วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 187


บทที่ 187 – จุดคุ้มทุน

นากามูระ หัวหน้ากิลด์ดาเคน ยืนมองต้นไม้โลก
“นากามูระ ท่านมาอยู่นี่นี่เอง”
“อา พระทัวริค”
นากามูระยิ้มกว้างมองทัวริค
ระหว่างที่คังวูจินไม่อยู่ ทัวริคเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในสหพันธ์
เขาเป็นพระองค์แรกของสเกีย
“มีอะไรเหรอครับ?”
“อ้อ ข้ากำลังสงสัยว่ากลุ่มต่อไปจะมาถึงเมื่อไหร่”
“อืม... หนึ่งวันบนโลกเท่ากับ 4 วันที่นี่ คงอีกไม่นานครับ”
“โอ้ นั่นเป็นเรื่องดี”
ประชากรในแถบภูเขาเซารุสได้รับการช่วยเหลือเกือบหมดแล้ว คนเหล่านี้เป็นคนจากหลายเผ่าพันธุ์ที่เข้าร่วมกับสหพันธ์
กองทัพผีดิบสังหารมอนสเตอร์แถบนี้จนหมดและกำลังเคลื่อนพลไปทางใต้ เมื่อทีมสนับสนุนจากโลกมาถึง พวกเขาจะถูกส่งไปทางเหนือ
“แล้วก็ ข้าคุยกับทุกคนแล้วเรื่องค่าตอบแทน...”
ทัวริคเอาเรื่องนี้มาพูดอย่างระมัดระวัง
คนจากโลกเสี่ยงชีวิตด้วยการช่วยเหลือในสงคราม สมควรต้องให้อะไรตอบแทนพวกเขาบ้าง ทัวริครู้เรื่องนี้ดี เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ว่านากามูระจะพูดขึ้นเมื่อไหร่
“เป็นอย่างไร?”
น้ำเสียงนากามูระเหมือนหวังไว้มาก ทัวริคจึงตอบอย่างระวัง
“ข้าพูดกับเหล่าราชาเรื่องการส่งต่อที่ดินส่วนหนึ่งแล้ว ข้าได้รับการยินยอมจากพวกเขา แต่ข้าไม่รู้ว่ามันควรจะแบ่งอย่างไรดี ไว้เราคุยเรื่องนี้อีกทีหลังจากได้พื้นที่ครึ่งหนึ่งคืนมาแล้วดีไหม?”
“อืม”
นากามูระลูบคาง
“ก็ได้ ถ้าเราแตกแยกกันเพื่อแย่งรางวัลคงเป็นปัญหา”
“ขอบคุณที่เข้าใจ”
“ไม่เป็นไร... แน่นอน เราจะช่วยเหลือพวกคุณทุกคน”
นากามูระหัวเราะ ทัวริคพยักหน้า
“ท่านควรคุยเรื่องนี้กับผู้ไม่ตายเมื่อเขากลับมา”
“...”
ผู้ไม่ตาย คังวูจิน
ในเรื่องการฟื้นฟูอัลเฟน ความดีความชอบของเขาไม่อาจปฏิเสธได้
ไอ้เด็กเปรตนั่นมันขวางหูขวางตา
นากามูระไม่ชอบมันตั้งแต่เจอกันที่นิวยอร์ค คังวูจินใส่เสื้อวอร์มเข้างาน มันหยิ่งยโส
“แน่นอน เราจะเริ่มจัดกำลังทหารเมื่อระลอกใหม่มาถึง”
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อทัวริคจากไป นากามูระแสยะยิ้ม
“จุ๊ๆ โลภมากชะมัด...”
คนของโลกนี้ไม่มีพลังปกป้องโลกของตัวเอง
ถ้าพวกเขาช่วยยึดดินแดนคืนมา มันก็ต้องเป็นดินแดนของพวกเขา ทำไมต้องส่งกลับให้เจ้าของเดิมเล่า?
พวกมันควรดีใจแล้วที่ไม่ถูกฆ่า...
