วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2562

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 155

บทที่ 155 – อลันดาลในเมืองโซล (2)


[หา เขาจะเอาเรือบรรทุกเครื่องบินเหรอ?]

[ครับ เขาพูดอย่างนั้น ราชวงศ์อังกฤษกับสภาปรึกษากันแล้วเห็นว่าชิ้นส่วนมิติเป็นไอเทมสำคัญมาก แต่ค่าตอบแทนเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินนั้นไร้เหตุผลเกินไป เราจึงเสนอส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาที่ทะเลตะวันออกเป็นเวลา 5 ปี มันจะช่วยสนับสนุนการป้องกันของพวกคุณ...]

มันเป็นข้อเสนอที่ทำให้ซุงฮุนถึงกับอ้าปากค้าง

เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน สีหน้าจึงมีแต่ความสับสนและประหลาดใจอย่างปิดไม่มิด เขาเสียโอกาสเป็นฝ่ายต่อรองไป

[เราตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการจัดการเรือบรรทุกเครื่องบินได้นะครับ ถ้าแบ่งกันคนละครึ่ง เราตกลงจะยืดเวลาให้เรืออยู่ที่นี่ไปอีก 5 ปี]

[นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะตัดสินใจได้ ผมต้องไปเจอกับพระราชาก่อน แล้ว...]

ซุงฮุนกำลังพูดอยู่เมื่อประตูเปิดออกกะทันหัน เขาหุบปาก คนที่เขากำลังรออยู่ปรากฏตัวแล้ว

“อยู่ที่นี่กันหมดสินะ”

“ยินดีต้อนรับกลับครับ”

จุงมินชานทักทายวูจินอย่างยินดี

เรือบรรทุกเครื่องบินไม่ใช่ของเล่น แต่เขาขอมันง่ายๆ น่าสงสัยว่าชิ้นส่วนมิติมีค่าขนาดไหน...

เมื่อวูจินเห็นทีมเจรจาจากอังกฤษ เขาถาม

“นายพูดภาษาเกาหลีได้ไหม?”

“ได้ครับ”

ซุงฮุนทำหน้าช็อกเมื่อชายชาวอังกฤษผมบลอนด์พูดภาษาเกาหลีอย่างคล่องแคล่ว

“ถ้านายให้ของที่ฉันต้องการ ฉันจะให้นี่”

วูจินหยิบชิ้นส่วนมิติออกมาจากคลังแล้วยกให้มองเห็นง่าย พลอยเปล่งแสงสีม่วงเจิดจ้า มันส่งพลังเวทออกมามากถึงขั้นคนธรรมดายังรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

“เอ่อ เรือบรรทุกเครื่องบินต้องใช้คนหลายพันในการดูแลและใช้งาน เท่าที่ผมรู้ อลันดาลไม่มีคนมากมายขนาดนั้น”

“นั่นเรื่องของฉัน ส่งเรือกับทุกอย่างในนั้นมาให้ก็พอ ฉันไม่ต้องการคน”

“...?”

อลันดาลมีคนพอเหรอ? ประชากรในเกาหลีมีไม่มากนักที่รู้วิธีใช้เรือบรรทบุกเครื่องบิน ประเทศเล็กๆนี้ไม่เคยมีมันมาก่อน ทำไมจึงอยากได้นัก...

“ฉันจะจัดการเอง นายจะซื้อไหม?”

“...เราอยากได้ชิ้นส่วนมิติเพื่อเอาไปวิจัย เราไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้...”

“นายเอามันไปใช้ซื้อประตูมิติที่พาไปยังโลกอื่นได้ ง่ายๆคือไอเทมนี้หนึ่งอันทำให้นายครอบครองดันเจี้ยนได้หนึ่งแห่ง”

“...”

ทีมเจรจาและคนจากกิลด์สหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นตกใจกับคำพูดของวูจิน คนนอกไม่รู้ แต่ทั้งสองกิลด์ก็มีชิ้นส่วนมิติเช่นกัน พวกเขากำลังวิจัยมันอยู่...

