบิดถือว่าพวกเขาได้รับความเสียหายน้อยมาก

บาเรียกึ่งล่องหนห่อหุ้มทีมไว้ มันป้องกันทุกอย่าง ความร้อน เสียงและเศษหินจากการระเบิด

บลังกายกมือสองข้างขึ้นเหมือนกำลังค้ำฟ้า จากนั้นเขากระอักเลือด

เขาใช้พลังเวทมากเกินไปจึงพยายามสงบความพลุ่งพล่านในร่างลง เขามองวูจินด้วยสายตาตัดพ้อ

“เตือนพวกเราหน่อยไม่ได้เหรอครับ?”

เขากังวลเมื่อเห็นเดรดปรากฏตัวจึงเตรียมบาเรียเอาไว้ มิเช่นนั้นพวกเขาคงถูกระเบิดไปแล้ว แต่วูจินกลับยักไหล่

“นายไม่ต้องทำแบบนั้น”

“...”

เกราะผี มันลอยรอบตัววูจินเสมอ ถ้ามีสัญญาณอันตรายบาเรียของวูจินจะก่อตัวขึ้น เขาเพิ่มเลเวลให้มันจนสามารถป้องกันแรงระเบิดได้แทบทั้งหมด

แน่นอนว่าสมาชิกทีมใกล้ๆก็จะได้รับการปกป้องด้วย วูจินไม่ต้องให้ใครมาปกป้องเขา

วูจินพูดว่าสิ่งที่บลังกาทำเป็นเรื่องไม่จำเป็น ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหดหู่

แทนที่จะขอบคุณ เขา...

“เฮ้อ คุณอ้วกเอาของอร่อยออกมาหมดเลย”

“จุ๊ๆ ฉันบอกแล้วว่าให้นายดูอย่างเดียว”

ฮงซุงกูกับเบคจองโดตำหนิเขา บลังการู้สึกอยากจะร้องไห้

เขาลืมไปว่าทุกคนที่นี่เป็นเราส์แรงค์ A

พวกเขาเป็นเราส์ที่สามารถพูดได้ว่าเก่งที่สุดในโลก ทุกคนมีความสามารถรักษาชีวิตของตัวเอง ดังนั้นก็เหมือนเขาทำเกินหน้าที่

‘แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันควรทำไม่ใช่เหรอ?!’

เขาอยากจะตะโกนประโยคนี้ออกมาแต่ไม่มีแรง หัวของเขาหมุนติ้ว บลังกากำลังยืนโงนเงนอยู่เมื่อพลังงานประหลาดไหลเข้าร่าง

“ฮ้า”

หัวเขาเย็นลงบ้าง เขาตระหนักว่าวูจินใช้ทักษะบางอย่างเพิ่มพลังให้

‘ความสามารถของเขาไม่มีที่สิ้นสุด...’

เขามีทักษะอัญเชิญ ต่อสู้ได้ ใช้เวทย์ได้แล้วยังฮีลได้อีก... บลังกาสงสัยว่าทักษะของวูจินขยายไปถึงขั้นไหน... เขาเดาไม่ออกด้วยซ้ำว่าวูจินมีทักษะกี่อย่าง

“ผมไม่เป็นไรแล้วครับ จากตรงนี้ผมฮีลเองได้”

สายตาบลังกาสื่อถึงความขอบคุณ จากนั้นเขาปล่อยพลังเวทที่เพิ่งสงบลงเพื่อตรวจร่างกายตัวเอง

“ทักษะรักษาตัวเองนี่หายากนะ”

วูจินมองอย่างทึ่ง

ชายคนนี้เป็นเราส์สายเสริมพลังและยังเป็นนักเวทสายฟื้นพลัง ดูเหมือนทักษะของเขาไม่ได้พึ่งพลังศักดิ์สิทธิ์จึงแปลก

“นายชื่ออะไรนะ?”

“บลังกาครับ”

“พูดเกาหลีคล่องดี... นายบอกว่ามาจากกิลด์วิษณุใช่ไหม? ทางนั้นจ่ายให้เท่าไหร่?”