“เฮะๆ อยากเห็นเร็วๆนัก”
ถ้าผู้ไม่ตายเป็นปัญหา ใช่ว่าเขาจะไม่มีวิธีแก้
นากามูระหยิบพลอยสีม่วงออกมาพลิกเล่น
ลีซังโฮ
ลีซังโฮ จู่ๆเขาก็โผล่มาเสนอแผนลับและยังมอบสมบัติชิ้นหนึ่งให้
มันคือไอเทมจากดันเจี้ยนที่เป็นที่ต้องการที่สุดบนโลกตอนนี้ ชิ้นส่วนมิติการทดลองเกี่ยวกับไอเทมนี้ยังดำเนินต่อไป
“เฮะๆๆ”
นากามูระเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้โลก เขาหัวเราะเมื่อเห็นสัญลักษณ์
<คุณพบอาณานิคมไม่มีเจ้าของ>
<คุณสามารถเลือกคำสั่งระหว่าง ยึด หรือ ทำลาย>
นากามูระอยากหัวเราะนัก
ทำไมผู้ไม่ตายจึงเลินเล่อแบบนี้?
เขานึกไม่ถึงว่าผู้ไม่ตายจะทิ้งตำแหน่งเจ้าของไว้และไม่แต่งตั้งหัวหน้าอาณานิคม เขาคงคิดว่าไม่มีลอร์ดมิติคนไหนเข้าใกล้ที่นี่...
มันจะเป็นการเกิดใหม่ของอาณาจักรญี่ปุ่น
นากามูระคิดถึงวันที่ชายคนหนึ่งเดินทางจากเกาหลีมาพบเขา
***
สำนักงานกิลด์ดาเคนในโตเกียว
“เวร! รายได้ครึ่งหลังของเรานี่มันคืออะไร?”
เหล่าผู้บริหารตัวเกร็งเมื่อได้ยินเสียงร้องของนากามูระหัวหน้ากิลด์
กิลด์ดาเคนเป็นที่รวมของเราส์ จัดการเรื่องที่ดินและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยน พวกเขาเป็นกังวลกับเหตุการณ์ในช่วงนี้
พวกเขาอยู่ในตลาดที่มีผู้แข่งขันเข้ามาไม่หยุด และมีความเป็นไปได้อยู่เสมอที่กิลด์ที่ตั้งขึ้นที่หลังจะไล่ตามกิลด์ดาเคนทัน
หนึ่งในผู้บริหารพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ตลาดแบตเตอรี่ทำจากบลัดสโตนกำลังอิ่มตัว พวกเราจึงขยายตัวในตลาดนั้นไม่ได้อีก แต่กิลด์ดาเคนยังได้ส่วนแบ่งมากกว่าเทียบกับคู่แข่งคนอื่น”
“นั่นมีค่าให้พูดถึงเหรอ? อเมริกาได้สิทธิบัตรอาวุธทำจากบลัดสโตนไปหลายใบแล้ว เราจะพอใจกับแค่ส่วนเสี้ยวเดียวของตลาดแบตเตอรี่เหรอ?”
“...”
ผู้บริหารอีกคนพยายามทำให้นาคามูระสงบลงโดยการเสนอไอเดีย
“ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปเป็นหน่วยที่ถูกส่งไปอัลเฟนไหม?”
“มาพูดตอนนี้น่ะเหรอ?”
“ความเสี่ยงสูง แต่รางวัลก็ดีด้วย”
สงครามต้องใช้เงินจำนวนมาก
พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนการใช้ทรัพยากรมนุษย์และวัตถุดิบเป็นเงินหรือไม่? ไม่เกินไปเลยถ้าจะพูดว่าการทำสงครามต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล
การไปทำสงครามที่อัลเฟนจะเป็นสิ่งอันตราย
ยิ่งกว่านั้นการไปครั้งนี้มีกิลด์อัลเฟนเป็นตัวนำ ถ้าพวกเขาเข้าไปร่วมอย่างไม่ระวังอาจมีสิทธิ์ได้ผลตอบแทนน้อยหรือขาดทุน
ถ้าพวกเขาช่วยอัลเฟนด้วยการกำจัดมอนสเตอร์ พวกเขาจะได้อะไร?
ความขอบคุณ? นับถือ?