“จะซื้อไม่ซื้อ ถ้านายไม่เอา ฉันจะไปขายให้คนอื่น”

ทีมเจรจามีสีหน้าหมดหวังกับความไร้เหตุผลของวูจิน

“ผมต้องปรึกษากับประเทศก่อน ขอให้คำตอบพรุ่งนี้ได้ไหมครับ?”

“ฉันต้องรอถึงพรุ่งนี้เลย? นายจะซื้อเวลาที่ฉันเสียไปไหม?”

หนึ่งวันของคังวูจินมีค่าขนาดไหน? เขาสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ระหว่างเดินทางรอบโลกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนไปกี่แห่ง? พวกเขายังกล้าปล่อยให้วูจินรอทั้งวัน?

“นายรับผิดชอบไหวเหรอ?”

“ผม...ผมขอเวลาสามสิบนาทีนะครับ”

วูจินหันหน้าไป

“คาเนดะกับแบดเซ็คเตอร์ใช่ไหม? ถ้าผ่านไป 30 นาทีแล้วยังจบเรื่องไม่ได้ ฉันจะขายให้พวกนาย อ๊ะ ญี่ปุ่นมีเรือบรรทุกเครื่องบินหรือเปล่า?”

วูจินถามพลางหันไปมองคนจากกิลด์แบดเซ็คเตอร์

เมื่อคนจากกิลด์แบดเซ็คเตอร์รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา คนเจรจาจากอังกฤษยืนขึ้นทันที

“เราซื้อ!”

วูจินยิ้มเยาะ

สุดท้ายพวกเขาก็ต้องซื้อให้ได้อยู่ดี ทำเป็นเล่นตัว

“เอาเรือมาให้ฉัน”

วูจินวางชิ้นส่วนมิติลงบนโต๊ะ

“...”

ชายคนนั้นมองวูจินอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี วูจินยักไหล่

“เอาไปสิ”

“...แค่นี้เหรอ?”

แลกเปลี่ยนกันแบบนี้เหรอ?

เพิ่งตกลงกันได้ ยังไม่แน่นอนเลย ให้ของล้ำค่ามาง่ายๆแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ?

วูจินขจัดความกังวลของคนมาเจรจาให้หมดไปทันที

“ถ้าพวกนายคิดจะแก้สัญญา ฉันจะลบประเทศอังกฤษออกไปจากแผนที่”

“...”

“พวกนายทั้งหมดออกไปได้ ไม่ พวกนายเข้าไปในห้องประธานกับฉัน”

วูจินพูดพลางมองมินชานและซุงฮุนแล้วออกจากห้องทำงานนายกรัฐมนตรี

“...”

ห้องทำงานเงียบราวอยู่ในสุสานไปครู่หนึ่ง บรรยากาศหนักอึ้ง

‘เมื่อกี๊มันเกิดอะไรขึ้น?’

เรือบรรทุกเครื่องบินถูกโยนไปมาในการเจรจา... พริบตาเดียว ไอเทมราคาหลายพันล้านดอลลาร์ก็ถูกเปลี่ยนมือ

นี่คือความรู้สึกที่ว่าสามารถสั่งโลกได้เหรอ? ซุงฮุนยืนใจกลางการเจรจา เขารู้สึกกลัว ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้น

“เอาล่ะ เราจะสรุปการเจรจากับกิลด์แบดเซ็คเตอร์พรุ่งนี้”

มินชานตัดสินแล้วส่งตัวแทนกลับ

หลังจากนั้น ซุงฮุนกับมินชานเดินไปด้วยกัน

“ฮู้ว ผมสงสัยว่าราชาจะทำยังไงกับเรือบรรทุกเครื่องบิน”

“บางทีเขาแค่อยากได้เฉยๆ”

“อืม”

ซุงฮุนแค่พูดอย่างไม่คิดมาก แต่ไม่รู้ทำไมมันเหมือนจะเป็นไปได้ มินชานคราง

ช่างเถอะ พวกเขากำลังจะไปถามอยู่แล้ว

“อา มากันเสียทีนะ”

วูจินนั่งจมในโซฟากล่าวทักพวกเขา

“คนอื่นในปาร์ตี้ไม่มากับท่านด้วยเหรอ?”

