วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 118

บทที่ 118 – ซ้อมรบ


วูจินบีบคอเมโลดี้ทันทีที่เธอผ่านอุโมงค์มา

“อึก”

เหตุเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ทำให้เมโลดี้มองวูจินด้วยดวงตาสั่นไหว เขามองเธออย่างเย็นชา

“เธอรับใช้ใคร?”

“ผ...ผู้ไม่ตายโปรดเมตตา...”

เมโลดี้มองวูจินอย่างหวาดกลัว ดวงตานิ่งไร้ความรู้สึกของเขาคือดวงตาของผู้ไม่ตายที่เธอรู้จักดี เธอไม่อาจอ่านความรู้สึกจากดวงตาเขาได้ เธอไม่อาจมองเข้าไปในดวงตาของเขาได้

“พูด”

คอของเมโลดี้ถูกบีบ แม้แต่การหายใจเธอยังทำได้ลำบาก

“ม...ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็เป็นลอร์ดแห่งมิติเช่นกัน”

วูจินปล่อยมือ

“เฮือก”

เมโลดี้หายใจหอบ ผู้ไม่ตายปล่อยจิตสังหารเพียงชั่วครู่แต่แรงกดดันทำให้เธอหมดแรง

“งั้นเธอก็ไม่ใช่ข้ารับใช้ของลอร์ดแห่งมิติคนอื่น?”

“ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นเธอผ่านดันเจี้ยนมาได้ยังไง?”

เมโลดี้มาจากโลกอัลเฟน เธอใช้ดันเจี้ยนเป็นอุโมงค์เชื่อมโลกนั้นกับอาณาเขตมิติ

เธออยู่ในดันเจี้ยน แต่ไม่ถูกมอนสเตอร์โจมตี

เพราะเหตุนี้วูจินถึงคิดว่าเธอเป็นข้ารับใช้ของเจ้าของดันเจี้ยน

“ฉันเคยมีอาณาเขตมิติค่ะ”

“เคย? แล้วตอนนี้ล่ะ?”

“ถูกชิงไปแล้วค่ะ”

วูจินขมวดคิ้ว ดูท่าเรื่องจะยาว เขานั่งบนบัลลังก์

“พูดมาให้หมด”

“ฉันมาที่โลก...”

สหพันธ์ของอัลเฟนได้ชิ้นส่วนมิติมาหลังสละชีวิตนักรบไปมากมาย เมื่อรวมชิ้นส่วนมิติเป็นหลักฐานมิติ เมโลดี้ได้รับคำพยากรณ์จากเทพีของเธอและมุ่งตรงมาที่ดันเจี้ยนหนึ่ง

มันเป็นดันเจี้ยนไร้เจ้าของ และอัตราความเข้ากันได้ตรงกับเธอ เธอกลายเป็นลอร์ดแห่งมิติ

จากนั้น เธอต้องการชิ้นส่วนมิติอีกหนึ่งชิ้นเพื่อเชื่อมต่อมาที่ดันเจี้ยนบนโลก แต่ระหว่างช่วงคุ้มครอง 30 วัน เธอเตรียมอาณาเขตของเธอไม่พร้อม เกิดสงครามมิติหลายต่อหลายครั้งจนเธอแพ้

ค่าของการแพ้นั้นสูงมาก

ทางเข้าดันเจี้ยนที่เชื่อมไปยังอัลเฟนถูกชิงไป

เมโลดี้ถูกขังในอาณาเขตมิติของเธอเอง เธอสามารถสู้ต่อเพื่อชิงดันเจี้ยนกลับมา หรือหาชิ้นส่วนมิติอื่น มีแค่สองทางเลือกนี้

แต่เธอไม่มีความสามารถด้านการจัดการอาณาเขต อาณาเขตของเธอเริ่มเสื่อมถอยและอันดับของเธอก็ร่วงลง

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอจะไม่สามารถกลับไปอัลเฟนได้ เธอกำลังจะกลายเป็นผู้เร่ร่อน ดังนั้นเธอจึงถามเทพี

‘บนโลกมีผู้ช่วย’