ทั้งหมดนั่นมันไร้ประโยชน์
ถ้าไม่ได้ประโยชน์พวกเขาก็จะไม่เคลื่อนไหว
ในเมื่อมีความเสี่ยงมาก พวกเขาจะเคลื่อนไหวถ้าทุกคนบนโลกไปด้วยเท่านั้น
ห้องประชุมเงียบและน่าหงุดหงิดเมื่อเลขานุการมากระซิบบอกนาคามูระ
“คนที่ติดต่อพวกเราครั้งก่อนมาถึงแล้ว”
“อืม”
นาคามูระมองไปรอบๆแล้วตำหนิด้วยความโกรธ
“จะแผนแบบไหนก็ช่าง ผมต้องการให้พวกคุณคิดแผนหาเงินมาให้ได้ ที่สำคัญที่สุดคือต้องนำหน้าคนอื่น!
จากนั้นเขาเดินออกจากห้องโดยมีเลขานุการเดินตาม
“เขาเอาไอเทมมาด้วยไหม?”
“เขาบอกว่าจะให้พวกเราตรวจสอบมันหลังจากพบหัวหน้ากิลด์แล้ว”
“อืม”
มันเกี่ยวกับประเด็นร้อนที่ส่งผลกระทบกับชาวเราส์ อลันดาลและประเทศไม่กี่ประเทศมีไอเทมนี้และกำลังศึกษามัน กิลด์ดาเคนก็ใช้เงินจำนวนมากเพื่อหาข้อมูลของไอเทมนี้ พวกเขาต้องการเป็นเจ้าของชิ้นส่วนมิติเช่นกัน
สุดท้ายพวกเขาได้ติดต่อกับนายหน้า การต่อรองจะเริ่มวันนี้
เมื่อเข้ามายังห้องรับแขก นากามูระยิ้มให้ชายที่สวมชุดคลุมนักเวท ฮู้ดคลุมหน้าชายคนนั้นไว้
“ขอบคุณที่เดินทางไกลมาพบผม คุณเป็นคนส่งของหรือตัวแทน?”
เมื่อถูกถาม ชายที่นั่งบนโซฟาดึงฮู้ดออกเนือยๆ
“ผมชื่อลีซังโฮ”
“หืม ผมไม่ได้ถามชื่อ...”
“คุณรู้จักกิลด์ฮวารางของเกาหลีหรือเปล่า?”
“คุณ...ได้ยังไง...”
ชายคนนี้ถูกฆ่าไปแล้ว แล้วทำไมมาอยู่ตรงหน้าเขาได้?
“ไม่ต้องตกใจ ผมตายจริง ผมก็แค่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่”
“...”
ประโยคนั้นชวนให้ตกตะลึงจนนาคามูระแทบไม่เชื่อ ในสมองเขาคิดถึงวิธีต่างๆที่ชายคนนี้ใช้ปลอมตัว
เขากำลังคุยกับใครอยู่?
“คุณไม่ต้องคิดมากไปหรอก”
“...”
นาคามูระยังไม่ทันสงบใจลง ลีซังโฮก็หยิบไอเทมในกระเป๋าออกมาก่อน
พลอยสีม่วงสองเม็ด
“อันนี้เรียกหลักฐานมิติ อีกอันเรียกชิ้นส่วนมิติ”
“...!
เขากระหายอยากได้ไอเทมนี้แต่ชายคนนี้หยิบมันออกมาง่ายๆ? เขากำลังคุยอยู่กับใครกันแน่? ไม่สิ เขาควรเข้าใจเรื่องความตายและการฟื้นคืนชีพแบบไหน...
“คุณได้ของที่ต้องการแล้ว ตอนนี้คุณต้องให้ของที่ผมต้องการ ไม่มีเหตุผลที่เราทั้งคู่จะไม่ได้ความพอใจจากการเจรจานี้”
“...”
นากามูระมองหลักฐานมิติด้วยดวงตาสั่นไหว เขาไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร แต่มันส่งพลังเวทเข้มข้นออกมา
สีม่วงจับตาเขา เหมือนเขากำลังต้องมนตร์
“คุณต้องการอะไร?”
“ผมอยากให้คุณไปที่อัลเฟน ขโมยอาณานิคมแห่งหนึ่ง”
“...แล้วคุณจะได้อะไร?”
