วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 161

บทที่ 161 – เราคือทหารใหม่ (2)


‘ตายแน่ฉัน’

คิมจุนยองคิดเช่นนี้มานับไม่ถ้วนครั้งแล้ว

พื้นดินเหนียวเหนอะ ป่ารกกีดขวางวิสัยทัศน์ของเขา มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด

กี๊ซ!

“เชี่ย”

ถึงตอนนี้เขาคุ้นเคยกับเสียงร้องของมนุษย์กิ้งก่าแล้ว มันกำลังเรียกพวกเพราะหาเหยื่อไม่เจอ โชคร้ายที่เหยื่อที่ว่าคือมนุษย์

เหยื่อคือคนในอลันดาลเช่นเดียวกับเขา รวมตัวเขาด้วย

[ทิศ 9 นาฬิกามีเป้าหมาย 2 เป้าหมาย วางกับดักแล้วถอยไปทาง 3 นาฬิกา]

‘เวร’

เมื่อคำสั่งของฮีซอลดังขึ้นในหัว จุนยองรีบวางกับดักเวทแล้วถอย ปากบ่นแต่เท้าไม่มีเสียงแม้กำลังเดินผ่านพุ่มไม้ ความเคลื่อนไหวของเขาเงียบกริบ

กึง!

เสียงกับดักทำงาน ฮีซอลออกคำสั่งเพิ่มในหัวเขา

[ไปรวมทีมที่ทิศ 7 นาฬิกา นายจะเข้าร่วมการต่อสู้ในระยะใกล้]

จุนยองรีบไปยังทางที่บอก การต่อสู้ไม่ห่างจากจุดที่เขาวางกับดักไว้นัก

สหายร่วมรบของเขาจะอยู่ที่นั่น

“ย้าก!”

เขาตะโกนปลุกสมาธิแล้วออกวิ่งพร้อมกับดาบเกรดต่ำในมือ มันเป็นของที่เขาขโมยมาจากมนุษย์กิ่งก่า มันมีสมดุลดีจึงใช้ได้ดีทีเดียว

กี๊ซ!

“ตาย...ทีเถอะ”

เขาพยายามดึงดาบออกจากหนังหนาของมัน จุนยองถีบมนุษย์กิ่งก่าและรวบรวมพลังเวทสร้างกระแสไฟฟ้า

ก่อนมาที่นี่ เขาเป็นเราส์แรงค์ E ที่ใช้พลังเคลื่อนย้ายวัตถุและกระแสไฟฟ้า ตำแหน่งในทีมของเขามักจะเป็นด้านหลัง แต่ที่นี่การยึดตำแหน่งแน่นอนเป็นเรื่องไร้ประโยชน์

เขามีหน้าที่ แต่สิ่งที่เขาต้องทำแตกต่างไปตามสถานการณ์ ใช้ดาบ,ร่วมมือกับคนอื่น,ใช้เวทและวางกับดัก แต่นี่ไม่ใช่หน้าที่ของเขาโดยเฉพาะ ทุกคนในกลุ่มต้องเรียนทักษะหลายๆอย่าง และตอนนี้พวกเขาก็ใช้ทักษะเหล่านั้นได้ค่อนข้างคล่องดีแล้ว

มีแต่คนที่ปรับตัวได้เร็วเท่านั้นที่รอด

เขาเหลือสหายร่วมรบเพียง 7 คน

“เฮ้อ”

คิมจุนยองมองสนามรบด้วยสายตาเหี้ยมโหด มนุษย์กิ้งก่า 12 ตัวถูกฆ่าอย่างไร้ความปราณี

“ทำได้ดี”

จุนยองหันขวับเมื่อได้ยินเสียงจริงๆของเชฮีซอล เธอกำลังยิ้มมองเขา เขามองตอบด้วยสายตาอยากฆ่าคน

“มองข้างล่าง ถ้าไม่พอใจก็มาสู้กับดิฉัน”

“...”