เมโลดี้เชื่อในคำพยากรณ์ เธอจึงหลักฐานมิติ เธอสมัครใจเลิกเป็นลอร์ดแห่งมิติ ต้องใช้ชิ้นส่วนมิติ 3 ชิ้นในการรวมเป็นหลักฐานมิติแต่หลังจากถูกทำลายกลับได้คืนมาเพียง 2 ชิ้น

เมโลดี้ใช้ชิ้นส่วนมิติ 1 ชิ้นซื้อดันเจี้ยนแห่งหนึ่งจากร้านค้าแห่งมิติ

เธอไม่ใช่ลอร์ดแห่งมิติอีกต่อไป แต่อยู่ในกลุ่มของเจ้าของมิติ เธอทิ้งอาณาเขตมิติของตัวเองเพื่อมาที่โลก

เธอซื้อดันเจี้ยนทำให้ดันเจี้ยนสถานีใต้ดินแห่งหนึ่งของอเมริกาถูกรีเซ็ท และกลุ่มแรกที่เจอเธอคือกิลด์ไททัน

“หืม”

หลังจากฟังเมโลดี้ วูจินหยิบหลักฐานมิติของเขาขึ้นมา

<หลังจากทำลาย คุณจะได้รับชิ้นส่วนมิติ (2)>

<ระดับของคุณจะถูกลดจาก ‘ลอร์ด’ เป็น ‘พลเมืองอิสระ’>

เมโลดี้ก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมหลังจากพูดจบ

วูจินมองเธอ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็หมายความว่าเธอไม่ใช่ข้ารับใช้ของลอร์ดแห่งมิติคนไหน

“ก็ได้ ฉันจะเลิกสงสัยเธอ”

“ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันอธิบายค่ะ”

วูจินได้ความรู้ใหม่ นั่นคือบอสตัวแรกที่โผล่มาเมื่อเกิดดันเจี้ยนรีเซ็ท

‘นั่นคือเจ้าของดันเจี้ยน’

ถ้าเจ้าของดันเจี้ยนป้องกันดันเจี้ยนครบ 30 วันจะสามารถออกมาได้ นี่คือสิ่งที่คนบนโลกเรียกว่าดันเจี้ยนเบรก

แต่ที่น่ากลัวคือลอร์ดแห่งมิติไม่มีช่วงห้าม 30 วัน พวกนั้นสามารถส่งมอนสเตอร์ออกมาเมื่อไหร่ก็ได้

ที่ถูกคือ ลอร์ดแห่งมิติสามารถอนุญาตให้ประชากรในอาณาเขตออกล่า ไม่ได้มีแต่มอนสเตอร์ที่ถูกส่งออกมา

“ด้วยความเคารพ... การป้องกันของอาณาเขตต้องเข้มแข็งค่ะ ท่านจ้าว”

“มีคิบะอยู่ และกองทัพผีดิบด้วย น่าจะพอ”

วูจินมั่นใจว่าเขาสามารถขับไล่กองทัพที่บุกเข้ามาได้หมด แต่เมโลดี้ส่ายศีรษะด้วยสีหน้ากังวล

“หลังผ่านช่วงคุ้มครองไป คำขอท้ารบจะถูกส่งมานับไม่ถ้วน... ตอนนั้นคุณจะไม่สามารถใช้กองทัพผีดิบได้ค่ะ”

“...?”

วูจินมองอย่างสงสัยเต็มที่ เมโลดี้พูดต่อ

“การป้องกันที่คุณมีตอนนี้แค่ใช้กับผู้มาเยือนค่ะ”

ตอนสู้กับลอร์ดอื่น สงครามจะเกิดในอาณาเขตที่ต่างไป กองรบธรรมดาใช้ไม่ได้

ตอนสู้กับศัตรูที่ผ่านดันเจี้ยนมา ลอร์ดสามารถใช้กองกำลังอะไรก็ได้ที่มีอยู่ และพลังส่วนตัวของลอร์ดเองก็ใช้ได้ แต่ในการรบระหว่างมิติจะมีกฎที่ต่างไปเล็กน้อย

“มันเหมือนหมากรุกค่ะ”

ตอนแรกเมโลดี้ไม่รู้ ในระหว่างที่เธอสับสนเธอก็เสียอาณาเขตและพลังงานอาณาเขตไปทีละน้อย เมโลดี้เป็นห่วงว่าวูจินจะเจอแบบเดียวกับเธอ

ลอร์ดคนใหม่มีช่วงคุ้มครอง 30 วัน และเขาต้องสร้างการป้องกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“คุณต้องรวบรวมตัวหมาก”

“หืม อธิบายที่เธอรู้มาให้หมด”

“สำหรับลอร์ดแล้ว สงครามมิติคือเกมและสงครามการปล้นชิง...”