“ชิ ถามมากไปแล้ว ง่ายๆ ผมอยากให้คุณขโมยอาณานิคมของคังวูจิน”
“...”
นาคามูระขมวดคิ้วคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว ทุกความเคลื่อนไหวของคังวูจินกลายเป็นหัวข้อข่าว ดังนั้นเรื่องของเขาจึงเป็นที่รู้กันหลายเรื่อง
มีข่าวลือว่าลีซังโฮถูกคังวูจินฆ่า...
“...เป็นศัตรูกับอลันดาลไม่ใช่เรื่องง่าย...”
ไม่ว่าจะคิดอย่างไร หักหลังอลันดาลก็ไม่ให้ผลประโยชน์อะไร
“หึๆ”
นาคามูระเสียวสันหลังวาบเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของลีซังโฮ เป็นที่รู้กันว่าลีซังโฮเป็นเพียงเราส์แรงค์ B
แต่พลังที่เขาแผ่ออกมาเหนือกว่านาคามูระผู้เป็นเราส์แรงค์ A...
“คุณจะได้ชีวิตนิรันดร์ มันเป็นผลเสียตรงไหน?”
“ชีวิตนิรันดร์...”
นากามูระมองหลักฐานมิติ เขาค่อยๆยกมือขึ้นจับมัน
***
ถ้ำมานจัง เกาะเชจู
พลังเย็นไม่อาจปิดซ่อนได้อีกแล้ว กระทั่งทางเข้าถ้ำยังเป็นน้ำแข็ง ลีซังโฮผู้พ้นความเป็นคนธรรมดาไปแล้วเดินเข้าไปในถ้ำอย่างไม่รู้สึกอึดอัดนัก
เมื่อเขาไปถึงใจกลางถ้ำ เขาเห็นบัลลังก์มีอิเอลโลร่างมนุษย์น้ำแข็งนั่งอยู่
ลีซังโฮคุกเข่าคำนับ
“นายท่าน”
“แผนการของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ผู้ไม่ตายจะไม่มีทางได้กลับโลก”
“ดูเจ้ามั่นใจนัก”
“...ท่านไว้ใจได้ ผมวางแผนสองแผนสามเผื่อไว้แล้ว”
“...”
แม้กำลังหมอบกับพื้น ลีซังโฮยังรู้สึกได้ถึงสายตาเย็นชาของอิเอลโล ร่างเขาเริ่มสั่นเมื่ออิเอลโลพูดขึ้น
“ได้ ข้าจะเชื่อมั่นในตัวเจ้า”
“ข...ขอบคุณ”
ลีซังโฮเคยตาย เขาจึงเสียรหัสไป
เขาไม่ใช่มนุษย์โลกอีกต่อไปจึงได้แต่ต้องพึ่งอิเอลโล มีแต่ภักดีต่ออิเอลโลจึงจะรอด
“เจ้าหาเทพของโลกเจอแล้วหรือยัง?”
“ยัง...”
ลีซังโฮตอบเสียงเบาด้วยความกลัว
แต่อิเอลโลไม่ตำหนิอย่างที่กลัว มันกระทั่งพูดเสียงอบอุ่น
“ถ้าเจ้าป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ตายกลับมาได้ เจ้าก็หาไปช้าๆได้ ถึงเวลาที่ข้าจะออกไปแล้ว”
“อะไร?”
อิเอลโลหลบซ่อนตัวตลอด แต่กำลังจะออกไปข้างนอกแล้ว... แปลว่ามันจะยึดโลกโดยใช้กองทัพมอนสเตอร์เหรอ?
“อีกไม่ช้า ลอร์ดมิติทั้งหมดจะมาที่นี่เพื่อล้มเทพของโลก ข้าต้องเตรียมตัว”
เตรียมตัวอะไร? ไม่ต้องหาเทพของโลกให้เจอก่อนเหรอ?
“...ทาสผู้นี้โง่เขลา ผมไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไร”
“ไม่แค่การทำลายหรือสังหาร ข้าจะปกครอง”
“...”
“ข้าจะปกครองคนบนโลก”
ลีซังโฮเร่งคิด
การประสานจะเสร็จในไม่ช้า
ไม่นานข้อจำกัดจะหมดไป ลอร์ดมิติจะมาที่โลกเพื่อล้มเทพของโลก จะมีใครหยุดพวกมันได้หรือ?