“พวกนั้นยังเก็บเลเวลอยู่ ฉันนึกว่าพวกเราจะมีประชุมกิลด์? ทำไมถึงถูกเลื่อนล่ะ?”

“การประชุมมันใหญ่เกินไปครับ”

“หมายความว่ายังไง?”

“กิลด์ทุกกิลด์ในโลกแสดงความสนใจ พวกเขาอยากเข้าร่วมด้วย”

“ชิ งั้นเหรอ?”

“กิลด์แฮมเมอร์กำลังพยายามอย่างเต็มที่ครับ กำหนดการเป็นอีก 15 วัน”

“ช้าเกินไป”

เขาวางแผนจะไปอัลเฟนหลังประชุมเสร็จ

“เพราะอย่างนี้ถึงไม่ควรยกงานแบบนี้ให้คนนอกทำ”

เขามองไปยังลูกน้องที่พึ่งพาได้ จุงมินชาน

วูจินไม่ต้องการให้มีอะไรมาขัดขวางงานของเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งประเทศขึ้นมาและเลือกจุงมินชานเป็นนายกรัฐมนตรี

“เราจะมีประชุมในอีก 6 วัน ฉันจะคุยกับทุกกิลด์ก่อนเดินทางไปอัลเฟน ถ้าพวกนั้นมาได้ก็มา ใครมาไม่ได้ก็ดูข่าวได้”

“...ถ้าท่านตั้งกำหนดการกะทันหันแบบนี้...”

“ฉันรอนานแล้ว พอแล้ว คนจากแฮมเมอร์ช้าเกินไป นายทำแทน”

“...”

ถ้าเขาถูกบอกให้ทำ เขาก็จะทำ แต่พอคิดว่าจะทำแล้วมินชานก็รู้สึกปวดศีรษะ

“แล้วทำไมท่านอยากได้เรือบรรทุกเครื่องบิน?”

“อ้อ ฉันอยากทดสอบอะไรบางอย่าง”

“ท่านจะสร้างโกเลมเหรอ?”

“หา? ฉันให้เศษเหล็กโดลเซก็ได้ ทำไมต้องซื้อเรือให้เขาด้วย”

มินชานตาโต

“แค่เรือเปล่าๆเราจะทำอะไรได้? ของใหญ่ขนาดนั้นต้องใช้คนเยอะนะ...”

วูจินยิ้ม

“นายต้องหาคนมาเติมให้เต็ม”

วูจินไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องภาระหน้าที่ ในเมื่อเขามีคนกังวลแทนแล้ว

“...”

มินชานปวดศีรษะเสียแล้ว

“หรือไม่ฉันก็เติมด้วยวิธีอื่นเอง”

“หรือว่า? จากอาณาเขตมิติครับ?”

“ใช่ ทำสงครามโดยใช้แต่คนในโลกนี้มันเกินความสามารถของพวกเรา”

“...”

วูจินมองซุงฮุน

“นายรู้วิธีใช้ SNS ไหม? สมัครให้ฉันที”

“ครับ? ท่านอยากให้ผมสมัคร SNS ให้เหรอ?”

ซุงฮุนประหลาดใจ

“เอาโทรศัพท์มือถือของฉันมาที”

“ครับผม”

ซุงฮุนแตะโน่นนี่บนมือถือของวูจิน และสมัคร SNS ให้ ในการสมัครไม่มีประเทศอลันดาลให้ ในฐานะพลเมืองที่มีสองสัญชาติ ซุงฮุนสมัครวูจินโดยใช้สัญชาติเกาหลี

“...เราโพสท์แบบนี้ครับ”

“อืม เข้าใจล่ะ”

“ผมจะโพสท์ในแอคเคาท์หลักของอลันดาลว่าท่านประธานสมัคร SNS แล้ว”

วูซุงฮุนทำงานรวดเร็ว ทันใดนั้น โทรศัพท์ของวูจินก็สั่นไม่หยุด

<คุณเดอะไลท์ติดตามคุณ>

<คุณasdfติดตามคุณ>



“เกิดอะไรขึ้น?”