“อะไรนะ?”

“มาอลันดาลสิ”

“...”

บลังกาควบคุมพลังที่จะปั่นป่วนอีกครั้งแล้วมองวูจิน

เขาวางแผนอะไร? บลังกาอ่านสายตาของวูจินไม่ออกแต่ดูไม่เหมือนกำลังพูดเล่น

‘อะไรเนี่ย?’

ต่อให้เป็นทีมบุกดันเจี้ยนที่ไม่รู้จักอันตรายอะไรเลย แต่มาชวนเข้ากิลด์กันในสถานการณ์แบบนี้มันควรแล้วเหรอ? ถึงอย่างไรบลังกาก็ไม่คิดย้ายกิลด์

“ขอบคุณ แต่หัวหน้ากิลด์เป็นเพื่อนสนิทผม ผมตั้งใจจะฝังสังขารตัวเองไว้ที่กิลด์วิษณุ”

“เหรอ? น่าเสียดาย”

ยิ่งบลังกาแสดงความจงรักภักดีกับกิลด์ตัวเองวูจินยิ่งอยากได้ตัวเขามากขึ้น ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก

“น่าเสียดาย มาจบนี่กันเถอะ”

วูจินเก็บโต๊ะเก้าอี้เข้าคลังส่วนตัว จากนั้นก็ย้ายที่ ไม่มีหาดขาวอีกต่อไปเหลือแต่ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เกิดจากแรงระเบิด

ซากศพและบลัดสโตนสูญเสียไปในการระเบิด แต่วูจินไม่เสียดาย

กลางทะเลสาบ มีพลอยสีม่วงตกลงตรงที่เดรดตาย

วูจินก้าวลงบนผืนน้ำ

<เท้าข้ามอากาศ>

เขาใช้ทักษะตัวเบาของอาชีพนักรบ เลเวลยังต่ำเกินจะเดินบนอากาศแต่เขาสามารถเดินบนน้ำได้สบาย
เท้าวูจินแตะน้ำแต่จมลงไปไม่ถึงตาตุ่ม วูจินเดินข้ามน้ำไปหยิบพลอย

<คุณได้รับชิ้นส่วนมิติ>

ในที่สุดเขาก็จะได้ดันเจี้ยนที่นำไปสู่อัลเฟน

วูจินเก็บพลอยม่วงแล้วเดินไปทางวังใต้น้ำของเดรด เขามองข้างล่างเห็นแสงสีเขียวของหินรีเทิร์นสโตน

เขายกเลิกทักษะเท้าข้ามอากาศ ในขณะเดียวกันก็ใช้ทักษะทำให้ตัวหนักขึ้น เขาจมลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว

ยังมีมอนสเตอร์ทะเลเหลืออยู่บ้างแต่เขามองข้ามพวกมันไป วูจินหยิบหินรีเทิร์นสโตนแล้วกระโดดพ้นน้ำ

เขาใช้โบนัสทั้งหมดเพิ่มค่าสถานะเวทย์และความฉลาด ค่าพลังงานในการใช้ทักษะเทียบกันแล้วจึงอ่อนแอ ทั้งหมดนี้ใช้ค่าพลังงานของเขาไปจนหมด เขาใช้เท้าข้ามอากาศอีกไม่ได้

“ชิงชิง”

วูจินขี่ชิงชิงไปทางทีมของเขา

“ไปกันเถอะ”

“อ้าว? ไม่สำรวจหาสมบัติเหรอครับ?”

นี่เป็นการพิชิตดันเจี้ยนครั้งแรกจึงมีอาร์ติแฟคจำนวนมากซ่อนอยู่ วูจินยักไหล่

“ฉันอยู่ใต้น้ำนานไม่ได้”

ผลจากอาชีพนักรบทำให้เขามีความจุปอดมากเทียบกับคนธรรมดา แต่เขาอยู่ใต้น้ำได้ไม่เกิน 10 นาที

ทะเลกว้างเกินไปจนไม่อาจใช้เวทค้นหาอาร์ติแฟค

“ผมมีบัฟที่ทำให้คนอยู่ใต้น้ำได้โดยไม่ต้องหายใจ”

“หา?”