จุนยองมองพื้นอย่างไม่เต็มใจ เขาขัดขืนเธอได้แต่มันเปล่าประโยชน์ เขาเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วเท้าของเธอ เธอเป็นนักฝึกสัตว์แต่สู้เก่งมาก...

“เอาล่ะ จบการล่าเท่านี้ เราจะกลับแคมป์ รวบรวมไอเทมได้”

“...”

ทุกคนชำแหละมนุษย์กิ้งก่าเพื่อเอาบลัดสโตนออกมาเงียบๆ จากนั้นก็เก็บอาวุธและเครื่องป้องกัน พวกเขาทำจนชินแล้ว

พวกเขาถึงจุดที่เริ่มรู้สึกแปลกๆมากกว่ากับการพูดคุยกันด้วยเสียง

ทักษะเทเลพาธีของฮีซอลมีประโยชน์มากเมื่อออกคำสั่งกองกำลังของเธอ แต่คนที่ถูกสั่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหุ่นเชิด พวกเขารู้สึกสกปรก

“เราจะกลับแล้ว”

ฮีซอลขึ้นขี่หลังเสือดำตัวหนึ่งที่ถูกจับจากป่าแห่งหนึ่ง ฮีซอลนำพวกเขาไปยังแคมป์ที่ซ่อนในซอกเขา ยิ่งกว่านั้นยังมีคนอื่นอยู่แล้ว

“จุนยองอา!”

“ลีซูจิน!”

คนที่ตะโกนด้วยความดีใจคือเพื่อนร่วมทีมของจุนยอง ฮีซอนพาเขาจากไปตอนรบคราวก่อน

“เอ๊ะ? ทำไม...”

แขนขาเขาถูกตัดและมีแผลที่ทำให้ถึงตายได้ในไม่นาน แต่เขา...

“สตรีศักดิ์สิทธิ์รักษาฉัน”

“อา นายไม่ตาย นายยังไม่ตาย”

พวกเขาสู้ด้วยกันไม่นาน เพียง 6 วัน แต่ได้สร้างมิตรภาพที่เหนียวแน่นจากประสบการณ์ที่พวกเขามีร่วมกัน

พวกเขาทำงานท่ามกลางความกดดันในสนามรบ ปีศาจเชฮีซอลเฝ้ากระตุ้นพวกเขา แน่นอนว่าสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นย่อมเกิด

สหายร่วมรบที่เขาคิดว่าตายไปแล้วกลับยังมีชีวิตอยู่ พวกเขายังดูดีกว่าเมื่อก่อน

เชฮีซอลสาดน้ำเย็นลงบนการพบกันอีกครั้งของพวกเขา

“ตั้งแถวเป็น 4 แถว”

“...”

พวกเขาเรียงแถวอย่างรวดเร็วตามคำสั่งฮีซอล

“นี่เป็นเสบียงที่พระราชาส่งมา หยิบไปแต่อันที่มีชื่อของตัวเอง ไป”

กล่องเสบียงจำนวนมากกองอยู่ตรงมุมหนึ่งของแคมป์ แปลว่าของในแต่ละกล่องไม่เหมือนกัน

พวกเขาไปหยิบกล่องขนาดค่อนข้างใหญ่แล้วกลับมายังที่เดิม

“หลังจากใช้หินเพิ่มพลังและตำราทักษะแล้วให้สวมอาวุธเครื่องป้องกัน เริ่มได้”

จุนยองเปิดกล่องแล้วลืมตาโต

เขาหยิบหินเพิ่มพลังขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมา เมื่อก่อนเขาเดาว่าหินเพิ่มพลังที่ให้เขากินนั้นราคาแพง แต่ตอนนี้เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังเวทมหาศาลข้างใน ความสามารถควบคุมเวทและการตรวจสอบของเขาเพิ่มขึ้นหลังจากเจอกับประสบการณ์เฉียดตาย

‘สมกับที่เป็นราชาของพวกเรา’

เขามอบไอเทมล้ำค่าให้พวกเขาโดยไม่รู้สึกอะไรเลย

จุนยองกินหินเพิ่มพลังทั้งหมด จากนั้นเรียนทักษะเพิ่มอีก 3 ทักษะ

‘พวกนี้มัน!’