ยาก เพราะประตูของผู้ไม่ตายจะหายไป คังวูจินจะไม่อาจกลับมาที่โลกได้
ในช่วงโกลาหลเช่นนั้น ถ้ามีผู้กล้าที่ไม่มีความเห็นแก่ตัวปรากฏตัวขึ้น...
“อา...”
เขาไม่สนใจความหมายที่ซ่อนในคำพูดของอิเอลโล
มันจะเลือกเล่นเป็นฝ่ายไหน? ผู้บุกรุก? หรือผู้ช่วย?
อิเอลโลกำลังรวบรวมพลัง มันกำลังยื้อเวลา
มันจะรอจนกว่าคนบนโลกต้องการความช่วยเหลือของมัน...
***
 หนึ่งสัปดาห์บนภูเขาเซารุสผ่านไป
เวลาที่สัญญาไว้ผ่านไป แต่ไม่มีกำลังเสริมส่งมาที่อัลเฟน หัวหน้ากิลด์ดาเคน นากามูระดูไม่สบายใจกับเรื่องนี้
“ดูเหมือนการส่งกองกำลังจะเกิดปัญหา”
“ปัญหา?”
“เอ่อ ผมไม่แน่ใจ คุณคังวูจินเป็นคนมีสิทธิ์เหนือประตู เพราะเขาไม่อยู่ที่นี่ผมเลยกลับไปดูไม่ได้...”
“แย่เลยนะ”
ไม่เหมือนกับคำพูดของเขา ทัวริคไม่รู้สึกแย่อะไร เขาจะรู้สึกขอบคุณถ้าโลกช่วย แต่การกอบกู้อัลเฟนสามารถทำได้แค่มีคังวูจิน
ตอนนี้ พวกเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์โลกนัก
กองทัพผีดิบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งมอนสเตอร์จะถูกกำจัดไปหมดจากอัลเฟนเอง
แน่นอน ลอร์ดมิติคนใหม่และมอนสเตอร์จะออกมาตราบใดที่ยังมีดันเจี้ยนอยู่ เพราะเหตุนี้สหพันธ์และชาวโลกจึงต้องเคลียร์ดันเจี้ยนก่อนมันจะทำการเชื่อมต่อได้
อัลเฟนมีดันเจี้ยนมากเกินไป สหพันธ์มีคนน้อยเกินไป แม้แต่คังวูจินก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้
นี่เป็นงานที่ต้องการเราส์และผู้กล้าของสหพันธ์เป็นจำนวนมาก
ไม่เหมือนกับทีท่าวุ่นวายใจที่แสดงออก นากามูระหัวเราะในใจ
ไม่มีหน่วยไหนส่งมาหรอก
ไม่มีหน่วยอื่นตั้งแต่แรกแล้ว
พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่ถูกส่งผ่านประตูมา โลกไม่มีแผนจะส่งหน่วยอื่นเพิ่ม
การวิจัยของพวกเราเสร็จแล้ว
เขาแบ่งคนเป็นกลุ่มๆ กลุ่มที่จะใช้เป็นตัวประกัน กลุ่มที่เขาจะแบ่งผลประโยชน์ให้ กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่จะทำงานรับใช้เขา
กลุ่มผู้นำของอาณาจักรต่างๆและทัวริคอยู่ที่นี่ นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำตามแผน
“เอ่อ หัวหน้าทีมเชฮีซอล? ช่วยมาตรงนี้หน่อย”
นากามูระเรียกเชฮีซอลด้วยรอยยิ้มสดใส เธอเป็นคนแรกที่เขาต้องกำจัด
จู่ๆนากามูระก็เรียกขึ้นมา ฮีซอลจึงตอบอย่างไม่เต็มใจ
“ถ้าคุณจะคุยด้วยก็ควรมาหาดิฉัน”
“...”
ดูเหมือนลูกน้องจะหยิ่งพอกันกับเจ้านาย
ก็ได้ เขาจะไปหาเธอ
นากามูระเดินไปหาฮีซอลด้วยรอยยิ้ม


สารบัญ                                   บทที่188





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น