คำพูดของบลังกาทำให้ทุกคนหันมาสนใจเขา โดยเฉพาะวูจินที่ตาเป็นประกาย

‘หมอนี่สารพัดประโยชน์ดีแฮะ’

ถ้านับแค่ทักษะเสริมพลัง วูจินได้มาพบชาวอินเดียที่มีความสามารถหลากหลายเป็นรองแค่เขาแล้ว

เมื่อออกจากดันเจี้ยนมาอย่างปลอดภัย คนกลุ่มใหญ่รอต้อนรับพวกเขาอยู่ มีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์อินเดีย ข้าราชการตำแหน่งสูง ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น คนจากกิลด์วิษณุ คนผ่านทางที่หยุดมอง...

ปกติแล้ววูจินจะเรียกม้าปีศาจเพื่อหลีกฝูงชนและหายตัวไปยังสนามบินทันที แต่คราวนี้เขาทำตัวแปลกไป เขาขึ้นไปนั่งในรถที่เตรียมไว้เพื่อเขา

ทีมเคลียร์ดันเจี้ยน 4 คน และหัวหน้ากิลด์วิษณุ กัสสิม เข้าไปในรถลีมูซีนที่จอดรอ

[ฮ่าๆๆ ผมต้องขอบคุณที่คุณเคลียร์ดันเจี้ยนที่พวกเรารับมือไม่ไหวได้อย่างง่ายดาย]

“เขาขอบคุณที่คุณเคลียร์ดันเจี้ยนครับ”

กัสสิมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เขาจึงพูดเป็นภาษาฮินดี บลังกาแปลเป็นภาษาเกาหลี

“อืม ภาษาฮินดีเหรอ?”

“ครับ”

ใช้เวลาครู่เดียววูจินก็หายาเรียนภาษาฮินดีในร้านแลกเปลี่ยนความสำเร็จเจอ วูจินดึงขวดยาออกมาจากกลางอากาศและดื่มมันเข้าไป กัสสิมมองอย่างงุนงง

[กัสสิม? หัวหน้ากิลด์วิษณุ?]

[โอ้แม่เจ้า คุณพูดภาษาฮินดีได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?]

[เมื่อกี๊]

[...?]

สีหน้ากัสสิมเต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ แต่วูจินไม่เห็นความจำเป็นต้องอธิบาย

เขามีเวลาไม่มาก แต่เขามานั่งในรถลีมูซีนที่คืบคลานผ่านฝูงชนไปช้าๆ ตำรวจหลายนายติดตามพวกเขาไปส่งที่สนามบิน เขานั่งรถมาเพื่อเหตุผลเดียว

[ฉันต้องการตกลงธุรกิจกับกิลด์วิษณุ]

[ธุรกิจอะไร?]

อลันดาลถูกเรียกเป็นกิลด์อันดับหนึ่งของโลกเพราะเราส์คนเดียว นี่เป็นข้อเสนอจากอลันดาล กัสสิมตาเป็นประกายเมื่อการเจรจาเปลี่ยนไปทางธุรกิจกิลด์

[ฉันอยากได้บลังกา]

[โอ้ เขาเป็นพี่น้องผม]

บลังกาพยักหน้าเมื่อกัสสิมปฏิเสธ อีกใจก็รู้สึกดีที่วูจิน เราส์ที่เก่งที่สุดในโลกต้องการเขา

[อยากได้เท่าไหร่?]

[ผมไม่ขายน้องตัวเอง...]

[สิทธิ์ใช้ดันเจี้ยนนี้ 100%]

[…]

กัสสิมมองอย่างประหลาดใจ

ถ้ากล่าวตามการวัดพลังงาน ดันเจี้ยนนี้สูงกว่า 6 ดาว

กัสสิมคิดถึงผลกำไรมหาศาล จากนั้นเริ่มชั่งน้ำหนักระหว่างพี่น้องร่วมสาบานที่เป็นเราส์แรงค์ A…

[พ...พี่!]