เมื่อส่งพลังเวทเข้าไปในตำราทักษะ ความรู้จากในหนังสือจะถูกซึมซับเข้ามา เขารู้ในหัวว่าจะใช้ทักษะพวกนี้อย่างไร คิมจุนยองตัวสั่น

ทั้งหมดนี้เป็นทักษะที่เขาเคยอยากเรียน มันเป็นทักษะที่เขาต้องการ

‘แน่ใจแล้ว! เขามองฉันอยู่!’

สื่อมวลชนพูดถึงความสามารถด้านการต่อสู้อันท่วมท้นของคังวูจิน แต่ไม่ยกย่องการปกครองด้วยกำลังของเขานัก แต่จุนยองรู้ความจริงแล้ว

ที่จริงแล้วคังวูจินเป็นชายที่ช่างเอาใจใส่ แม้แต่เราส์แรงค์ต่ำเขายังให้ความสนใจ

“โอ ไม่น่าเชื่อ”

“นี่เป็นของที่ฉันต้องมีทั้งนั้นเลย”

เช่นเดียวกับสหายร่วมรบของเขา พวกเขาดีใจเมื่อพบว่าเสบียงพวกนี้ทำขึ้นเพื่อแต่ละคนโดยเฉพาะ ไม่แค่ตำราทักษะ เครื่องสวมใส่ก็ต่างกัน

“ว้าว ดูชุดนี่สิ”

“นี่มันดาบ เหมาะกับฉันเลย”

ดาบด้ามนี้เทียบไม่ได้กับอันที่จุนยองขโมยจากมนุษย์กิ้งก่า เขาไม่รู้ว่าความชอบส่วนตัวของเขาถูกวิเคราะห์ออกมาได้อย่างไร

ทุกคนถืออาวุธที่เหมาะกับพวกเขา

จากนั้นก็มีชุดที่เหมือนชุดของนักแข่งมอเตอร์ไซค์ มันแนบกับตัว ส่วนสำคัญของร่างกายถูกปกป้องด้วยโลหะแข็งแกร่ง ชุดนี้จะทำให้พวกเขารอดจากการโจมตีรุนแรง

ชุดเป็นสีดำแดง ตรงไหล่และหน้าอกมีรูปแมวกำลังหาว

มันคือตราสัญลักษณ์แสดงอาณาเขตมิติอลันดาล

นอกจากเครื่องสวมใส่แล้วยังมีไอเทมพวกใช้แล้วหมดไปด้วย โพชั่นราคาแพงและยาแก้พิษสำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน และอาร์ติแฟคที่สามารถใช้โจมตี

‘พระราชาช่างใจดี...’

จุนยองตัวสั่นไม่หยุด กิลด์ที่ไหนจะส่งเสริมสมาชิกถึงขั้นนี้ เขาเป็นแค่เราส์แรงค์ E เขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อน

“รีบใส่สิ!”

ถ้าไม่ใช่เพราะครูฝึกเชฮีซอลทำลายฝันหวานของเขา เขาคงดีใจนานกว่านี้ แต่ยังเหลือเวลาอีก 6 วันก่อนพวกเขาจะได้กลับโลก

เชฮีซอลมีสีหน้าเข้มงวด แต่เธอยิ้มในใจ

‘ทุกคนกำลังดีใจ’

ฮีซอลเป็นคนเฝ้าดูทหารใหม่ทั้ง 23 คน เธอรู้ถึงอาวุธที่เหมาะสำหรับพวกเขาและทักษะที่จะช่วยส่งเสริมการต่อสู้ของพวกเขา เธอยังประเมินความสามารถของพวกเขาก่อนจะส่งรายงาน

คังวูจินซื้ออาวุธและไอเทมจากร้านค้ามิติอย่างไม่ลังเลแล้วส่งมาให้เธอ

ถ้าพูดถึงเงิน ไอเทมพวกนี้ราคาหลายล้าน แต่ถ้าคิดถึงหน้าที่ที่พวกเขาต้องทำในภายภาคหน้า การลงทุนเหล่านี้ถือว่าคุ้ม

“เราจะเริ่มการฝึกอีกครั้ง”

“...”