มีแต่ลอร์ดที่สามารถเข้าร่วมในสงครามมิติ มันเหมือนการแข่งขันหมากรุกที่ลอร์ดใช้ทรัพยากรในอาณาเขตเพื่อเล่นเกมสงคราม

“คุณอยากเข้าร่วมการซ้อมรบไหมคะ?”

“ซ้อมรบ?”

เมื่อวูจินนึกถึงการซ้อมรบ เมนูก็โผล่ขึ้นมา

<คุณสามารถฝึกในสงครามมิติจำลอง>

“ก็ได้ ลองซักครั้ง”

<กรุณาเลือกจำนวนพลังงานที่จะใช้เป็นเดิมพัน 10,000 20,000 30,000...>

จำนวนเดิมพันเพิ่มทีละ 10,000 เมื่อวูจินเลือก 10,000 จอหนึ่งก็โผล่ขึ้นมา

<กำลังเลือกคู่ต่อสู้ คุณถูกจับคู่กับเคานต์ลิตอนจากเผ่ามนุษย์>

ขุนนางผู้มีหนวดขาวสะดุดตาปรากฏในหน้าจอ มีข้อมูลคร่าวๆให้เห็น แล้วภาพตรงหน้าวูจินก็เริ่มขยายออก

เหมือนตอนที่เขาสร้างสิ่งก่อสร้าง เขามองเห็นทั้งอาณาเขตเหมือนกำลังมองลงมาจากท้องฟ้า

<กำลังเลือกสนามรบ ที่ราบเลเทรียถูกเลือก>

ที่ราบขนาดเท่าอาณาเขตของวูจินถูกเลือกขึ้นมา มันกว้างแต่มีหลุมนับไม่ถ้วนอยู่ตามที่ต่างๆ

<พลังงานถูกส่งไปที่ที่ราบเลเทรีย>

พลังงาน 10,000 หน่วยถูกดึงจากวูจินและเคานต์ลิตอน พลังงาน 20,000 หน่วยกลายเป็นต้นไม้เลือดและบลัดสโตนตามที่ต่างๆ

<การซ้อมรบระหว่างคุณกับเคานต์ลิตอนเริ่มขึ้นแล้ว>

<คุณจะไม่เสียพลังงานที่ใช้ในการซ้อมรบ>

<ผู้ชนะในการซ้อมรบจะไม่สามารถชิงสิทธิ่จากอีกฝ่ายได้>

วูจินลบข้อความที่โผล่มาเป็นแถวไปแล้วสำรวจสนามรบ

เขาได้มองทั้งสนามแค่ชั่วครู่ จากนั้นเขารู้สึกเหมือนตกลงมาและภาพก็หดลงไปที่จุดเดียว

“ท่านลอร์ดโปรดบัญชาการ”

ตรงหน้าวูจินมีซูซุนอัคกับเผ่าโฮอินอีก 4 คนยืนเรียงแถว วูจินยกมือขึ้นและเห็นขนสีเหลือง มันเป็นแขนของผู้คนเผ่าโฮอิน

‘สิงร่าง?’

วูจินเอียงคองง มองโฮอิน 4 นายตรงหน้าเขา เมื่อเขาคิดสิงโฮอินคนอื่น ภาพก็เปลี่ยนไป

“อึก”

วูจินมองร่างที่เขาเพิ่งสิงไป

“ท่านลอร์ดโปรดบัญชาการ”

วูจินขมวดคิ้ว

‘เหมือนจะรู้แฮะว่านี่มันเรื่องอะไร’

มีโฮอิน 5 คนรวมที่วูจินกำลังสิงอยู่ เขาสามารถควบคุมโฮอินคนไหนก็ได้ โชคดีที่เขาคุ้นกับการเปลี่ยนวิญญาณกับกาเกบิจึงปรับตัวได้เร็ว

วูจินมองรอบๆและเห็นอาคารเก่าๆอยู่ไม่ไกล มันมีหอคอย 3 ชั้น ปราสาทเล็กๆจนไม่เหมือนปราสาทนี้มีขนาดเท่าบ้านพักตากอากาศ

เมื่อวูจินจ้องไป เขารู้สึกมึนวูบหนึ่งและวิญญาณเคลื่อนไป เขาอยู่ในปราสาทนั่งบนบัลลังก์ แม้จะอยู่ในตัวอาคารแต่เขาเห็นข้างนอกได้

เขามองที่เผ่าโฮอิน 5 คนยืนเตรียมพร้อมหน้าปราสาท ตัวเลขเหมือนคุ้นแต่ไม่คุ้นติดบนมุมหนึ่งของภาพ

[บลัดสโตน 100 ประชากร 5/10]

วูจินเข้าใจขึ้นมารางๆ

‘คาออส?’

นี่มันเหมือนเกมที่เขาเคยเล่นสมัยเรียนเลยไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ มันเป็นคนละประเภท

‘เหมือนเกมแนววางแผนเลยนี่?’

มีตึกต่างๆที่เหมือนเป็นฐานทัพ เราต้องส่งคนงานไปรวบรวมทรัพยากรเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่ม จากนั้นก็สู้กับศัตรู...

“ไปรวบรวมต้นไม้เลือดมา”

“รับบัญชา”

วูจินอยู่ในปราสาท แต่เขาได้ยินเสียงของโฮอินข้างนอกเหมือนพวกเขากำลังพูดอยู่ต่อหน้า ระหว่างนั่งบนบัลลังก์ วูจินเจอว่าเขาสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างประเภทต่างๆได้

[กระท่อม, ฟาร์ม, ต้นไม้ล่อมอนสเตอร์, สนามฝึกออร์ค, รังไวเวิร์น...]

วูจินพยักหน้าพลางมองสิ่งก่อสร้างที่เขาสร้างได้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเมโลดี้ถึงเรียกนี่ว่าเกมหมากรุก

ยูนิตและสิ่งก่อสร้างที่ใช้ในสงครามมิติคือสิ่งที่เขามีในอาณาเขตมิติ

ระหว่างรบเขาไม่สามารถใช้ร้านค้าแห่งมิติได้ ดังนั้นจึงต้องมีของพวกนี้ไว้ก่อน

พลังงานมีทั่วไปในที่ราบ แต่วูจินสร้างเหมืองขุดบลัดสโตนไม่ได้ และอาคารฝึกทหารเขาก็สร้างได้แต่สนามฝึกออร์คกับรังไวเวิร์น สนามฝึกออร์คใช้บลัดสโตนไม่มาก แต่รังไวเวิร์นต้องใช้มาก

‘สร้างรังจะไม่คุ้ม’

กว่าเขาจะเก็บบลัดสโตนพอสร้างรังไวเวิร์นได้สักรังก็คงถูกโจมตีก่อนและแพ้

วูจินตัดสินใจสร้างคนงาน (พลังงาน 50 หน่วย) ที่สามารถสร้างได้ในปราสาท ไม่นานคนงาน 2 คนก็ออกจากปราสาทไปยืนตรงข้างนอก

วูจินเพิ่มสองคนนั้นไปเป็นกลุ่ม 7 คน เขาสั่งให้ไปรวบรวมต้นไม้เลือด พวกเขาทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ตอนนี้เขามีบลัดสโตน 500 ก้อน เขาสั่งให้คนงานสร้างสนามฝึกออร์ค

สองคนถูกส่งไปสร้างสนามฝึกออร์คใกล้ปราสาท

ระหว่างนั้น คนงาน 5 คนยังเก็บต้นไม้เลือดง่วน ระหว่างสนามฝึกออร์คกำลังสร้าง วูจินสร้างคนงานเพิ่มอีก 3 คน

<จำนวนประชากรมาถึงขีดจำกัด กรุณาสร้างกระท่อม>

“เฮ้อ... ไม่ได้ทำแบบนี้มานาน แต่น่าหงุดหงิดชะมัด”

วูจินหงุดหงิด เขามีกองทัพผีดิบเป็นหมื่นแต่ใช้ไม่ได้

“พวกมันทำบ้าอะไรกัน?”

ทำไมลอร์ดแห่งมิติถึงเล่นเกมนี้? ทำไมถึงเดิมพันพลังงานเพิ่มลำดับให้ตัวเอง?

ขณะวูจินทำใจให้เย็นลง กระท่อมก็ถูกสร้างเพิ่ม

ขีดจำกัดประชากรของเขาเพิ่มเป็น 20 และสนามฝึกออร์คก็แล้วเสร็จ

กำลังทหารที่วูจินฝึกได้เป็นเช่นเดียวกับที่อยู่ในอาณาเขตมิติของเขา เขาสั่งสร้างทหาร 2 นาย ออร์คตนหนึ่งเปิดประตูเข้าไปในสนามฝึก

เวลาฝึกทหารยาวกว่าเวลาสร้างคนงาน 5 เท่า 10 นาทีผ่านไป

วูจินขมวดคิ้วรอทหารออร์คออกมา

<ทหารออร์ค : 50 หน่วยพลังงาน นักรบออร์ค  : 150 หน่วยพลังงาน>

‘จะเตรียมทุกอย่างในช่วงคุ้มครองคงยาก’

ในสงครามจริง เขาคงไม่สามารถทำสงครามโดยมีแค่สนามฝึกออร์คกับรังไวเวิร์น เหมืองขุดบลัดสโตนก็จำเป็นต้องมี

มีสิ่งก่อสร้างพื้นฐานที่อาณาเขตต้องการเยอะมาก

เขาต้องหาวัตถุดิบจำนวนมากเพื่อใช้ในสงครามมิติ

ทักษะและกลยุทธ์ของกองทัพเอามาใช้ในสงครามไม่ได้เพราะไม่มีในอาณาเขตมิติของเขา เขายังต้องลงทุนวิจัยด้านสิ่งก่อสร้างด้านกองทัพเพื่อสิ่งก่อสร้างที่ยังสร้างไม่ได้

เหลือเวลาอีกแค่ 6 วัน

เขาไม่แน่ใจว่าถึงตอนนั้นเขาจะมีกำลังพื้นฐานพร้อมไหม...

10 นาทีผ่านไป ออร์คเดินออกมาจากสนามฝึก เป็นทหารร่างกำยำถือหอก

เมื่อได้ทหารออร์คมา 3 นาย วูจินเห็นทหารราบของเคาน์ตลิตอน 7 นายกำลังใกล้เข้ามา พวกเขาถือดาบ,โล่และเกราะหนัง ดูน่าเกรงขาม

“นี่มันน่าหงุดหงิดจริงๆแฮะ”

มันเหมือนเขาถูกมัดมือเท้า

วูจินมีทหารออร์คให้ใช้เพียง 3 นาย


สารบัญ                                  บทที่ 119

------

กลายเป็นยูริไปซะแหล่ว TwT

แนะนำการ์ตูนค่ะ  Solo leveling อ่านแล้วนึกถึงนิยายเรื่องนี้เลย :D ภาพสวย พระเอกหล่อดี XD

5 ความคิดเห็น:

  1. วูจินน่าจะไม่ชอบเกมแนวRTSนะ 5555 เมโลดี้นี่ก็ศรีทนได้เหลือเกินเป็นที่รองมือรองเท้าตลอด ขอบคุณคนแปลสำหรับตอนใหม่นะครับ ขอให้สนุกกับวันหยุดนะครับหรือถ้าไม่ได้หยุดก็ขอให้งานจบไวๆ สุขสันต์วันสิ้นปีและปีใหม่ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณค่า :D สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันค่ะ

      ลบ
  2. เหมือนสตาร์คราฟเลย5555

    ตอบลบ