บลังกาพูดอย่างร้อนรน กัสสิมรู้สึกผิดจึงคิดจะปฏิเสธ

[ถ้าต่อไปมีดันเจี้ยนแบบนี้อีก ฉันจะเคลียร์และมอบสิทธิ์ดันเจี้ยนนั้นให้นายด้วย]

[ฮะ...ฮืม]

พวกนี้คือดันเจี้ยนอันตรายที่เราส์ในตอนนี้จัดการไม่ได้ ผลกำไรย่อมมหาศาล เขาจะได้ดันเจี้ยนสูงกว่า 6 ดาวสองแห่งแลกกับเราส์แรงค์ A หนึ่งคน...

[ฉันให้อีกที่]

[ผมรับข้อเสนอ]

บลังกามองกัสสิมด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

[พี่...]

กัสสิมตบบ่าบลังกา

[เรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนก็ถือว่าแล้วกันไปเถอะ]

เมื่อเกิดดันเจี้ยนระเบิดครั้งแรกในอินเดียเมื่อ 5 ปีก่อน บลังกาช่วยชีวิตกัสสิมไว้ แสงในดวงตาบลังกาวูบไหว

[ผมช่วยพี่ไว้ไม่ใช่เหรอ?]

บลังกาช่วยกัสสิมจากอันตราย กัสสิมกลายเป็นเพื่อนเขาเป็นการตอบแทน และพวกเขากลายเป็นพี่น้องร่วมสาบาน กัสสิมกระแอมไอ

[ฉันจะเก็บนายไว้แล้วอ้างเป็นการใช้หนี้ได้ยังไง? นายควรออกไปสู่โลกกว้าง]

[หา...]

วูจินยิ้มพลางฟังทั้งสองคุยกัน

[พวกนายตกลงกันแล้วนะ]

เขาคว้าไหล่ของบลังกา

“ยินดีต้อนรับสู่อลันดาล”

“...”

“ว้าว คุณบลังกาตกลงมากับเราเหรอครับ?”

บทสนทนาเป็นภาษาฮินดี ซุงกูจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองบลังกาอย่างดีใจ บลังกาสามารถใช้คาถาเสริมพลังสนับสนุนพวกเขา เขามีเวทเสริมพลังหลากหลายและล้วนแต่มีผลดีทั้งนั้น ขนาดลดผลของเวทเหล่านั้นลงครึ่งหนึ่งก็ยังยอดเยี่ยมพอแล้ว

ถ้าเขามาอลันดาล แม้จะช่วยวูจินได้ไม่มากแต่เขาจะเป็นประโยชน์ต่อเราส์เช่นซุงกูและฮีซอลอย่างมาก

“...ผมรู้สึกเหมือนถูกขาย”

บลังกาถอนหายใจ ซุงกูหัวเราะ

“ฮะๆ ถูกขายแล้วไง? ของผมเป็นสัญญาทาสแต่ดูผมตอนนี้สิว่าเป็นยังไง”

“...?”

“ดีเท่าไหร่แล้วที่คุณไม่ต้องมาอยู่กับพวกเราหลังตาย? โอ๊ะ ฮะๆ”

“...!”

รูม่านตาบลังกาหดลง จากนั้นมองกัสสิมด้วยสายตาอ้อนวอน กัสสิมหลบตา

การกระทำของวูจินกลายเป็นข่าวทุกวัน

สำนักข่าวหลักๆของแต่ละประเทศติดตามวูจินและรายงานทุกการเคลื่อนไหวของเขา ความสนใจของทั้งโลกมุ่งไปที่วูจินแต่เพียงผู้เดียว

-ยังเคลียร์ดันเจี้ยนที่ใกล้เบรกอย่างต่อเนื่อง!