หน่วยรบพิเศษของฮีซอลเริ่มทำการฝึกต่อ

***

ผ่านไป 12 วัน

อุโมงค์ไปยังอาณาเขตมิติอลันดาลเปิดออก เราส์ 23 คนภายใต้การดูแลของฮีซอลมาถึง สายตาและบรรยากาศของพวกเขาต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง

“พวกเราฝึกเสร็จแล้วค่ะ”

วูจินนั่งบนบัลลังก์ฟังฮีซอลรายงาน เขาซื้อหินเพิ่มพลังจากร้านค้าของมิติอีกครั้ง มันจะดีที่สุดถ้ากินหินเพิ่มพลังทันเวลาหลังจากช่วงพักดูดซับหินหมด

การพัฒนาทักษะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การพัฒนาค่าสถานะมีอิทธิพลอย่างมากต่อความสามารถต่อสู้

“ทุกคนทำได้ดี”

เขาดูเฉยเมยแต่สง่างาม เมื่อวูจินเอาหินเพิ่มพลังออกมาเป็นรางวัลสำหรับการฝึก พวกทหารใหม่ก็อึ้งไป โดยเฉพาะคิมจุนยอง ดูเหมือนเขาใกล้จะร้องไห้แล้ว

‘ใจดีอะไรขนาดนี้! เขาคือพระราชาของพวกเราจริงๆ...’

ไม่เหมือนเชฮีซอล เธอเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอต่อให้อยู่ในนรก ฮีซอลทำทุกอย่างเพื่อการฝึก แต่คิมจุนยองเป็นคนที่ต่อต้านเธอที่สุด ดังนั้นจึงเป็นคนที่ถูกเธออัดมากที่สุด

เขาไม่ได้แค้น แต่ไม่สามารถคิดดีๆกับเธอได้

เขาโตพอจะรู้ถึงตำแหน่งสูงต่ำของพวกเขา เพราะอย่างนี้เขาจึงเงียบ

“กินซะ”

“คุณแน่ใจเหรอที่มอบไอเทมพวกนี้ให้เราใช้ฟรีๆ?”

“ลงทุนไง มันคือการลงทุน”

“อา”

ใจกว้างสมเป็นพระราชา ราชาในหมู่ราชา

จุนยองประทับใจ

วูจินยิ้ม

ถ้าฆ่าพวกนี้ตอนนี้ก็จะได้แค่ศพ อย่างน้อยถ้าฝึกพวกนี้จนถึงขั้น 7 หรือแรงค์ AA จะได้รีไซเคิลพวกมันเป็นอัศวินมรณะ...

“ฮีซอล”

“ค่ะท่าน”

“อืม เธอมีชื่อเรียกชื่อทีมของเธอหรือเปล่า?”

“ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ”

วูจินมองเราส์ที่เข้ามาใหม่

“พวกนายมีความคิดดีๆไหม?”

จุนยองเป็นคนแรกที่ถาม

“พวกเราจะทำงานเป็นทีมเดียวตลอดเลยหรือครับ?”

“แน่นอน และทีมนี้จะอยู่ใต้คำสั่งของฮีซอล...”

พอได้ยินคำตอบจากวูจิน ทุกคนรวมทั้งจุนยองขมวดคิ้ว

‘เชี่ย ไม่อยากเลย แต่นี่เป็นคำสั่งจากพระราชา’

วูจินเคาะนิ้วบนที่วางแขนพลางใช้ความคิด

คิมจุนยองยกมือขึ้น

“อะไร?”

“แฟนธ่อมเป็นไงครับ?”