“อ๊ะ เดี๋ยวผมปิดการแจ้งเตือนให้”

จำนวนผู้ติดตามของวูจินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันดับจำนวนผู้ติดตามของเขากระโดดขึ้นไปหลายขั้นในทีเดียว

‘เขาจะแซงฉันไปในแวบเดียวแน่’

วูซุงฮุนมีผู้ติดตามมากพอๆกับนักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่ดูเหมือนคังวูจินจะแซงเขาไปเมื่อไหร่ก็ได้...

“ฉันจะใช้มันทีหลัง มีดันเจี้ยนที่ใกล้จะระเบิดไหม? มีคำร้องมาหรือเปล่า?”

“เอ่อ นั่น...”

มินชานหน้าเครียด

“มีดันเจี้ยนหลายแห่งใกล้ระเบิด แต่ไม่มีรัฐบาลที่ไหนขอความช่วยเหลือมา”

“แสดงว่าพวกนั้นอยากจัดการด้วยตัวเอง”

“ครับ ผมไม่รู้เหตุผลเบื้องหลัง แต่ถ้าจะให้เดาก็คงเกี่ยวกับชิ้นส่วนมิติที่ท่านเอาออกมา”

“อืม...”

วูจินเคาะนิ้วกับที่วางแขน

ความโลภจะเผาผลาญพวกนั้น แต่นั่นเป็นผลจากการกระทำของพวกนั้นเอง

“เดี๋ยวก็จะปวดท้อง”

“ครับ?”

“ไม่มีอะไร ปล่อยไปเถอะ”

อย่างไรเสียคังวูจินก็ปิดดันเจี้ยนทุกแห่งไม่ได้อยู่ดี ที่ๆจะระเบิดก็จะระเบิด ที่ๆสามารถป้องกันได้ก็จะมีคนป้องกัน

ถ้าจำเป็นจริงๆ พวกเขาก็จะขอความช่วยเหลือเอง การปล่อยให้พวกนั้นคิดเองทำเองไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

“การรับสมัครเราส์เข้ากิลด์เป็นยังไงบ้าง?”

“ใบสมัครงานยังมีท่วมท้นเข้ามาครับ ท่านประธานต้องเป็นคนตัดสินใจ กรุณาบอกเวลาผม ผมจะประกาศออกไป”

วูจินไม่สนใจเรื่องใบสมัครงาน ความสามารถของพวกเขาตอนนี้ไม่เกี่ยวกับศักยภาพในการพัฒนา ใครจะคิดว่าฮงซุงกูจะเป็นเราส์ชั้นหนึ่งของโลก?

วูจินจะเลือกพวกเขาตัดสินจากสิ่งที่เขาเห็น

“งั้นให้เป็นอีก 3 วันจากนี้ เรื่องที่ฉันจะพูดมีแค่นี้ล่ะ ฉันจะไปข้างนอกแล้ว”

งานในภายภาคหน้าจะเป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ข้างหลัง

“ท่านจะไปไหนครับ?”

“อาณาเขตมิติ”

“ก่อนไป ทิ้งรูปถ่ายไว้สักรูปได้ไหมครับ?”

“หา?”

“เพื่อพิสูจน์ตัวเองครับ ไม่มีใครโพสท์บนช่องความคิดเห็นของท่านประธานเลย”

“ก็ได้ ถ่ายรูปฉันสิ”

“เอียงหน้ามาทางนี้หน่อยครับ ครับ แบบนั้นล่ะ”

ซุงฮุนจัดท่าให้วูจินจากนั้นใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป

“นายอัพโหลดไป ฉันไปล่ะ”

“ครับ ระวังตัวด้วย”

“แล้วก็ นายเลิกเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเถอะ มาเป็นเลขาฉันต่อดีกว่า พอเห็นคนอื่นทำแล้วมันแปลกๆ”

“...”

“ฉันเห็นนายต่อรองกับคนอื่นแล้ว ไม่เก่งเท่าไหร่นะ ฉันไม่คิดว่านายจะรุ่งด้านนี้”

พระราชา... ไม่ใช่ว่าท่านซื้อโทรศัพท์มือถือจากนักต่อรองที่ไม่เก่งคนนี้เหรอ? ท่านมีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ?