-การระเบิดกำลังจะเกิดขึ้นในหนึ่งชั่วโมง ปารีสถูกช่วยไว้ได้

-เวิล์ดทัวร์กู้โลก

-ปราการสุดท้ายของโลก คังวูจินผู้ปิดดันเจี้ยน!

ระหว่างวูจินกำลังเคลียร์ดันเจี้ยน มีคนผู้หนึ่งที่ทำงานหนักทุกวินาที เขาคือรองประธานกิลด์อลันดาล... ไม่ใช่สิ จุงมินชานเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

-ญี่ปุ่นต้องการสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

-เจ้าชายมาฮาดแห่งดูไบให้สัมภาษณ์ อลันดาลเป็นประเทศพี่น้องของเรา

-สหรัฐอเมริกากับจีนสร้างสัมพันธ์ทางการทูตกับอลันดาล อลันดาลตอกย้ำสถานะประเทศพันธมิตร

-ฮีโร่ของเดลี อลันดาล

-ฝรั่งเศสส่งทูตไปยังอลันดาล ขอความช่วยเหลือจากเกาหลี

คังวูจินและอลันดาล

เขากลายเป็นจุดสนใจของทั่วโลกเมื่อครั้งที่เขากวาดล้างตะวันออกกลาง แต่ดูเหมือนข่าวของเขาจะมาถึงจุดรุ่งเรืองที่สุด

นี่ยิ่งเป็นเรื่องจริงสำหรับนักข่าวสงครามที่วูจินช่วยไว้ในตะวันออกกลาง มีนักข่าวเหล่านั้นเป็นหลัก พวกเขาทำให้วูจินกลายเป็นวีรบุรุษ มีกระทั่งบางกลุ่มยกย่องเขาเป็นพระเจ้า

ทั้งโลกมุ่งสนใจอลันดาล และประเทศที่ใกล้อลันดาลที่สุดคือเกาหลี

รากฐานของเกาหลีสั่นสะเทือน

ห้องประธานาธิบดีในชองวาแด

“เฮ้อ”

ประธานาธิบดีคิมบยองแมนถอนหายใจยาว

“เราจะทำสนธิสัญญาหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว”

“ใช่ เราไม่มีทางเลือกแล้ว”

นายกรัฐมนตรีที่อยู่ตรงหน้าประธานาธิบดีส่ายศีรษะ

ทั้งโลกยอมรับอลันดาลในฐานะประเทศหนึ่งไปแล้ว สหรัฐอเมริกายิ่งพยายามแสดงออกว่าอลันดาลเป็นประเทศพันธมิตรที่สนิทสนม ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเรื่องนี้ในการประชุมหลายครั้ง

ประเทศทุกประเทศกำลังแข่งขันกันยอมรับอลันดาลในฐานะประเทศหนึ่ง

ตอนนี้เกาหลีจะทำอะไรได้?

“ความเห็นของประชาชนว่ายังไง?”

“พวกเขามองว่าเป็นเรื่องที่ตกลงกันไปแล้ว”

“...”

พวกเขาจะยอมหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว อลันดาลกลายเป็นประเทศอิสระไปเรียบร้อย ถ้าพลเมืองเกาหลีถือว่าเรื่องนี้ตกลงกันไปแล้ว...

พวกเขาไม่มีทางหยุดยั้ง

“เริ่มทำประชามติ”

“ทราบแล้วครับ”

อลันดาลยิ่งใหญ่เกินเกาหลีจะกดไว้ได้

ถ้าพวกเขาควบคุมอลันดาลไม่ได้ พวกเขาก็ต้องเก็บอลันดาลไว้ใกล้ตัวที่สุดต่อให้เป็นในฐานะมิตรที่เสมอกันก็ตาม



สารบัญ                                           บทที่ 129


2 ความคิดเห็น:

  1. สงสารท่านรองประธาน มากกกก แต่ขำ555 รอติดตามค่รับ

    ตอบลบ
  2. เพิ่งกลับเพิ่งกลับมาอ่านนนนน ที่บุ๊คมที่บุ๊คมาร์กไว้หายเฉยยย

    ตอบลบ