“แฟนธ่อม”

“เราต้องการปกป้องพระราชาแม้แต่ในยามตายเป็นผี”

วูจินแสยะยิ้ม

เขากำลังอนุญาตให้เอาวิญญาณพวกเขาตอนตายใช่ไหม? วิญญาณของพวกเขาจะหายไป...

“อืม ก็ได้ ชื่อเลี่ยนไปหน่อยแต่ก็เหมาะดี”

วูจินมองฮีซอลที่ยืนหน้าหน่วยของเธอ

“เรียกว่าหน่วยแฟนธ่อมแล้วกัน เธอในฐานะผู้บัญชาการมีหน้าที่แบ่งพวกเขาเป็นทีม”

ดวงตาฮีซอลเป็นประกาย

“ดิฉันยินดีมอบชีวิตเพื่ออลันดาล”

“ทำไมวันนี้ทุกคนพูดว่าจะรับใช้ฉันหลังตาย?”

“...”

ถ้าพวกเขาตาย เขาต้องใช้ค่าบงการกับพวกเขา ทำงานให้เขาตอนยังมีชีวิตดีกว่า

ตอนนั้นเอง เบคจองโด โดเจมิน บลังกาและเมโลดี้ก็ผ่านอุโมงค์ออกมา

“โฮ่ จบจนได้”

“ทุกคนทำได้ดีมาก”

เมื่อถึงอลันดาล ความเครียดที่พวกเขามีก็หายไป พวกเขาตบหลังให้กันเมื่อเห็นเราส์ใหม่ที่เรียงแถวตรงหน้าวูจิน เราส์ใหม่ส่วนมากรู้จักกับอีกกลุ่มอยู่บ้าง

ตอนพวกเขากำลังใกล้ตาย ไวเวิร์นพาพวกเขาไปให้สตรีศักดิ์สิทธิ์รักษา เราส์บางคนส่งสายตาแสดงความขอบคุณไปทางเธอ

“ไว้ทักทายกันทีหลังเถอะ กลับโลกกัน”

“เอ๊ะ? พี่ซุงกูยังไม่มานี่ครับ”

โดเจมินมองไปรอบๆ

“ซุงกูตาย”

“ฮ้า?” 

โดเจมินและแน่นอน คนอื่นๆทำหน้าตกใจ

วูจินกระตุกยิ้มพลางเปิดอุโมงค์สู่สถานีโซลทางออกที่ 1

“ล้อเล่น ซุงกูจะไปเจอกับพวกเราที่อัลเฟน กลับโลกเถอะ”

“เฮ้อ ผมคิดจริงๆนะว่าเขาถูกลิชฆ่าตาย”

เจนิสไล่ล่าซุงกูไม่หยุด พลังของลิชมีมหาศาล เจมินจึงเชื่อจริงๆว่าซุงกูตายแล้ว เขาถอนหายใจแล้วตามหลังวูจิน

คิมจุนยองผ่านอุโมงค์มายังสถานีโซลทางออกที่ 1 พวกเขากำลังยืนบนแผ่นดินโซล

‘โครงสร้างในนี้เหมือนดันเจี้ยนแรงค์สูงเลย’

เขาเป็นเราส์แรงค์ E จึงไม่เคยเข้าดันเจี้ยนแรงค์สูง แต่เขารู้จักมัน อาณาเขตมิติของอลันดาลสร้างคล้ายดันเจี้ยนแรงค์สูง ไม่ใช่ มันคือดันเจี้ยนแรงค์สูงจริงๆ

จุนยองมองด้านหลังคังวูจิน

‘พระราชาของเราเป็นใครนะ...’