“เอาล่ะ ฉันไปจริงๆแล้ว”

“ครับ”

วูจินไม่ต้องไปถึงสถานีโซล เขาเปิดอุโมงค์มิติที่เชื่อมต่อกับอาณาเขตมิติแล้วหายตัวไป

“ตกลงว่าผมถูกเลื่อนตำแหน่งหรือลดตำแหน่ง?”

“อืม... ผมคิดว่ามันเป็นการเลื่อนขั้นนะ”

เขาเป็นหัวหน้าเลขานุการ ทำงานให้พระราชาของอลันดาลโดยตรง

วูซุงฮุนอัพโหลดรูปของวูจินลงบน SNS

***

-กิลด์อลันดาลกำลังรับสมัครเราส์คนใหม่!

-เรือโนอาห์แห่งโลกปัจจุบัน โอกาสเดียวในการได้สัญชาติอลันดาล

-ประเทศอลันดาลเจรจาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินสำเร็จ...

-ไม่จำกัดประเทศ แผนกสนับสนุนรับสมัครงาน ถ้ามีประสบการณ์ด้านเรือบรรทุกเครื่องบินมาก่อนจะพิจารณาเป็นพิเศษ

-ข่าวด่วน คังวูจินมี SNS ของตัวเองแล้ว!

...

บทความหลายบท ไม่สิ หลายร้อยบทความหลั่งไหลออกมา คำค้นหาที่เป็นที่นิยมต่างเกี่ยวกับคังวูจินทั้งนั้น

ซินดี้ถือโทรศัพท์พลางถอนหายใจ

จิตใจของเธอถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากสิ่งที่เกิดขึ้นในงานชุมนุมศิษย์เก่า เธอต้องพักงาน และพักผ่อนรับการบำบัดที่บ้าน

“ฉันควรจะสมัครไหมนะ?”

การเป็นนักแสดงหรือมีเงิน มันไม่มีความหาย

นี่คือโลกที่ความตายเกิดได้ทุกเมื่อ ยุคสมัยที่เงินสามารถปกป้องเราได้จากทุกอย่างมันจบไปแล้ว

ยิ่งกว่านั้น...

“ฉันจะได้เห็นเขาบ่อยกว่านี้ไหม?”

เธอนึกถึงคังวูจิน

ซินดี้เลื่อนสมุดโทรศัพท์ในโทรศัพท์มือถือไปที่ข้อมูลของโดจีวอน เธอกำลังจะกดโทรออกแต่แล้วก็ถอนหายใจ

“เฮ้อ ฉันต้องบ้าไปแล้ว”

เธออิจฉาโดจีวอน

“เฮ้อ ตั้งสติไว้สิตัวฉัน”

มีประโยชน์อะไรกับการตั้งเป้าหมายไปที่คนมีเจ้าของแล้ว?

เธอเพียงแต่หยุดคิดถึงเขาไม่ได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นหลงรักเขา

ใฝ่ฝัน?

มันคือความรู้สึกที่แฟนๆรู้สึกเมื่อมองเธอ เธอรู้สึกอย่างนั้นเมื่อมองวูจิน เธอไม่เคยให้ความสนใจผู้ชายคนไหนถึงขั้นนี้

เธอไม่ได้รู้สึกลึกซึ้งขนาดอุทิศชีวิตให้กับความรู้สึกชั่ววูบ เธอมีสติพอจะควบคุมตัวเองได้

“เฮ้อ ฉันควรจะเริ่มทำงานอีกครั้งดีกว่า”

ซินดี้โยนโทรศัพท์ลงบนหมอน หยิบน้ำเย็นหนึ่งขวดออกมาจากตู้เย็นแล้วดื่ม

“ฮ้า”

เธอรู้สึกสดชื่นเมื่อดื่มน้ำเย็นเข้าไป

ซินดี้หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาผู้จัดการ แต่แล้วร่างของก็แข็งทื่อ

[ฮัลโหล? ทำไมเหรอ ซินดี้]

เสียงของจีวอนดังผ่านโทรศัพท์ ซินดี้ทำตัวไม่ถูก


สารบัญ                                     บทที่ 156





3 ความคิดเห็น: