หัวหน้ากิลด์อลันดาล คังวูจิน และประธานาธิบดีของประเทศเกาหลี คิมบย็องแมน ยืนหันหน้าเข้าหากัน ประธานาธิบดียกมือขึ้น
“ผมประธานาธิบดีคิมบย็องแมน”
“เอ๋? ดาราตลกเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ ชื่อเหมือนกันน่ะ”
วูจินเสียมารยาท แต่บย็องแมนหัวเราะแล้วปล่อยผ่านไป วูจินยิ้มขณะจับมือกับประธานาธิบดี
“ฉันนึกว่านักการเมืองทำตัวน่าสงสัยทุกคนเสียอีก นายไม่เลวนี่”
“หือ? ถ้าคุณรู้จักผม คุณจะรู้ว่าผมน่าสงสัยใช้ได้เลยล่ะ”
วูจินส่ายหน้า วิญญาณของบย็องแมนไม่บริสุทธิ์เหมือนของจีวอน แต่ยังเป็นสีสว่าง อย่างน้อยมันหมายความว่าเขาเป็นคนมุ่งมั่นเหมือนฮีซอล
เขาไม่สนใจว่าชายคนนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องเสียหายอะไรหรือไม่ ที่สำคัญกว่าคือหาว่าความมุ่งมั่นของเขาพุ่งไปที่ไหน ถ้าเหมือนฮีซอลที่ยึดมั่นเรื่องรับใช้ชาติก็เยี่ยม...
“ฉันไม่บอกว่านายนิสัยแย่แค่ไหน นั่งเถอะ”
“ฮ่าๆ คุณเหมือนที่ผมได้ยินมาเลย ตรงมาก”
ประธานาธิบดีกับวูจินนั่งบนโซฟา เขามารยาทแย่มากกว่าเป็นคนตรง เสนาธิการทำเนียบหน้าตึง แต่ไม่ขยับ ถ้าเขาขยับอาจถูกเห็นว่ากำปั้นของเขากำลังสั่นด้วยความโกรธ
“นายได้ยินมามากแค่ไหน?”
“อะไรนะ?”
“ฉันแน่ใจว่านายสืบเรื่องฉันมาแล้ว”
“...”
คิมบย็องแมนหัวเราะ เส้นทางการเมืองของเขาไม่สั้น แต่เขาแทบไม่เคยคุยกับอีกฝ่ายที่ตรงมากและรวบรัดขนาดนี้มาก่อน
คนพวกนี้คือคนอายุน้อยอวดดี คนที่แสดงอารมณ์ตรงไปตรงมา พวกเขาถือว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก เชื่อว่าตัวเองนั้นซื่อสัตย์จริงใจ
แต่วูจินไม่ใช่
เขามีอำนาจทำให้คำพูดของเขามีน้ำหนัก
“คุณหมายถึงคังวูจินคนไหน”
“โฮ่ นายรู้เรื่องฉันที่อัลเฟนด้วยเหรอ?”
คิมบย็องแมนพยักหน้าโดยไม่ลังเล เขารู้สึกว่าถ้าปิดบังเรื่องนี้ไปเขาจะไม่ได้อะไรเลย
“ผมรู้เท่าที่คนส่วนใหญ่รู้”
เกาหลีใต้พยายามอย่างหนักเพื่อหาข้อมูลของคังวูจิน เขาเป็นเราส์ที่เกิดในประเทศนี้ แต่กลับไม่มีข้อมูลของเขาอยู่เลย ซ้ำยังถึงขั้นที่ประเทศไม่สามารถควบคุมเขาได้ง่ายๆ
วูจินยิ้มเหมือนบอกให้อีกฝ่ายพูด คิมบย็องแมนว่าต่อ
“คุณถูกเรียกตัวไปเมื่อ 5 ปีก่อน และกลับมาหลังจากอยู่ที่อัลเฟนนาน 20 ปี พลังที่คุณมีได้มาจากช่วงเวลานั้น”
“อย่างอื่นล่ะ?”
“ไม่เจออะไรนอกไปจากนี้จริงๆ...”
วูจินยักไหล่แล้วเอนหลังจมไปในโซฟา คิมบย็องแมนกลืนน้ำลายนั่งหลังตรง
“นายคิดว่าฉันมาที่นี่ทำไม?”
“เราเฝ้าขอให้กิลด์ของคุณเป็นกิลด์ป้องกันประเทศ คุณมาที่นี่เพราะจะเจรจาไม่ใช่เหรอ?”
วูจินส่ายหน้า
“ฉันมาแก้แค้น อีกอย่างฉันมาเตือนและมีข้อเสนอให้นาย”
“...”
วูจินวางเอกสารลงบนโต๊ะ
***
พวกเขาใกล้ถึงอาคารรัฐสภาเต็มที ในที่สุดวูซุงฮุนก็รู้สึกว่าหัวใจที่หดเล็กของตัวเองกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาเหลือบมองวูจินทางกระจกหลัง
“ขอโทษนะครับท่านประธาน”
“หือ อะไร?”
“จะทำจริงๆเหรอ?”
“หา?”
“ผมพูดถึงบัญชีแค้น”
วูจินยิ้มเยาะ
“นายอยากให้ฉันยกโทษให้เหรอ พวกมันจะเอาชีวิตฉันนะ”
“ท่านสัญญากับรองประธานไว้ไม่ใช่เหรอครับ?”
เรื่องอื่นเขาไม่รู้ แต่วูจินเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ เขาพูดไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีเลือดตกยางออกที่รัฐสภา...
“ฉันแค่ต้องเลี่ยงไม่ให้มีเลือดที่รัฐสภา”
“...!”
อะไรนะ! หมายความว่าเขาจะแก้แค้นทีหลังเหรอ? ซุงฮุนหน้าเครียด
“เฮ้ ซุงฮุน”
“ครับท่านประธาน”
“ไม่ต้องกลัว”
“...”
สถานการณ์เลวร้ายสุดๆ
ซุงฮุนหน้าเครียดเมื่อวูจินเริ่มมองไปรอบๆ อาคารรัฐสภาเสียหายจากดันเจี้ยนระเบิดครั้งแรก แต่ถูกซ่อมอย่างรวดเร็ว
ยิ่งกว่านั้น 20% ของจำนวนทหารที่ป้องกันโซล ป้องกันที่นี่อยู่
“ถึงแล้วครับ”
หลังจากผ่านจุดตรวจ วูจินลงจากรถ ชายในชุดสูทคนหนึ่งเดินมาหาเขาและทักทาย
“ผมลีคังจิน”
“คังวูจิน”
“จู่ๆผมก็ถูกเรียกให้มาที่นี่ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอ?”
หน้าเขาเต็มไปด้วยคำถาม
วูจินขอให้ประธานาธิบดีส่งผู้พิพากษาที่มีความรู้เกี่ยวกับบรรดานักการเมืองมาให้ ดูท่าลีคังจินจะเป็นคนๆนั้น
“อืม เดินไปกับฉันก่อน”
ลีคังจินเดินตามวูจิน เขารู้ดีว่าจะสภาจะเริ่มการชี้แจง แต่ทำไมเขาถึงต้องมาอยู่ที่นี่...
“ฉันอยากได้คำแนะนำจากนาย”
“เรื่องไหนครับ?”
วูจินส่งเอกสารให้ ลีคังจินรับมาด้วยความสงสัย เขาอ่านเอกสารแล้วเดาะลิ้น
“พวกทุเรศ เล่นถึงขั้นข้ามประเทศเลยทีนี้”
ผู้พิพากษาของเมืองโซล ลีคังจิน เล่าลือกันว่าเขาเป็นหมาบ้า ไม่มีนักการเมืองคนไหนที่เขาละเว้น เขามีชื่อเสียงไม่น้อยด้านการสืบสวน
ความสามารถด้านการสืบสวนของเขาโดดเด่นขนาดส่งสมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่งในสี่เข้าคุกไปเมื่อสามปีก่อน
เอกสารเต็มไปด้วยชื่อที่เขารู้จัก รายชื่อเหล่านี้อยู่ในรายชื่อนักการเมืองคอร์รัปชั่นของเขา
จากเอกสาร นักการเมืองบางคนจงใจทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรก ทำให้คนในประเทศตกอยู่ในอันตราย ยังมีคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการก่อการร้ายที่เกิดในสหรัฐอเมริกา
เขาเห็นภาพคร่าวๆแล้ว การขุดคุ้ยเรื่องสกปรกของสมาชิกสภาเป็นความสามารถพิเศษของเขา
ทำไมประธานาธิบดีถึงเจาะจงตัวเขา ทำไมเขาถึงถูกส่งมาให้คังวูจิน?
คังวูจินต้องการอะไรจากเขา?
“คุณอยากให้ผมแนะนำเรื่องอะไร?”
“ฉันจะฆ่าไอ้ 5 คนนี้แน่ๆ นอกจากพวกนี้ ฉันสงสัยว่าจะฆ่าคนไหนอีกดี ฉันต้องการคำแนะนำจากนาย”
เอ๋? เขาเดาไม่ได้เลยว่าจะเป็นเรื่องนี้
ลีคังจินหยุดเดินแล้วมองวูจินอึ้งๆ
ชายคนนี้คิดจะทำอะไร?
***
วูจินถึงหน้าห้องประชุม ลีคังจินกับวูซุงฮุนตามมาในฐานะผู้ช่วย
คนที่นั่งประจำที่มีสีหน้าไม่พอใจ
ชายคนนี้ทำให้เกิดการประชุม พวกเขาไม่ว่างต้องทำงานเพื่อประเทศแล้วทำไมชายคนนี้ถึงมาสายนัก?
ก่อนประธานการประชุมจะพูด ชอยเทโอก็ยืนขึ้นแล้วตวาด
“คุณเห็นสภาเป็นเรื่องตลกเหรอ?”
ก็ใช่น่ะสิ คังวูจินมองไปรอบๆ แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้บนเวที เขาไม่ได้นั่งตรงนี้เพื่อรับการไต่สวน ตรงนี้ทำให้เขามองเห็นทุกคน
ขณะวูจินนั่งที่ เขามองหน้าทุกคน ไม่ใช่แค่นักการเมือง เขามองกระทั่งผู้ช่วยและนักข่าว...
วูจินเลือกคนสำหรับส่งเงาของเขาไปติดตามไว้แล้ว 5 คน
5 คนที่เขาเลือกมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับลีซังโฮ พวกเขาเป็นคนวางแผนลอบสังหารเขา ชอยเทโอก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ฮะ ได้ยินหรือเปล่า? กรุณาตอบคำถามด้วย”
ชอยเทโอนึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้าเมินเขา เขาตะโกนจนเห็นเส้นเอ็นที่คอเต้นตุบๆ แต่คำพูดของเขาส่งไปไม่ถึงวูจินเลยด้วยซ้ำ วูจินนั่งเปิดเอกสารไปทีละหน้าพลางเปรียบเทียบรูปถ่ายกับตัวจริง
รูปถ่ายของพวกเขามีเครื่องหมายกากบาทอยู่ข้างๆ ลีคังจินเป็นคนกา
‘เจ้านี่ไม่ต้อง’
ในนี้มีพวกสวะมากมาย แต่เขาไม่จำเป็นต้องฆ่าทั้งหมด เขาเจาะจงที่กลุ่มหนึ่งซึ่งจ้องจะเอาชีวิตเขา
วูจินมาแก้แค้น ไม่ใช่มาล้างบางสภา เขาไม่สนว่าพวกเขาทำเรื่องสกปรกอะไรบ้าง แต่เขาเพิ่มชื่อบัญชีแค้นตามคำบอกของลีคังจิน เขากำลังช่วยทุกคน
‘เยอะจริง’
เขาตรวจรายชื่อ มันเกือบครึ่งของสภา หลังจากมองหน้าทุกคนแล้ววูจินก็ยืนขึ้น เขาจำหน้าพวกที่เขาต้องฆ่าไว้แล้ว
“ออกไปกันเถอะ”
“อ้าว? เสร็จแล้วเหรอครับ?”
“ฉันแค่ต้องจำหน้าคนที่ต้องฆ่า”
วูจินกำลังจะจากไปกับลีคังจินและซุงฮุน แต่ชอยเทโอตะโกน
“เฮ้ย คิดจะไปไหนน่ะ!”
เมื่อคังวูจินยืนขึ้น สภาก็วุ่นวาย พวกเขารอมาตั้งนานแต่เขาจะไปแล้ว เพิ่งมาถึงเองไม่ใช่เหรอ?
ผู้ช่วยวิ่งไปทางวูจิน
“กรุณากลับไปนั่งที่เดิมด้วยครับ”
“ทำไม?”
“อะไร? เราต้องเริ่มการชี้แจงไม่ใช่เหรอ?”
“อ้อ การชี้แจง”
พวกเขาพยายามจะยืนยันอะไรสักอย่างกับเขาสินะ? น่าจะเรื่องพยายามให้เขาเข้าร่วมในกิลด์ป้องกันที่เขาไม่คิดจะทำ
คำพูดของชอยเทโอถูกเพิกเฉยเช่นเดิม เขาจึงนั่งลงหอบหายใจ
‘คอยดูแล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น’
ชอยเทโอตั้งใจจะออกข่าวเรื่องเลวร้ายของวูจิน ที่ผ่านมาวูจินฝ่าฝืนกฎหมายหลายข้อ
วูจินหยิบไมโครโฟนที่วางบนโต๊ะบนเวทีขึ้นมาแล้วพูด
เขาพูดกับสภา ไม่ ที่จริงแล้วเขาพูดกับกล้องและนักข่าว
“ฉันจะไม่ทำกิลด์ป้องกันประเทศหรืออะไรพวกนั้น เพราะอย่างนั้นเราไม่จำเป็นต้องมีการชี้แจง แต่ฉันจะบอกอะไรให้”
คำพูดของวูจินทำให้สภาวุ่นวายอีก แต่เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ
“พวกคนที่เกี่ยวข้องกับการยิงจรวดก่อการร้ายที่คิดจะฆ่าฉัน คนที่จงใจทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรก และคนที่คิดว่าเราไม่ต้องสู้กับมอนสเตอร์สมควรฟังคำเตือนของฉันไว้”
“พูดบ้าอะไร!”
“อวดดีนัก!”
วูจินเมินเสียงตะโกนของสมาชิกสภาแล้วพูดต่อ
“ข้อมูลที่เชื่อถือได้ถูกส่งไปให้สื่อมวลชนแล้ว...”
“ไร้สาระ!”
“นี่มันไร้สาระทั้งนั้น พวกเราไม่ต้องไปฟัง”
“คุณคิดว่าอยู่ที่ไหนน่ะหา!”
วูจินขมวดคิ้ว เสียงตะโกนกลบเสียงพูดของเขา เอาล่ะ ทำให้พวกนี้เงียบลงดีกว่า...
ควันดำลอยจากด้านหลังวูจิน และอัศวินมรณะ 53 ตนถูกเรียกออกมา ชอยเทโอตะโกน
“คุณคิดว่ากำลังทำอะไรในรัฐสภาอันศักดิ์สิทธิ์นี่!”
กฎหมายห้ามใช้ความสามารถของเราส์ในรัฐสภา
“คุณคังวูจินฝ่าฝืนกฎหมายเราส์มาตราที่ 1 บรรทัดที่ 16 คนเช่นนี้สมควร...”
เขาพูดต่อไม่ได้ เหมือนพลังบางอย่างกดเขาเอาไว้ มันเป็นผลงานของเงากาเกบิที่วูจินส่งไปติดตามชอยเทโอ ทักษะเงาเลเวลต่ำ เรียกว่า ยึดร่าง
วูจินหยิบไมโครโฟนใหม่
“เงียบจนได้ ฉันส่งข้อมูลไปให้สื่อมวลชนเพื่อให้คนรู้ว่าทำไมพวกนายถึงต้องตาย ฉันจะไปรอข้างนอกล่ะ”
วูจินออกไปจากห้อง ไม่มีใครขวางทางเขา อัศวินมรณะเป็นคนเปิดทางเหมือนกำลังคุ้มครองวูจิน
สมาชิกสภายังโกรธไม่หายแม้แต่ตอนพวกเขาออกไป
“กล้ามาจากไหน! คุณเห็นไหม? เห็นไหม?”
“เราจะยอมให้คนก้าวร้าวแบบนี้มาป้องกันประเทศได้เหรอ? เป็นไปไม่ได้”
“เอกสารนั่นต้องเป็นของปลอมแน่ เราต้องเนรเทศคังวูจิน”
ทุกคนต้องการให้คนอื่นฟังเสียงตัวเองจึงตะโกน มันเป็นความสับสนวุ่นวาย
วูจินไปถึงรถของเขา วูซุงฮุนพูดอย่างตื่นเต้นจนน้ำลายกระเด็น
“ท่านอดทนได้ดีมากครับ”
วูซุงฮุนรู้นิสัยวูจินดี เขาจึงคิดว่าตอนนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์
แต่ลีคังจินดูผิดหวังเล็กน้อย เขาดูข่าวจึงรู้เรื่องวูจินดี ในตะวันออกกลาง คังวูจินสังหารผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ปราณี
เขาอยากให้วูจินทำเรื่องใหญ่ๆที่นี่
‘น่าเสียดาย’
ลีคังจินเกลียดพวกสมาชิกสภาที่เกลือกกลั้วกับการเมืองสกปรกมาจนอยากให้วูจินทำอะไรไปแบบไม่ต้องยั้งมือ
“เอาล่ะ เริ่มกันเลยไหม?”
วูจินมองแถวอัศวินมรณะ
“เอาหัวของคนที่ฉันจำหน้าไว้มา”
[รับบัญชา]
อัศวินมรณะดูตื่นเต้น วูซุงฮุนตกใจกลัวขณะถาม
“ผ...ผมนึกว่าท่านบอกจะไม่มีการหลั่งเลือดในรัฐสภา?”
“เพราะอย่างนั้นฉันเลยออกมาข้างนอกนี่ไง”
“...”
คิดว่ารองประธานไม่ได้หมายความอย่างนี้นะ... ที่จริงเขาคงอยากให้เรื่องมันเกิดข้างในมากกว่ามาเกิดกลางแจ้ง แต่ดูเหมือนวูจินจะไม่สนใจ
“อัล”
[เจ้านาย]
อัศวินมรณะดาบคู่ อัล อัสสาด คุกเข่าตรงหน้าวูจินอย่างเชื่อฟัง ร่างเขาพันผ้าสีดำเหมือนคนคอสเพลย์เป็นแอสซาสซินจากเปอร์เซียโบราณ
“กาเกบิ”
[โฮ่ๆๆ เกมสนุกอีกแล้ว]
กาเกบิหัวเราะชั่วร้ายหลังจากอ่านความคิดของวูจิน กาเกบิกลืนเข้าไปในเงาของอัล อัสสาด แล้วพลังของพวกเขาก็รวมกัน
“จัดการพวกมันภายในคืนนี้...”
[รับบัญชา]
มีพวกนักธุรกิจที่อยู่ในบัญชีแค้นของวูจิน ร่างของอัล อัสสาดวูบไหวแล้วกลืนไปกับสภาพรอบๆ ระหว่างทำภารกิจเขาจะไม่ถูกเห็นตัวเพราะเขาใช้ทักษะท่าก้าววิญญาณและผ้าคลุมเงา
ลีคังจินปาดเหงื่อจากหน้าผากพลางมองวูจิน
‘เขาเอาจริงเหรอ?’
นี่ก็คือการพิพากษาแทนประเทศ ไม่มีทางถอย...
“กว่าพวกนั้นจะออกมาคงต้องใช้เวลา”
เหมือนว่าการรอเป็นเรื่องน่าเบื่อ วูจินใช้เวทย์จุดไฟ อืม ถ้าพวกเขาไม่อยากตายก็ต้องออกมาแล้ว
“ท...ท่านประธาน?”
ความกังวลในใจวูซุงฮุนยิ่งมากขึ้นทุกที
นี่มันเอาไม่อยู่แล้วนะ
“ไม่เป็นไรน่า ประธานาธิบดีจะสะสางเรื่องทีหลังเอง”
ลีคังจินเอียงคองง เขาทำข้อตกลงอะไรกับประธานาธิบดีนะ...
ลูกบอลไฟในมือคังวูจินถูกเขวี้ยงเข้าไปในอาคาร
เขากำลังรมควันโพรงกระต่าย ได้เวลาล่าแล้ว
เง้อ ตอนนี้แปลยาก >< รู้สึกงงๆว่าเรื่องงานสืบสวนนี่มันเกี่ยวกับผู้พิพากษาด้วยเหรอ?
สมกับเป็นคังวูจินจริงๆ
ตอบลบโหดสัสตามวูจินสไตล์ จากที่ตาวูจินอธิบายอัลเฟนนี่คงเหมือนนรกจริงๆทำให้คนเปลี่ยนไปขนาดนี้แต่ตอนจบคงไม่ใช่ว่าวูจินยึดครองโลกหรอกนะ(บทมันปูมา)
ตอบลบ