ทุกสิ่งที่เขาทำส่งผลกระทบไปทั่วโลก คิมจุนยองสงสัยว่าตัวจริงของคังวูจินเป็นอย่างไร

ด้านหน้าพวกเขาเป็นกลุ่มนักข่าวที่มากกว่าปกติหลายเท่ากำลังถ่ายรูปไม่หยุด

พวกเขาเดินผ่านกลุ่มคนที่หลีกทางให้ เขารู้สึกเหมือนกำลังกลับจากชนะสงคราม คิมจุนยองรู้สึกแปลก
เขาเป็นแค่เราส์แรงค์ E เองนะ

เขาเคยถูกใช้ขุดเหมือง แต่ตอนนี้คนมากมายกำลังให้ความสนใจในฐานะเราส์ของอลันดาล

“อ๊ะ?”

เมื่อพวกเขามาถึงอลันดาล คนกลุ่มหนึ่งรอตรงหน้าประตูหน้า จุนยองตาโต

“ไอ้หยา จุนยองอา!”

“แม่?”

ไม่ใช่แค่ครอบครัวจุนยอง คนในครอบครัวของเราส์ใหม่ต่างมารวมกันที่นี่ ครอบครัวของเขากำลังรอพวกเขากลับมา

เราส์ใหม่ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องอะไร แต่นายกจุนมินชานหัวเราะ

“พวกคุณคือพนักงานของอลันดาล สมาชิกครอบครัวของพวกคุณก็ย่อมต้องมีสิทธิเป็นพลเมืองของอลันดาล”

“อา...”

จุงมินชานเชิญครอบครัวของเราส์ใหม่มาและดูแลการกินอยู่ของพวกเขาทุกอย่าง ยิ่งกว่านั้น เราส์ใหม่ยังได้รับบัตรเครดิต รถส่วนตัวแถมคนขับ

พวกเขาใช้เวลา 12 วันบนโลกจาคุ แต่ที่นี่เพิ่งผ่านไปแค่ 3 วัน การเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้นภายในเวลา 3 วัน

“เหนื่อยหน่อยนะครับท่าน”

วูจินยิ้ม เขากระซิบกับมินชาน

“ตัวประกันเหรอ?”

“ฮ่าๆๆ ผมก็แค่อยากปกป้องสมาชิกครอบครัวในที่ๆปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

จุงมินชานขยิบตา วูจินยิ้มอย่างพอใจ

สมแล้ว มินชานทำงานของเขาได้ดี เขาคิดถูกที่ให้มินชานเป็นนายกรัฐมนตรี



สารบัญ                                   บทที่ 162


ลังเลว่าจะเรียกหน่วยแฟนธ่อมดีหรือหน่วยภูติพรายดี อันไหนฟังจูนิเบียวกว่ากันนะ XD
วูจินตั้งตัวเองเป็นพระราชา แต่ไม่ใช้ราชาศัพท์นะคะ เพราะ หนึ่งเราใช้ไม่เป็น สองที่แปลอังกฤษก็ไม่ได้ใช้ด้วย ^^"



8 ความคิดเห็น:

  1. ลูกน้องก็ปลื้มปริ่มกันไป 5555

    ตอบลบ
  2. แฟนธ่อมเบียวกว่าแน่นอน แต่ก็ไม่น่ามีปัญหานะครับ แบบที่ วูจินบอกดูเลี่ยนแต่ก็เหมาะดี 5555 จะอวยก็เลือกคำดีๆ เดี๋ยวได้ไปรับใช้ต่อหลังตายจริงๆ ตาวูจินยิ่งบ้าจี้อยู่

    ตอบลบ
  3. รอตอนต่อไปอยู่นะคับ อ่าน 3 วันรวดเดีบยว จนถึง 161 เลย ตอนนี้อาร์มค้างคับ 555

    ตอบลบ
  4. เม้นบนใช้3วัน แต่ผมใช้4วัน😂 ค้างจริงๆ

    ตอบลบ
  5. กระซิบ ตัวประกันหรอโคตรเชี้ยเลย5555

    ตอบลบ
  6. เลือกใช้คำได้...เป็นภัยต่อตัวเองมาก..

    ตอบลบ
  7. เลือกใช้คำได้...เป็นภัยต่อตัวเองมาก...

    ตอบลบ
  8. มินชายนนายกำลังเปลี่ยนไป 55555555

    ตอบลบ